โจ๋ฉุดเด็ก 13 ลวนลาม พ่อเหยื่อฉุนแทงมีดปักหลัง ญาติงงสุดชิลนอนกระดิกเท้าตำรวจไม่จับ (คลิป)

กรณีร.ต.อ.ชินกรฤติ สวัสดิวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจาก รพ.ทุ่งใหญ่ ว่ามีชายถูกแทงมารักษาตัว จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมสายตรวจ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บนายไกรณรงค์ ชะนะสุข หรือ โดม อายุ 24 ปี ชาวต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ มีบาดแผลที่แผ่นหลังยาว 5 ซม. แพทย์จึงให้การช่วยเหลือและพ้นขีดอันตรายแล้ว

ทั้งนี้ จากการสอบสวนญาติคนเจ็บทราบว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุคือลูกพี่ลูกน้องของผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อว่า นายสมพร แผ่นศิลา อายุ 36 ปี

ล่าสุดวันที่ 16 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมี 2 ห้องตั้งติดกัน มีตู้เสื้อผ้าวางคั่นกลางระหว่างห้อง และมีช่องเล็ก ๆ รอดไปอีกห้องได้ ทั้งนี้ สังเกตเห็นว่าบริเวณพื้นห้องและตู้เสื้อผ้ามีรอยเลือด

ยายของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.65) เวลาประมาณ 16.00 น. ตนกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านกับสามี ส่วนนายไกรณรงค์ กำลังนอนหลับ ขณะนั้นนายสมพร เดินปรี่เข้ามาในบ้านและคว้าไม้เท้าของตนไปฟาดที่ขาของนายไกรณรงค์ จึงสะดุ้งตื่นและเดินหนีไปอีกห้องหนึ่ง แต่นายสมพร กลับใช้โอกาสช่วงที่นายไกรณรงค์หันหลังวิ่งหนีคว้า คว้ามีดแทงจนล้มลงกับพื้น หลังจากก่อเหตุก็รีบเดินออกจากบ้านไป

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่านายสมพร ทำไปเพราะอะไร เพราะจู่ ๆ นายสมพร ก็เดินเข้ามาในบ้าน และแทงโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนประเด็นที่บอกว่านายไกรณรงค์ ไปลวนลามลูกสาวนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อเพราะนายไกรณรงค์ เป็นคนที่นิสัยดี

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายสมพร แผ่นศิลา หรือ โอ่ง ผู้ก่อเหตุ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับบ้านของผู้ได้รับบาดเจ็บ ห่างกันประมาณ 10 เมตร สามารถเดินผ่านทางหลังบ้านทะลุหากันได้ ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ นายสมพรได้ออกไปทำงานข้างนอกพื้นที่ และมีเพียงลูกสาวที่พักอยู่กับน้าสาว

จากการสอบถาม ด.ญ.อิงค์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.65) เวลาประมาณ 12.00 น. นายไกรณรงค์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์จะพาตนไปหาพ่อ แต่เส้นทางที่พาไปเป็นป่ายาง ห่างไกลจากบ้านของชาวบ้าน ตนจึงสอบถามว่า "มาถูกทางแล้วใช่ไหม" ซึ่งนายไกรณรงค์ ก็ยืนยันว่าถูกทางแล้ว จนมาถึงในที่ลับสายตาคน ได้จอดรถจักรยานยนต์ให้ตนลง ก่อนจะใช้มือจับหน้าอก แต่ไม่โดน เพราะตนใส่เสื้อซับใน

จากนั้นนายไกรณรงค์ พยายามจะกอด แต่ตนดิ้นและวิ่งหนีมาได้ นายไกรณรงค์ จึงตะโกนบอกว่า "ห้ามบอกพ่อว่าเกิดอะไรขึ้น" ซึ่งตนก็รับปากว่าจะไม่บอก กระทั่งช่วงเย็นพ่อของตนกลับมาที่บ้าน ตนก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง ก่อนที่แม่จะพาไปแจ้งความ และขณะที่ตนอยู่ที่สถานีตำรวจ พ่อก็ได้เข้าไปคุยกับนายไกรณรงค์ จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเข้าใจว่าพ่อทำลงไปเพราะความโกรธ ส่วนตัวก็ยอมรับว่าโมโหเช่นกัน เพราะนายไกรณรงค์ เป็นญาติกัน และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ ไม่คาดคิดว่าจะมาทำกันเช่นนี้ อีกทั้งก่อนหน้านี้นายไกรณรงค์ ก็มักจะมากินข้าวที่บ้านของตนหลายครั้ง และไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน ตนจึงไม่เข้าใจว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไร เพราะขณะที่เขากำลังก่อเหตุก็ไม่ได้เมาสุรา แต่เรื่องยาเสพติดนั้นตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่อยากจะให้นายไกรณรงค์ พูดความจริง และยอมรับผิดทุกอย่าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกหวาดระแวง เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน จึงเกรงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ซ้ำอีก

ทั้งนี้ แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ พาทีมข่าวมาหานายไกรณรงค์ หรือ โดม ซึ่งพักรักษาตัวที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพราะกลัวว่าหากยังอยู่ด้วยกัน แล้วจะเผชิญหน้ากันได้ 

ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ บ้านหลังดังกล่าวได้ถูกล็อก เพราะเจ้าของบ้านออกไปทำธุระข้างนอก และกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงล็อกประตูด้านนอกไว้ ทั้งนี้ แม่ของผู้ได้รับรับบาดเจ็บพยายามเรียก แต่นายไกรณรงค์ นอนหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเพิ่งกินยาพักผ่อนไป

นางสาวสุกัญญา แผ่นศิลา อายุ 40 ปี แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.65) เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเพิ่งจะกลับมาจากที่ทำงาน ขณะนั้นลูกสาวได้วิ่งมาเรียกตนให้กลับไปดูที่บ้านพัก และบอกว่านายไกรรณรงค์ ถูกนายสมพร ใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บ ตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปดู ก่อนจะพาลูกชายไปส่งโรงพยาบาลทันที

ทั้งนี้ นายไกรณรงค์ ได้รับบาดเจ็บถูกแทงบริเวณกบางหลัง แผลลึก 2 ซม. เย็บแผลประมาณ 5 เข็ม และมีรอยช้ำตามแขนขาจากการถูกตี โดยสาเหตุที่ก่อเหตุตนทราบมาว่า นายสมพร ได้คว้ามีดแทงเพราะนายไกรณรงค์ ไปลวนลามลูกสาวของเขา ซึ่งตนยังไม่ได้สอบถามลูกชายว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และหากทำผิดจริงก็ต้องยอมรับผิด และก็ต้องขอโทษ

"หลังจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่มองว่าทำเกินไป และหากทำผิดก็ควรจะมาพูดคุยกันดี ๆ และถามเหตุผล ไม่ใช่ลงมือแทงทั้ง ๆ ที่ยังได้เจรจาอะไรกันเลย" นางสาวสุกัญญา กล่าว