กรณีหน่วยข่าวกรองสืบทราบว่าจะมีแก๊งค้ายาเสพติด ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้ามาส่งให้กับพ่อค้ายาในพื้นที่ อ.ฝาง กระทั่งวันที่ 28 ธันวาคม 64 เวลาประมาณ 21.25 น. พ.ต.ต.พิบูลย์พันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตร สส.สภ.ฝาง หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด นำกำลังชุดสืบสวน ชุดปราบปรามยาเสพติด ออกสืบสวนหาข่าวเพื่อจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด แต่ขณะปฎิบัติการขับรถไปตามเส้นทางบ้านโป่งไฮ ถนนโชตนา พบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้าสีดำ ทะเบียน ยง 833 เชียงใหม่ ขับลงมาจากเส้นทางดังกล่าว จึงติดตามไปตามเส้นทางผ่านตู้ยามแม่สาว เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางบ้านสันปอธง
ขณะที่กำลังไล่ติดตาม แก๊งค้ายาเสพติดใช้อาวุธปืนสงครามยิงทะลุกระจกรถออกมาเข้าใส่พ.ต.ต.พิบูลย์พันธ์ ซึ่งนั่งมาทางด้านซ้ายของรถที่มี ด.ต.ยรรยงค์ อุตคำอ้าย ลูกชุดเป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บกระสุนเข้าบริเวณหน้าอกและขา เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่รพ.ฝาง ส่วนคนร้ายทิ้งรถไว้ก่อนหลบหนีไป พบเพียงกระสอบสีฟ้าภายในบรรจุเมตแอมเฟตามีน จำนวน 4,190,000 เม็ด
ล่าสุดวันที่ 29 ธ.ค.64 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และดูแลคดีด้วยตัวเอง โดยตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้
ทีมข่าวลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ จุดที่พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ ถูกยิงเสียชีวิต ถนนหมู่บ้านสันปอธง ต.สันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พบเป็นพื้นที่มีบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคา ซึ่งบนถนนมีรอยคราบเลือดติดอยู่ เช่นเดียวกับมีการทำสัญลักษณ์ จุดที่ปลอกกระสุนตกไม่ต่ำกว่า 10 จุด ขณะที่ชาวบ้านยังหวาดผวา
โดยเฉพาะนางแก้วตา (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ว่า เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.64) เวลา 21.00 น. ตนเห็นรถตำรวจขับไล่รถอีกคันมาแบบประกบคู่ คาดว่าจะเป็นคนร้าย ก่อนมีเสียงปืนยิ่งรัวสนั่นแบบนับไม่ถ้วน ตนได้ยินเสียงตำรวจบอกว่า “หยุด ๆ ลงมา ๆ” แต่เสียงปืนก็ยังดังต่อเนื่อง เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงพริบตาเดียว แต่ช่วงที่ตำรวจโดนยิง คนร้ายได้ใช้จังหวะนี้กลับรถที่ซอยข้างบ้านของตน
สำหรับตนมองว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก ๆ เพราะจริง ๆ แล้วแถวนี้ตนไม่เคยได้ยินเรื่องยาเสพติดมาก่อน แต่อีกอย่างตำรวจก็ไม่มีท่าทีที่จะยิงใส่คนร้าย หรือมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย นอกจากยิงยางรถและตะโกนให้มอบตัว ตนยอมรับว่าเห็นใจตำรวจ ปีใหม่แทนที่ได้ฉลองอยู่กับลูกเมีย แต่ตนก็เชื่อว่าไม่นานตำรวจจะต้องจับตัวคนร้ายได้
สำหรับพ.ต.ต.พิบูลพันธ์ ผู้เสียชีวิต ได้เสียชีวิตจากบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนทำลายเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณหัวใจและปอดฉีกขาด ในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.64) จะได้เคลื่อนศพไปทำพิธีรดน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลาหลวง วัดเจดีย์หลวง ต.พระสิงห์ จ.เชียงใหม่เวลา 17.00 น. และจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น.
