จากกรณีหนุ่มใหญ่ให้ที่พักพิงคนรู้จัก ก่อนถูกแว้งกัดชักมีดแทงเข้าหน้าอกสาหัส ขณะนำเสื้อไปให้ใส่คลายหนาว โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อกลางดึก 16 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา ภายในบ้านหมู่ที่ 5 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยอ่างทองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง รุดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบชาวบ้านช่วยกันจับผู้ก่อเหตุมัดไว้ได้ อยู่ที่บริเวณถนนทางเข้าบ้าน
ทราบชื่อภายหลังคือ นายเต้ อายุประมาณ 40 ปี อยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และมีอาการหวาดผวา บริเวณใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ คิ้วด้านซ้ายแตก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อภายหลัง นายสุวิทย์ เหมือนทิพย์ หรือ แบงค์ อายุ 33 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ราวนมด้านซ้าย ทางญาตินำตัวส่ง รพ.โพธิ์ทอง และส่งตัวต่อมาที่ รพ.อ่างทอง เนื่องจากอาการสาหัส
ล่าสุด วันที่ 17 ม.ค. 65 นางสาวนิศากร เหมือนทิพย์ อายุ 33 ปี ภรรยาของนายแบงค์ เปิดเผยว่า ตนคบหากับนายเเบงค์มาเข้าปีที่ 6 เเล้ว นิสัยของสามีเป็นคนดี ใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบทำกับข้าวเผื่อเพื่อนบ้าน สามีไม่เคยมีคดีติดตัว ไม่เคยมีปัญหาวุ่นวายกับใคร เสียอย่างเดียวคือชอบกินเหล้าทุกวัน
ส่วนนายเต้ ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ครอบครัวของสามีรู้จักนายเต้มาตั้งเเต่รุ่นพ่อเเล้ว พ่อนายเต้เป็นคนดีมาก เเต่หลังจากที่เสียชีวิตไป นายเต้ก็หายตัวไปเลยเป็นปีกว่า เเละเพิ่งจะกลับมาได้ 2-3 วันที่ผ่านมา เเละมาขออยู่ที่บ้านสามี นายเเบงค์ก็บอกนายเต้ว่าให้อยู่ได้เเค่ 2-3 วันเท่านั้น เพราะต้องทำงาน ส่วนตนก็ทำงานที่สำคัญคือตนกำลังท้องอยู่ สามีไม่อยากให้ใครมาบ้าน
โดยพฤติกรรมของนายเต้ ช่วงที่อยู่บ้านก็มีลักษณะท่าทางหลอนตลอดเวลา นั่งพูดคนเดียว เเละคอยถามหาให้คนพาไปบ้าน จะยืมรถคนอื่น เเต่ก็ไม่มีใครกล้าให้ ซึ่งวันที่เกิดเหตุ นายเต้นั่งกินเหล้าคนเดียวตั้งเเต่เช้าเเล้ว จนช่วงประมาณ 19.00 น. กลุ่มคนรู้จักกับสามีก็มากินเหล้าที่บ้าน นายเต้ก็มีการเถียงทะเลาะกันกับคนในวง จากนั้นสามีก็กลับมาจากบ้านเเม่ ก็นั่งกินเหล้ากันตามปกติ แต่นายเต้ก็พูดมาก เถียงคนอื่นไปทั่ว สามีเห็นว่านายเต้เมา จึงได้พูดให้ไล่ให้นายเต้ไปนอนในกระต๊อบที่จัดไว้ให้
