จากกรณี เด็กชายซูลุยผิว (น้องต้าแง) อายุ 2 ขวบ ลูกชายของแรงงานเมียนมา ที่เดินหลงเข้าไปในป่าอ้อย จ.สุพรรณบุรี แล้วหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งวานนี้ (25 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กชายซูลุยผิว นอนเสียชีวิตอยู่ ห่างจากจุดที่มีคนเห็นวิ่งเล่นก่อนหายตัว ประมาณ 2 กิโลเมตร ล่าสุดครอบครัวเดินทางเข้าให้ปากคำและสงสัยปมการเสียชีวิตว่าเกิดจากคนขับรถไถชนหรือไม่ กระทั่งคนขับรถไถต้องออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจนั้น (อ่าน :
คนขับโชว์หางรถไถไร้รอยเลือด การันตีไม่ได้ฆ่าเด็ก 2 ขวบหลงป่าอ้อย ขยาดถูกใส่ร้ายไม่กล้าขับ)
วันที่ 27 ธค. 61 รายการต่างคนต่างคิด ตอน พ่อแม่ "ซูลุยผิว" ไม่เชื่อผลชันสูตรลูก 2 ขวบตาย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. เชิญ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดี อัยการสูงสุด, นายสมาน วงษ์กัณหา คนขับรถไถ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ ผอ.กองสารพันธุ์กรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมพูดคุยในรายการ
นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ เปิดเผยว่า การนำร่างของเด็กวัย 2 ขวบมาชันสูตรใหม่อีกรอบนั้น เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีคล้ายกับการชันสูตรจากนิติเวชของ รพ.ตำรวจ เพียงแต่จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อสงสัยของพ่อและแม่เด็กให้มากขึ้น โดยร่วมทีมกับกับผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทย์ศาสตร์รามา และจุฬาฯ
ซึ่งหากผลการชันสูตรเหมือนกับ รพ.ตำรวจ ก็จะได้ไม่เป็นข้อสงสัยต่อสังคม แต่หากผลออกมาแตกต่าง ก็จะต้องพิจารณาว่าแตกต่างมากขนาดไหน และมีนัยสำคัญหรือไม่ ส่วนเวลาในการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นอาจใช้เวลาไม่นาน แต่หากจำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ ก็อาจทราบผลภายใน 1 - 3 สัปดาห์
ส่วนว่าผลจะมีโอกาสเหมือนหรือต่างกันมากเท่าไรนั้น ตนยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่ได้ทำการตรวจพิสูจน์ แต่หากทราบผลการตรวจพิสูจน์แล้วจะแจ้งให้กับประชาชนทราบ
นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ กล่าวอีกว่า เรื่องกระโหลกร้าวนั้น ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจก่อนว่า กระโหลกของเด็กบางครั้งอาจจะยังไม่เชื่อมกันดี จึงเป็นไปได้ว่ารอยร้าวกระโหลกที่แม่ของเด็กบอก อาจเป็นรอยแยกของกระโหลก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็จะทราบผลอย่างชัดเจน เรื่องการสัมผัสตัวเด็ก นั้นมีโอกาสเจอสารพันธุกรรมได้ค่อนข้างน้อย และอาจตรวจสอบได้ลำบาก เนื่องจากสำหรับประเทศไทย ร่องรอยจะอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์
และกรณีที่กระดูกขาโผล่ออกมานั้นจะสัมพันธ์กับการเน่าของร่างกายนั้น เรื่องนี้อย่าดูที่จำนวนวันเพียงอย่างเดียว จะต้องดูปัจจัยอย่างอื่นด้วย เช่น สัตว์กัดแทะ หรืออุณหภูมิขณะเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องรอผลการชันสูตรอีกครั้ง
โดย
นายปรเมศวร์ แสดงความคิดเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีพิรุธไหม เพราะเรื่องราวยังไม่ค่อยชัดเจน แต่ตนขอแนะนำให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ เดินทางไปร่วมชันสูตรกับทีมแพทย์ด้วย เพื่อตัดสินร่วมกันให้ได้ข้อสรุปที่แน่นอน ส่วนการที่ชาวเมียนมาออกมาร้องเรียกความเป็นธรรมนั้นก็เป็นสิทธิมนุษย์ชนพื้นฐาน