ขณะที่ครอบครัวจะเคลื่อนศพกลับไปประกอบพิธีการทางศาสนาที่ศาลาหลวง วัดปัณณาราม (วัดต้นหนุน) จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 31 ธันวาคม 64 และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 8 มกราคม 65
นางสนองศรี สุขุมานนท์ อายุ 71 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยนายนิพัฒน์ สุขุมานนท์ อายุ 74 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต และลูกชายของผู้เสียชีวิตวัย อายุ 13 ปี เดินทางมาที่วัดเพื่อจัดเตรียมสถานที่ในการบำเพ็ญกุศล
นางสนองศรี เล่าด้วยสีหน้าและแววตาที่เศร้าหมองว่า ลูกชายรับราชการมา 20 ปี เริ่มเรียนตำรวจตั้งแต่ชั้นประทวน ขึ้นระดับจนเป็นรองผู้กำกับ ลูกชายมีความมุ่งมั่นตั้งใจ จะเอาอะไรต้องเอาให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ลูกชายไม่เคยชอบ จะบอกกับตนเสมอว่า "คนพวกนี้ชีวิตจะไปไม่รอด" ส่วนตนจะบอกลูกเสมอว่า "ให้ระวังตัวนะลูก ทำงานแบบนี้มันอันตราย" ตนจึงทำใจมาตลอด เพราะลูกทำงานเสี่ยง บางทีไปหลายวัน แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยต้องห่างลูก แม้ลูกนอนแฟลตตำรวจก็จริง แต่ลูกจะมากินข้าวฝีมือตนทุกวัน ถ้าไม่มาลูกจะโทรศัพท์มาบอกเสมอ
กระทั่งเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) ลูกไม่มากินข้าวด้วย และไม่โทรศัพท์มาบอกว่าไปไหน ตนรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงถามหลานชาย จากนั้นสายโทรศัพท์จากโรงพยาบาลดังขึ้น ตนแทบใจสลายเมื่อรู้ว่าลูกชายถูกยิง เพราะตนเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่พยายามเดินทางไปหาลูกชายที่โรงพยาบาลจนวินาทีสุดท้ายที่ลูกชายจากไป
"ในวันนี้ยอมรับว่าภูมิใจในหน้าที่การงาน แต่ลูกต้องมาตายในหน้าที่ เสียใจมากกว่าเพราะมันไวเกินไป ลูกชายตั้งใจทำอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวให้สบาย แต่วันนี้ไม่มีแล้ว ถ้าตำรวจจับคนร้ายได้ก็ขอให้ประหารชีวิตไปเลย และก็อยากเห็นหน้าคนที่ฆ่าลูกชายด้วย" นางสนองศรี กล่าว
ขณะที่นางชวิศา สุขุมานนท์ อายุ 44 ปี อดีตภรรยา กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้ตนจะต่างคนต่างอยู่ แต่ตนก็ยังเป็นห่วงและยังมีความรู้สึกดีให้กัน เพราะทุกวันนี้ก็ยังใช้นามสกุลอดีตสามี ตนเป็นพยาบาลอยู่ที่รพ.ฝาง จู่ ๆ พี่ร่วมงานก็โทรศัพท์มาบอกว่า "มาโรงพยาบาลด่วน บอลถูกยิงอาการไม่ไหวแล้ว” ตนทั้งช็อกและตกใจมาก ๆ จึงรีบพาแม่และลูกชายไปที่โรงพยาบาล ในที่สุดก็ไม่อาจยื้อชีวิตอดีตสามีได้ ตนก็ขออโหสิกรรมให้อดีตสามีทุก ๆ อย่างที่ตนได้ทำลงไป
อย่างไรก็ตาม อดีตสามีไม่ได้ฝากฝังอะไร เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูด ช่วงเวลาที่ตนรักกันเป็นช่วงที่มีความสุขมาก ๆ ตอนอยู่ด้วยกันตนก็เป็นห่วง เพราะอดีตสามีเป็นคนทุ่มเทและมุ่งมั่นมาก ๆ จะทำงานไม่เคยหยุด มีผลงานจับยาเสพติดเสมอ ๆ อีกทั้งที่ผ่านมาตนยกมือไหว้พระทุกวันให้คุ้มครองขอให้เขาปลอดภัย ทุกวันนี้ก็ยังภาวนาเหมือนเดิม แต่จากนี้ตนเชื่อว่าสามีจะได้อยู่ในภพภูมิที่ดี
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอสดุดีวีรกรรมของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจเสียสละจนวาระสุดท้ายของชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้เร่งติดตามล่าตัวผู้กระทำผิด มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ ให้ดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาการปูนบำเหน็จความชอบ และดูแลในเรื่องของเงินสวัสดิการ ช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ เพื่อเป็นการรักษา เยียวยา และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับความสูญเสีย ซึ่งกรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จะได้รับเงินสวัสดิการ 250,000 – 500,000 บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง ทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข และขอให้พี่น้องข้าราชการตำรวจทุกคน ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธีตำรวจ ไม่ประมาท คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
เจ้าหน้าที่บูรณาการลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านคนร้าย เข้าปิดล้อมบ้านจะโต๊ะ ม.9 ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จากการตรวจค้นไม่พบคนร้าย จากนั้นไปพบกระสอบสีฟ้า 1 ใบภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด ซึ่งเป็นกระสอบชนิดเดียวกับที่พบในจุดทิ้งยาเสพติด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้
สำหรับประวัติของ พ.ต.ต.พิบูลย์พันธ์ มือปราบยาชื่อดังอำเภอฝาง อายุ 49 ปี เกิดวันที่ 12 มกราคม 2515 จบการศึกษาอาชีวะศึกษาช่างอุตสาหกรรม (ช่างกลโลหะ) รุ่นที่ 48 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวน สภ.ฝาง