จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก
Pailin Yokklin โพสต์เรื่องราวว่าพ่อถูกลักพาตัวเป็นครั้งที่ 3 พร้อมระบุด้วยว่า คนร้ายคืออดีตแฟนที่ไม่ยอมเลิกรากัน แต่เอาตัวพ่อไปเพื่อใช้ในการต่อรอง เเลกกับตัวของเจ้าของโพสต์ โดยพ่อเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคพาร์กินสันเป็นโรคความเสื่อม (อ่าน :
สาวพริตตี้ได้พ่อคืนแล้ว แจ้งความอดีตแฟน ญาติปัดลักพาตัว อ้างพาเที่ยว - ตร.จ่อหมายเรียก สอบเอาผิด)
วันที่ 23 ธ.ค. 61 ที่ สภ.ไทรโยค
น.ส.ไพลิน ยกกลิ่น หรือ พลอย อายุ 23 ปี ผู้โพสต์เรื่องราว เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนตัดสินใจมาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับแฟนเก่า ที่ก่อเหตุลักพาตัวพ่อของตนทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งตนคบกับผู้ชายคนนี้มาประมาณ 3 ปี และแยกทางกันในช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
หลังจากเลิกกัน ฝ่ายชายจึงเริ่มลักพาตัวพ่อ ครั้งแรกคือวันที่ 9 ธ.ค. ช่วงเย็น ตนต้องไปถ่ายแบบที่ จ.ชลบุรี ขณะนั้นฝ่ายชายไปที่บ้าน ช่วยทำงานบ้าน ทั้งที่ขณะคบหากันฝ่ายชายไม่เคยช่วยงานที่บ้าน สุดท้ายจึงอ้างกับพ่อว่าจะมาหาตน และพาพ่อออกไปจากบ้านไป จากนั้นฝ่ายชายจึงถ่ายรูปส่งไลน์มาบอกตนเป็นระยะ พร้อมทั้งให้คนมารับตนไปที่บ้านฝ่ายชายที่จ.ราชบุรี ครั้งนั้นตนจึงยอมไปอยู่กับฝ่ายชายประมาณ 3 วัน
แต่มาครั้งที่ 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 16 ธ.ค. ช่วงค่ำ พบว่า ฝ่ายชายขโมยพ่อของตนไปอีก จึงโทรศัพท์อัดเสียงเก็บข้อมูลขณะเจรจากับฝ่ายชายไว้ โดยอีกฝ่ายบอกว่า เหตุที่เกิดในครั้งนี้ ให้ลูกน้อง 2 คน ขับรถมาเอาตัวพ่อจากบ้านไปที่สังขละบุรี หากตนไม่ไป ก็จะตัดแขน ตัดขาพ่อตน ให้เป็นขอทาน แล้วนำไปปล่อยไว้ชายแดน
วันรุ่งขึ้น (17 ธ.ค.) ตนเดินทางไปที่ สภ.บ้านโป่ง พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปบ้านของฝ่ายชาย แต่ไม่เจอพ่อตน เมื่อเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว ฝ่ายชายจึงโทรศัพท์มาบอกว่า จะไม่เอาพ่อไปคืนและจะหนี อีกทั้งยังหัวเราะใส่โทรศัพท์อีกด้วย
หลังได้พ่อคืน ตนก็มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับพ่อ ตนถามพ่อว่าไปอยู่กับเขาเป็นอย่างไรบ้าง พ่อก็ตอบว่าไม่สนุก ตนจึงถามอีกว่าแล้วอีกฝ่ายทำอะไรพ่อหรือไม่ พ่อจึงบอกว่าไม่ได้ทำ
น.ส.ไพลิน กล่าวอีกว่า กระทั่งเหตุการณ์ครั้งที่ 3 เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ป้าโทรศัพท์มาบอกว่า ฝ่ายชายพาพ่อออกจากบ้าน คาดว่าฝ่ายชายให้ลูกน้องพาพ่อออกไปทางหน้าต่าง เพราะบ้านล็อก และโดยคิดว่าอาจพาตัวไปตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 21 ธ.ค. และคืนพ่อให้กับตนเมื่อคืน (23 ธ.ค.) โดยพ่อของฝ่ายชายโทรศัพท์ติดต่อมาว่าพาพ่อไปคืนที่บ้านแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด และนำฝ่ายชายเข้าคุกให้ได้ แม้ฝ่ายชายจะเคยบอกว่า หากติดคุกแล้วออกมาได้ตามมาฆ่าตนก็ตาม ขณะนี้ก็มีความคิดที่จะย้ายบ้านไปที่อื่นเช่นกัน
ด้าน
พันตำรวจเอกธานี สงวนจีน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรโยค กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนางสาวไพลินและพ่อของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะไปสอบปากคำพ่อของนางสาวไพลินอีกครั้ง รวมถึงจะออกหมายเรียกและติดตามตัวผู้ก่อเหตุเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากพบว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง ก็จะดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ต่อมา
นายดำรัส มานวม พ่อของฝ่ายชายที่ก่อเหตุ เผยว่า น.ส.ไพลินมักโทรศัพท์ติดต่อตนตลอด ตนทราบว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ลูกพาพ่อ น.ส.ไพลิน เมื่อถามว่า ทำไมต้องพาพ่อของ น.ส. ไพลินมา ลูกชายก็บอกว่านำมาดูแล
นายดำรัส กล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกจะทำพฤติกรรมเช่นนี้ ยอมรับว่าโมโห และอยากรู้ว่าลูกทำแบบนี้เพื่ออะไร เพราะที่บ้านทุกอย่างก็เพียบพร้อมทั้งงานและเงิน ส่วนน.ส.ไพลิน ตนก็เลี้ยงดูไม่มีปัญหาอะไร และพูดได้เต็มปากเลยว่ารักยิ่งกว่าลูกตัวเองเสียด้วยซ้ำ
ส่วนอุปนิสัยของลูกชายไม่เกเร แต่เป็นคนดื้อ บางครั้งนิสัยลูกก็คล้ายผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ และหากตนบอกลูกได้ก็อยากให้ลูกเลิกพฤติกรรมเช่นนี้เสีย
ต่อมา ทีมข่าวได้รับคลิปเสียงมา 2 คลิป ตัวที่ 1 เป็นคลิปเสียงความยาว 43 วินาที เป็นการสนทนาโดยฝ่ายชายบอกว่า ตัวเองจะหนีและอย่าหวังว่า น.ส.ไพลินจะได้เจอหน้าพ่อ พร้อมหัวเราะและวางสายไป
ส่วนคลิปที่ 2 มีความยาว 4 .46 นาที ฝ่ายชายบอกว่าขณะนี้นั่งดื่มสุราอย่างสะใจ เนื่องจากให้ลูกน้องพาพ่อของ น.ส.ไพลินมาจากบ้าน และกำลังมุ่งหน้าไปที่สังขละบุรี หากฝ่ายหญิงไม่มาหาก็จะพาพ่อออกไปแถวชายแดนและ น.ส.ไพลินจะไม่ได้เจอหน้าพ่ออีก