เรื่องที่ควรจะต้องพิสูจน์ทราบในขณะนี้คือ เด็กผู้หญิงเห็นเด็กผู้ชายครั้งสุดท้ายกี่โมง ระยะเวลาการเสียชีวิตและหายตัวไปของเด็กจะต้องสัมพันธ์กัน แต่เรื่องนี้อาจต้องรอข้อสรุปจากการชันสูตรให้ได้เสียก่อน ส่วนประเด็นเรื่องคำพูดของเด็กสามขวบนั้น ตนว่าก็ควรรับฟังไว้ แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมด เพราะเด็กอาจซึมซับคำพูดของผู้ใหญ่และจินตนาการเพิ่ม อีกทั้งการรับฟังประจักษ์พยานที่เป็นเด็กนั้นอาจจะเชื่อถือได้ยาก และอาจรับฟังไม่ได้ทั้งหมด
แต่ทั้งนี้ จากคำพูดของเด็กสามขวบก็ยังพอให้เห็นจุดเชื่อมโยงบางอย่างอยู่ เช่น ในวันนี้ (27 ธ.ค.) เด็กบอกว่ามีผู้ชายมาพาตัวน้องออกไป ก็อาจจะไปตรงกับคำให้การตั้งแต่ตอนแรกว่า "น้องหายไป" ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะต้องเลือกว่าสิ่งใดควร หรือไม่ควรเชื่อ
จากนั้น
นายปรเมศวร์ กล่าวอีกว่าเรื่องที่นายสมานถูกกล่าวหานั้นก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เด็กที่อาจจะเชื่อว่าใครเป็นคนทำ แต่ทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ตั้งข้อหาอะไรกับนายสมาน เพียงแค่เรียกไปสอบสวนเท่านั้น ตนแนะนำว่าหากนายสมานเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ควรอยู่อยู่เฉย ๆ คอยชี้แจงให้สังคมเข้าใจ และอย่างไปเสียเวลาสาวความคดีต่อ เพราะหากยิ่งดิ้นรนมากก็จะยิ่งถูกวิจารณ์มาก เพราะถึงอย่างไร ผลการตรวจพิสูจน์ก็จะออกมาชี้ชัดเรื่องดังกล่าวเอง
นอกจากนี้ ตนมองว่า ส่วนสำคัญที่จะสามารถคลี่คลายคดีคือ ผลชันสูตรสาเหตุการตาย เพราะหากสามารถพิสูจน์ทราบผลชันสูตรก็จะทราบทิศทางของการสืบสวนได้มาก นอกจากนี้ ของเล่นหรือรองเท้าที่พบในที่เกิดเหตุก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าที่คลี่คลายคดี การตรวจสอบร่องรอยจะช่วยให้ชี้ชัดคดีดังกล่าวได้อีกทางหนึ่ง
ด้าน
นายสมาน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนขอยืนยันว่า ของเล่นและรองเท้าที่ถูกพบภายในจุดเกิดเหตุไม่ใช่ของตน ถึงแม้ว่าบ้านของตนจะมีลูก 4 ขวบ และ 5 ขวบ แต่ก็ไม่ใช่ของเล่นจากบ้านของตนแน่นอน ส่วนคำให้การล่าสุดของเด็กที่บอกว่า เห็นชายจูงมือไปนั้น ตนก็ไม่รู้สึกเครียด เพราะตนไม่ได้สัมผัสกับเด็ก
ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าของเล่นอาจเป็นของเด็กคนอื่นหรือไม่ เนื่องจากทราบว่าขณะเกิดเหตุมีเด็กคนอื่นเล่นกัน 4 คน หรืออาจเป็นของเด็กที่อยู่ในบริเวณนั้นเล่นทิ้งไว้หรือไม่ เพราะสถานที่พบศพก็ไม่ใช่สถานที่ลึกลับอะไร มีเส้นทางเข้าออกหลายช่องทาง
สุดท้าย
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า คำชี้แจงของนายสมานก็สามารถรับฟังได้ ส่วนมุมมองของตนนั้น คาดว่าเป็นเด็กเล่นกันแล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น กระทั่งถึงแก่ชีวิตหรือไม่ และหลังเกิดเหตุก็ไม่มีใครกล้าพูด เพราะกว่าที่จะทราบว่าเด็กหายไปไหนก็ใช้เวลาไปเป็นอาทิตย์ ร่องรอยต่าง ๆ ที่ระบุว่าเคยมีเด็กเล่นกันอาจหายไป ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเด็กคนอื่นบ้างแล้วหรือไม่ เรื่องดังกล่าวนี้ก็น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถเป็นไปได้หลายทาง และยังไม่สามารถสรุปอะไรได้อย่างชัดเจน