กรณีชาวบ้านหมู่ 18 บ้านโป่งกำแพง ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท ไปพบร่างชาย อายุ 48 ปี ทราบชื่อนายอนุวัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถกระบะสีขาว ทะเบียน บธ 8151 อุทัยธานี บริเวณลานจอดรถข้างฝายเก็บน้ำร่องลกฟ้า และในจุดเดียวกันนางชนากานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ยืนอยู่ใกล้กับศพ ทราบภายหลังว่าเป็นอดีตภรรยาของนายอนุวัตร ผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินขาม ได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าภายในรถมียาฆ่าหญ้าถูกบรรจุใส่ขวดน้ำดื่ม 1 ขวด และในพงหญ้าใกล้กับรถกระบะ พบขวดเบียร์ที่ดื่มไปแล้ว จำนวน 4 ขวดวางอยู่ จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.สวรรค์ประชารักษ์ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นลานจอดรถห่างจากชุมชนประมาณ 1 กม. ทางเข้าเป็นถนนลูกรัง มีศาลาพักร้อนเก่า ๆ 2 หลังติดกัน ไม่มีบ้านคน ไม่มีผู้คนสัญจร และพื้นที่โดยรอบเป็นป่าละเมาะสลับกับไร่อ้อย ด้านหลังมีห้องน้ำร้างอยู่ประมาณ 6 ห้อง ใกล้ ๆ กันจะเป็นฝายเก็บน้ำร่องลกฟ้า ทั้งนี้ ยังมีร่องรอยของการทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ รวมถึงชวดเบียร์ที่ทั้งคู่ดื่มกันในวันเกิดเหตุ ก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในพงหญ้า
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากครอบครัวของนางชนากานต์ว่า ทั้งนี้ต่างฝ่ายต่างขับรถมาเจอกันที่ลานจอดดังกล่าว โดยนายอนุวัตร ขับรถกระบะตู้ทึบสีขาว ส่วนนางชนากานต์ ขับกระบะ 4 ประตูสีบรอนด์เทา จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งกินเหล้ากันที่ท้ายกระบะของนางชนากานต์ จนมีปากเสียงกัน กระทั่งนายอนุวัตร ไปหยิบขวดยาฆ่าแมลงที่รถของเขาเอง ก่อนเดินมากินยาและเสียชีวิต
ต่อมาเมื่อนางชนากานต์ เห็นว่านายอนุวัตร เสียชีวิต จึงขับรถกระบะของตัวเอง เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เมื่อขับไปได้ประมาณ 2.8 กม. ด้วยความเร่งรีบทำให้รถแหกโค้งลงข้างทาง จนมีชาวบ้านมาเห็นและโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนจะทราบเรื่องทั้งหมดว่านายอนุวัตร กินยาฆ่าตัวตายเสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวตรวจสอบว่าจุดดังกล่าว เป็นป่าละเมาะข้างทางมีร่องรอยของอุบัติเหตุทั้งซากรถและกิ่งไม้หัก แต่สิ่งหนึ่งที่พบเจอคือถุงพลาสติกสีน้ำเงิน ซึ่งพบว่าด้านในมีกระดาษพับอยู่ 3 ใบ พร้อมร่องรอยการขยำจนขาด เมื่อลองคลี่ออกมาดูปรากฏว่าเป็นใบสำคัญการสมรสของ “นางชนากานต์” กับสามีคนล่าสุดทราบชื่อ “นายชัยยุทธ์” มีการจดทะเบียนกันเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 64 และอีก 1 ใบสำคัญการหย่าระหว่าง “นางชนากานต์” กับ “นายอนุวัตร” ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 62
นางชนากานต์ กล่าวว่า ตนไม่ได้หนีไปไหน แค่ออกไปเดินเล่นในป่าอ้อย เพราะยังรู้สึกเสียใจ ซึ่งผู้ตายเป็นคน ต.หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตนเคยคบหากันและจดทะเบียนสมรสอยู่กินมาได้ 8 ปี ตั้งแต่ปี 2555 แต่มีเรื่องให้ทะเลาะกันบ่อย จึงตัดสินใจหย่าร้างไปเมื่อกลางปี 2562 แม้จะหย่าร้างกันแล้ว แต่ตนกับผู้ตายก็ยังไปมาหาสู่กัน กระทั่งปลายปี 2564 ตนเผลอใจให้หนุ่มอีกคนที่เจอกันผ่านเฟซบุ๊ก คุยกันไปคุยกันมาจนผู้ตายรู้ ซึ่งในระยะแรกผู้ตายก็เหมือนจะรับได้ที่ตนมีชายอีกคนเข้ามา ก็เลยตกลงกันว่าตนจะพยายามแอบมาเจอกับผู้ตายที่กระท่อมบ่อปลา และก็จะเป็นแบบนั้นมาเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าพยายามหลอกล่อให้นายชัยยุทธ์ ออกไปทำงานเร็ว ๆ บ้าง หรือไม่ก็บอกว่าตนจะไปทำงานที่อื่นเป็นระยะเวลา 15 วันบ้าง 1 เดือนบ้าง แต่จริง ๆ แล้วตนมาอยู่กินกับผู้ตายที่บ่อปลา โดยที่นายชัยยุทธ์ไม่รู้ กระทั่งช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตนใช้วิธีเดิม แต่เหมือนว่านายชัยยุทธ์ จะจับพิรุธได้ จึงบอกกับตนว่าขอจดทะเบียนสมรสกันเพื่อเป็นใบยืนยันว่าตนจะไม่ไปมีชายอื่น