หลังจากนั้นตนก็วูบหลับไป ประมาณ 10 นาที ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ก็ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายเสียงดัง เมื่อชะโงกหน้าไปดู ก็เห็นว่าสามีล้มอยู่หน้าประตูกระต๊อบ ตนจึงเดินลงมาถามว่าเป็นอะไร สามีก็ลุกขึ้นเดินมาหาที่โต๊ะไม้ พร้อมกุมหน้าอกซ้าย บอกว่าตัวเองถูกเเทง เลือดออกจากหน้าอกจำนวนมาก เห็นเเผลเป็นรูบนอกข้างซ้าย ตนจึงได้วิ่งกลับเข้าบ้านไปเอาโทรศัพท์โทรหาน้องชายให้มารับสามีไปโรงพยาบาล เเต่น้องชายให้แฟนไปส่งเเทน ตนก็ถามว่าใครเเทง เพื่อนในวงเหล้าก็บอกว่านายเต้ เเต่นายเต้เดินมาหาตนเเละบอกว่า “พี่ไม่ได้ทำ พี่ไม่ได้เเทง” ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปทางป่าข้างบ้าน พอนายเต้เห็นน้องของสามี ก็ยอมออกมา เพราะรู้ว่าคงไม่ถูกทำอะไร หลังจากนั้นทุกคนก็ช่วยกันจับนายเต้ ตนไม่เห็นว่ามีการนุมประชาทัณฑ์หรือไม่ เพราะตอนนั้นตนกำลังดูอาการสามีอยู่
ตอนนั้นสามีของตนยังมีสติพูดคุยได้ เเต่ปากซีดตัวเหลือง ตัวเย็นหมดเเล้ว เลือดออกเยอะมาก เพราะถูกเเทงด้วยมีดปลายแหลมที่ตนใช้ทำกับข้าวในครัว ตนไม่รู้ว่านายเต้ไปขโมยมีดจากในครัวไปตอนไหน จากนั้นช่วงประมาณ 23.20 น. ก็พาสามีไปส่ง รพ.โพธิ์ทอง ก่อนจะใส่ท่อช่วยหายใจเเละส่งต่อไปที่ รพ.อ่างทอง เนื่องจากว่าสามีถูกเเทงใกล้ขั้วหัวใจ หมอเเจ้งว่าอาการหนัก มีเลือดคั่งในปอด เจาะเเละผ่าถ่ายเลือดออก จนเวลา 02.00 น. หมอให้ญาติกลับบ้าน เเละรอฟังผลเวลา 03.00 น. หมอโทรมาเเจ้งว่าสามีอาการทรุด ต้องเข้าห้องผ่าตัด หลังจากนั้นเวลา 05.20 น. สามีเสียชีวิต
ตนไม่มีโอกาสได่ร่ำลาสามีเลย ระหว่างทางที่ไปตนเเทบจะไม่ได้คุยอะไรกับสามี มีเพียงเเต่สามีพูดว่า “แบงค์จะตายไหม ๆ ปวดอุจจาระ เหนื่อย หายใจไม่ออก เหมือนธาตุจะแตกเเล้ว" หลังจากที่กลับมาบ้าน ตนก็มาจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางของให้สามีรอด แต่สุดท้ายสามีก็ไม่รอด หลังจากนี้ตนก็ต้องเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เพราะลูกในท้องอายุ 3 เดือนนี้เป็นความหวังของสามี ตนเเละสามีอยากมีลูกมาก อยากได้ลูกชาย เเต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทันได้อยู่เจอหน้าลูก
ส่วนนายเต้ คนก่อเหตุที่ตอนนี้ยังไม่รับสารภาพว่าเป็นคนทำ ตนก็ไม่มีอะไรอยากจะพูด เเต่อยากให้เขาได้รับโทษตามที่ตัวเองได้ก่อไว้อย่างถึงที่สุด เเละไม่ขอรับคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเขามาทำให้ครอบครัวของตนต้องพัง ลูกของตนต้องกำพร้าพ่อตั้งเเต่ยังไม่ลืมตาดูโลก ยืนยันคำเดิมว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายฤทธิกร แสงพลาย หรือเต้ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา ถูกจับกุมตัวอยู่ในห้องขัง สภาพเมาค้าง ไม่สร่างดี สภาพใบหน้ามีรอยช้ำ ดวงตาด้านซ้ายม่วงช้ำ เเละค่อนข้างที่จะพูดจาวกวนไปมา นายฤทธิกร เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับคนตายมาเป็น 10 ปีเเล้วสนิทกัน จนเมื่อช่วง 1 ปีที่เเล้ว ตนเดินทางเร่ร่อนไปอยู่ที่ จ.เพชรบุรี ก่อนจะกลับมาที่บ้านที่ จ.อ่างทอง เเต่บ้านของตนกำลังซ่อมเเซม เเละไม่มีญาติพี่น้อง เหลือเพียงพี่น้องของพ่อเท่านั้น
ตนจึงไปพักที่บ้านของนายแบงค์ ผู้ตาย อยู่ได้ประมาณ 2 วันเเล้ว จนกระทั่งเมื่อวานช่วงเย็น ตนเเละนายเเบงค์รวมถึงเพื่อนของนายเเบงค์ ทั้งหมดประมาณ 5-6 คน นั่งกินเหล้าเบียร์กันหลายขวด ตนเองก็จำไม่ได้ว่ากินไปมากเเค่ไหน ซึ่งปกตินายเเบงค์เเละเพื่อนจะดื่มกินกันเป็นประจำอยู่เเล้ว ตอนที่อยู่ในวงเหล้า ตนเองก็ไม่ค่อยจะได้พูด เเละไม่ได้มีเรื่องทะเลาะบาดหมางอะไรกัน จนตนเเยกกลับไปนอนที่ห้องที่นายเเบงค์จัดไว้ให้ก่อน จากนั้นตนนอนหลับ นายเเบงค์ก็มาเรียกตน ท่าทางเหมือนจะหาเรื่อง และจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตน นายเเบงค์ไม่ได้มีอาวุธอะไรมาด้วย เเต่ด้วยความกลัวตนจึงได้คว้ามีดที่อยู่ในห้องที่นอนอยู่เเล้วออกมาเเล้วเเทงนายเเบงค์ไป โดยตนจำไม่ได้ว่ามีมีดในห้องกี่เล่ม เเละเเทงนายเเบงค์ไปกี่แผล จากนั้นตนก็พยายามจะหนี เเต่ถูกเพื่อนเเละญาติของนายเเบงค์รุมทำร้ายร่างกาย
ทีมข่าวจึงได้บอกความจริงว่านายแบงค์เสียชีวิตเเล้ว นายเต้นิ่งไปเเละไม่ได้พูดอะไร ทีมข่าวจึงถามอีกว่ามีอะไรอยากจะฝากขอโทษครอบครัวของนายเเบงค์หรือไม่ นายเต้ตอบเพียงเเค่ว่า "ไม่รู้จะพูดอะไร"
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวนายฤทธิกร หรือ นายเต้ ผู้ต้องหาออกจากห้องขัง เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยระหว่างนี้ ทีมข่าวได้สอบถามนายเต้อีกครั้งว่าเป็นคนทำจริงหรือไม่ เเต่นายเต้บอกว่าจำไม่ได้ ก่อนก่อเหตุไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน เเละไม่ยอมตอบคำถามอื่นเพิ่ม บอกเพียงเเต่ว่า "ผมไม่พูดได้ปะ" ทีมข่าวได้พยายามถามอีกว่าก่อนที่จะเเทงนายเเบงค์ นายเต้ถูกทำร้ายก่อนหรือไม่ นายเต้ไม่ตอบ ทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น ก่อนจะตอบว่า "ผมจำอะไรไม่ได้เลย เหมือนมันเมา"
เบื้องต้น นายเต้ ผู้ต้องหา ถูกแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และขอใช้สิทธิ์ให้ทนายอาสาเข้ามาช่วยในคดี รอให้ทนายมาก่อนถึงจะยอมให้สอบปากคำต่อได้ ตรวจสอบนายเต้มีประวัติเคยติดคุกคดียาเสพติด