จากกรณีเวลา 22.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 65 พันตำรวจเอกนิทัศน์ แหวนประดับ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน รับแจ้งเกิดเหตุคนยิงกันตายหลายศพ ที่บ้านทาวน์เฮาส์ ซอย 5 หมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี
จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้น ภายในบ้านมีอุปกรณ์ชุดติดตั้งซ่อมเครื่องปรับอากาศบ้านจำนวนมาก โดยเจ้าของบ้านมีอาชีพรับเหมาติดตั้งซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศบ้านทั่วไป
พบศพนายเอกชัย พฤทธิไพฑูรย์ อาชีพช่างแอร์ อายุ 30 ปี ถูกนายวินัย ภู่ภักดี หรือ ทิดนัย อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน เป็นพ่อตา มีอาชีพเป็นช่างแอร์ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงที่ขมับ 2 นัดซ้อน ถัดไปพบศพนางสาวมาลี แสงกระจุย อายุ 45 ปี ภรรยาของทิดนัย ถูกทิดนัยยิงที่ศีรษะด้วยปืนกระบอกเดียวกัน เสียชีวิตอยู่ราวบันไดขึ้นบ้านพบศพทิดนัยผูกคอตาย
ทราบว่าลูกสาวของทิดนัย คือ น.ส.ศศินภา ภู่ภักดี หรือ มิ้น อายุ 25 ปี เป็นภรรยาของนายเอกชัย ผู้ตาย และหลานสาววัย 8 ปี วิ่งหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนลูกสาวทิดนัยคนเล็กวัย 23 ปี ถูกทิดนัยยิงด้วยปืนกระบอกเดียวกัน กระสุนถูกที่ขา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.ชลบุรี ไปก่อนหน้าแล้ว
วันที่ 13 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยัง สภ.เมืองชลบุรี โดยมีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ศศิณา ภู่ภักดี อายุ 23 ปี ลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงที่ข้อเท้าซ้าย บอกว่า สภาพจิตใจตอนนี้ยังคงอยู่ความเศร้าโศก และยังอยู่ในสภาวะที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเมื่อคืนก่อนเหตุ ตนและครอบครัวกำลังกินข้าวฉลองวันเกิดให้กับพี่สาวภายในบ้าน ก่อนเกิดเหตุพี่สาวก็ได้นำเค้กไปให้พ่อ คือนายวินัย ภู่ภักดี อายุ 52 ปี มือยิงบนห้อง พบว่าพ่อกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องคนเดียว
จากนั้น ช่วงเวลาประมาณ 21.00น. นายวิชัย ผู้เป็นพ่อก็ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่พี่เขย คือนายเอกชัย พฤกธิไพทูรย์ อายุ 34 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัดเสียชีวิต และยิงแม่คือ น.ส.มาลี แสงกระจุย อายุ 46 ปี ด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ศีรษะ รวม 4 นัด ตอนนั้นตนเองตกใจจึงรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่พ่อจะผูกคอเสียชีวิตบริเวณบันได
ส่วนปมหรือแรงจูงใจของพ่อที่ตัดสินใจก่อเหตุสลดในครั้งนี้ ตนเองไม่ทราบ และไม่รู้ว่าพ่อถูกใครกดดันเรื่องอะไร เพราะปกติพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด และไม่เคยมาเล่าถึงปัญหาให้ลูกฟัง ส่วนจะมีปัญหาส่วนตัวกับพี่เขย ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบเช่นกัน แต่ตนสังเกตเห็นว่าก่อนหน้านี้ทั้งพ่อและแม่ไม่ค่อยพูดคุยกันมานานแล้วหลายเดือน คิดเพียงว่าทั้งคู่อาจจะแค่กำลังทำสงครามเย็นใส่กันเท่านั้น ไม่คิดว่าพ่อจะก่อเหตุสลด ยอมรับว่าบางครั้งพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนบวกกับก่อนเกิดเหตุพ่อดื่มสุราด้วย จึงอาจทำให้ขาดสติ
นางแก้ว (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่แถวนี้หลายปีแล้ว เพิ่งมาย้ายอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุได้ปีกว่าแล้ว ปกติแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนใหญ่ก็จะต่างคนต่างอยู่ และทักทายกันบ้านตามประสาเพื่อนบ้าน 2 อาทิตย์ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถไปจอดอยู่แถวบ้านผู้เสียชีวิต เห็นนายวินัยกับนางสาวมาลียืนมีปากเสียงและทะเลาะกันรุนแรง จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องของการแยกกันอยู่ เรื่องการแบ่งเงิน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
วันเกิดเหตุช่วงหัวค่ำ ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายคนจุดประทัด 3 นัด ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเสียงปืน มาทราบข่าวอีกทีก็ตอนที่คนมามุงดูกันหน้าบ้านเยอะ ๆ ส่วนตัวก็รู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่าจะยิงคนในครอบครัวแบบนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะเมาสุราแล้วเครียดหลายเรื่อง