ตั้งแต่นั้นมาตนก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลก 2 ใบที่สร้างไว้มาโดยตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 ขณะที่ตนอยู่บ้านนายชัยยุทธ์ ตนก็หาโอกาสออกมา ชวนทะเลาะและทำทีว่าโกรธเพื่อจะได้ออกจากบ้าน ก่อนจะโทรศัพท์นัดกับผู้ตายให้มาเจอแถว ๆ วัดในหมู่บ้าน แล้วตนก็ขับรถกระบะออกมาเจอผู้ตาย และนอนกันอยู่ในรถกระบะตู้ทึบของผู้ตาย
"ก่อนเกิดเหตุก็แอบทางบ้านมาเจอกับผู้ตายเช่นเคย ดื่มเบียร์ไป 4 ขวด แล้วผู้ตายก็บอกว่าทนเป็นแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เราไปด้วยกันนะ ตามที่เราสัญญาไว้ แล้วผู้ตายก็ไปคว้ายาฆ่าแมลงที่เตรียมไว้ แล้วหันมาบอกว่าให้กินตาม กินไป 2-3 อึกจนหมดสติไป ก็เลยรีบโทรตามให้คนมาช่วย" นางชนากานต์ กล่าว
ทีมข่าวเดินทางมายังวัดบ้านใหม่โพธ์งาม หมู่ 2 ต.หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของนายอนุวัตร จึงมีโอกาสได้คุยกับนายสมาน ทองไพรวัลย์ อายุ 51 ปี น้องเขยของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แม้วันนี้ครอบครัวจะไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของ แต่ก็ยังรู้สึกคาใจว่านายอนุวัตร ตัดสินใจหยิบขวดน้ำที่ผสมยาฆ่าแมลงมากินด้วยตัวเองจริงหรือไม่ เพราะตรงจุดเกิดเหตุมีขวดเบียร์วางอยู่ และนางชนากานต์ ก็บอกว่าทั้งคู่ได้มีการกินเบียร์กัน ทั้ง ๆ เท่าที่ตนรู้ปกติแล้วนายอนุวัตร ไม่ใช่คนดื่มเบียร์ ส่วนใหญ่คนที่ดื่มก็คือนางชนากานต์
ทั้งนี้ ทำให้ตนแอบสงสัยว่านางชนากานต์ แอบนำยาฆ่าแมลงใส่ลงไปในขวดเบียร์ของนายอนุวัตรหรือไม้ แล้วจัดฉากเอาขวดน้ำที่ผสมยาฆ่าแมลงมาวางไว้ ซึ่งตนยอมรับว่าที่ผ่านมาเห็นขวดแบบนี้วางอยู่ในรถของนายอนุวัตร และนายอนุวัตรก็เตือนกับตนว่า "มันเป็นยาฆ่าแมลง อย่าเผลอดื่มเข้าไปนะ" ตอนนั้นตนก็ไม่เอะใจเพราะคิดว่านายอนุวัตร ผสมเพื่อจะเอาไปฉีดฆ่าแมลงในไร่ เนื่องจากเขาเป็นคนทำสวนทำไร่
"ก่อนหน้านี้เขามีผัวมาแล้ว 3 คนครับ พอเกิดเหตุลักษณะนี้ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายหญิงหรือเปล่า เพราะเห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าปมทั้งหมดเป็นเรื่องชู้สาว อาจเป็นไปได้ว่าเขาต้องการจะตัดปัญหาให้เหลือผู้ชายเพียงคนเดียวในชีวิต ผมจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสารพิษในขวดเบียร์ด้วย เพราะผมยังคงคาใจ" น้องเขยของผู้เสียชีวิต กล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พยามติดต่อไปหานายชัยยุทธ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า ที่ผ่านมาตนไม่รู้เลยว่าฝ่ายหญิงกับผู้ตายยังคงไปมาหาสู่กันแบบคู่รัก ตนมารู้ก็ตอนที่เกิดเหตุเป็นข่าว หลังจากนี้ตนขอตัดความสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง เพราะครอบครัวของตนก็รับไม่ได้ ไม่มีอะไรต้องคุยหรือเคลียร์กันอีกแล้ว และตนก็ไม่ต้องการคำขอโทษใด ๆ เอาเป็นว่าขอให้ต่างคนต่างเดิน แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่น่าจะดีที่สุด
"ถามว่าทำไมผมถึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเขา เพราะเห็นว่าเขาโสด ไม่มีใคร และมีใบสำคัญการหย่ามายืนยัน เขาก็จะบอกว่ารักผมตลอด ผมก็มีใจให้จึงตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรสกัน" นายชัยยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย