กรณีนางสาวดวงเดือน (นามสมมติ) ครูประจำชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ พาเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.(หญิง) เพ็ญนภา เศษวงค์ พนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี เนื่องจากเด็กถูกนายประมวล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเขียวช้ำและลงมือข่มขืนลูกในไส้
ทั้งนี้ ตามรายงานข่าว ระบุว่า เมื่อ 3 ปีก่อนแม่ของเด็กหญิงเอ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ป้าของเด็กจึงรับตัวเด็กไปเลี้ยงดูอยู่ที่ภาคอีสาน กระทั่งช่วงเดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมา นายประมวล พ่อของเด็กก็ได้เดินทางไปรับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย และภายในเดือนนั้น นายประมวล ก็ได้ก่อเหตุลงมือข่มขืนลูกสาวในไส้ อาจจะด้วยสาเหตุที่เมายาเสพติด พยายามที่จะมุดมุ้งเข้าหาลูกสาวหลายครั้ง ทำให้ปัจจุบันเด็กสาวกลายเป็นเด็กซึมเศร้า มีความเครียดสะสม ต้องกินยาแก้ปวดวันละ 5-9 เม็ด ทุก ๆ ครั้งที่ถูกทำร้าย
ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังโรงเรียนที่เด็กหญิงเอเรียนอยู่ ในเขตพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรี เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว แต่เนื่องจากเป็นวันสิ้นปี ทำให้โรงเรียนมีกิจจกรรมและเลิกการเรียนการสอนเร็วกว่าปกติ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวเด็กหญิงเอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และได้พาไปพักที่บ้านพักเด็กเป็นการชั่วคราว ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม 64) นายประมวล พ่อของเด็กหญิงเอ ยังไม่ได้พบกับตัวลูกสาว จึงได้ออกมาตามหาลูกสาว
ขณะนี้ ผลตรวจร่างกายและผลตรวจภายในของเด็กหญิงเอ ยังไม่ออกเป็นที่แน่ชัด แต่เบื้องต้นแพทย์คาดว่าน่าจะตรวจไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิด เนื่องจากระยะเวลาของการล่วงละเมิดนั้น ค่อนข้างที่จะผ่านมานานแล้ว และยังขาดพยานหลักฐานอื่น ๆ อีกมาก
ทีมข่าวได้เฝ้าดูความเคลื่อนไหวละแวกบ้านของเด็กหญิงเอ กระทั่งทีมข่าวพบว่านายประมวล ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน ทีมข่าวจึงได้เรียกนายประมวล ให้จอดรถเพื่อที่จะพูดคุย โดยนายประมวล กล่าวว่า ลูกสาวหายตัวออกจากบ้าน ตนจึงขี่รถออกตามหา ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (29 ธันวาคม 64) ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงมาก ๆ ในวันนี้ตนก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหาลูกสาวตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่พบตัว
สำหรับลูกสาวของตน เกิดและเติบโตที่อำเภอวิเชียรบุรี ส่วนตนและภรรยาอาจจะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด เพราะตนขับรถส่งของ ส่วนภรรยาทำงานโรงงานที่จังหวัดสระบุรี กระทั่งภรรยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่จังหวัดสระบุรี ทางครอบครัวของภรรยาจึงรับตัวลูกสาวของตนไปเลี้ยงดูที่ภาคอีสาน เนื่องจากตนยังต้องทำงาน จนต้นปี 64 ที่ผ่านมา ตนก็ได้ไปรับตัวลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยที่อำเภอวิเชียรบุรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่ลูกสาวกลับมาอาศัยกับตน ตนยอมรับว่ามีความไม่เข้าใจในตัวลูกสาวหลาย ๆ อย่าง เช่น สั่งสอนหรือพูดแล้วลูกไม่เชื่อฟัง อาจเป็นเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน 3 ปี จนทำให้ห่างเหินกัน บางครั้งตนก็อดไม่ได้ที่จะลงไม้ลงมือสั่งสอนลูก ซึ่งตนรู้ว่าทำเกินไป หนักสุดคือใช้เท้า แต่ไม่เคยใช้อาวุธใด ๆ
ทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายประมวล ว่าเคยทำร้ายร่างกายและจิตใจลูกสาวมากกว่าการลงไม้ลงมือหรือไม่ นายประมวล ตอบอย่างชัดเจนว่า “ไม่เคย” แต่ตนยอมรับว่าเคยทะเลาะจนลงมือทำร้างร่างกายภรรยา และยังเคยเสพยาเสพติดในช่วงสูญเสียภรรยา เนื่องจากเครียดและไม่มีทางออก แต่ขณะนี้ตนไม่ได้เสพยาเสพติดแล้ว อาจจะเลี้ยงลูกสาวผิดวิธีไปบ้าง แต่หากตามหาลูกสาวพบ ตนสัญญาว่าจะดูแลลูกสาวให้ดี เพราะตนรักลูกสาวมาก ๆ ตนจะไม่ตีลูกอีก หากตนทำอีกตนจะไม่ปฏิเสธแต่จะยอมรับความผิด
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายวีระ อายุ 53 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า นายประมวล เป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนภรรยาของนายประมวลเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด แต่เดิมครอบครัวของนายประมวล ก็อาศัยอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ กระทั่งภรรยาของนายประมวลประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ญาติฝั่งภรรยาจึงได้รับตัวเด็กหญิงเอ ไปอยู่ด้วยที่ภาคอีสาน จนนายประมวลไปรับตัวกลับมาเมื่อต้นปี 64 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายประมวลเป็นคนนิสัยดี ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่เคยมีปัญหากับใคร เท่าที่ตนสังเกตนายประมวลไม่เคยทำร้ายร่างกายลูก ส่วนเด็กหญิงเอ ก็ไม่เคยมีบาดแผลอะไรร้ายแรงให้เห็น