เมียหลวงเด็ด! สืบแต้มสะสมสะกดรอยผัว เจอสาวซุกห้อง ขอหย่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว (คลิป)

โลกออนไลน์แชร์คลิปที่หญิงคนหนึ่งชื่อ ปราง อายุ 39 ปี ถ่ายบันทึกไว้ ขณะจับได้ว่าสามีมีหญิงอื่น และพบว่าทั้งคู่อยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ในคลิปที่เอาลูกสาวไปตามหาพ่อด้วย จากนั้นเข้าไปในห้องรีสอร์ต เห็นสามีอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ในคลิปที่ต่อว่าสามีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และถ่ายคลิปทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานนั้น

นางปรางณัฐพิมล ภรรยาหลวง เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเดือนตุลาคม 2564 เป็นเรื่องราวจริงที่จับได้ว่าสามีนอกใจ เหตุที่ทำให้จับได้ว่าสามีหญิงอื่น เป็นเพราะคืนนั้นเวลา 21.49 น. มีข้อความเด้งขึ้นโชว์แต้มสมาชิกที่ร้านสะดวกซื้อว่าตนได้คะแนนแต้มสะสมจากการซื้อของ ซึ่งบัตรใบนี้เป็นชื่อของตน แต่สามีนำใช้ เป็นจุดเริ่มต้นเอะใจว่าดึกแล้วสามีไปซื้อของอะไรที่ไหน

ประกอบกับการก่อนหน้านี้ตนเริ่มมีลางสังหรณ์ใจ จากนั้นตึงตัดสินใจโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ เพื่อขอตรวจสอบการใช้บัตรซื้อของใบนี้ทันที จนทราบว่าบัตรใบนี้ถูกนำไปซื้อของที่สาขาไหน และที่น่าตกใจคือบัตรใบนี้ถูกซื้อนม 1 กล่อง และผ้าอนามัย ตนจึงค้นหาความจริง ไปตามหาสาขาร้านสะดวกซื้อประมาณ 4-5 สาขา จนเจอสาขาที่ถูกระบุ

ตนคุยและพยายามพูดกับพนักงานว่าขอตรวจสอบบัตรใบนี้ถูกใครใช้ เพราะเป็นบัตรของตน จนได้ภาพมา พบว่าสามีกับหญิงอื่นยืนจ่ายเงินซื้อสินค้า เวลา 06.00 น. รุ่งขึ้นตนขับรถทั่ว จากจุดร้านสะดวกซื้อ เพื่อตามหาสามี แต่ไม่เจอ จึงไปหาตำรวจให้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด เผื่อว่าจะจับภาพรถสามีได้

แต่เจ้าหน้าที่ให้ตนมาพบอีกครั้งในช่วง 08.00 น. เช้าช่วงเวลาทำการราชการ ระหว่างขับรถออกมาจากโรงพัก ตนยกมือไหว้ขอพรภาวนาให้เจอ จะได้ตาสว่างเสียที ตนขับรถวนหาไปเรื่อย ๆ สุดท้ายไปเจอรถยนต์สามีจอดอยู่ที่รีสอร์ต ไม่ไกลจากตรงนั้นมาก และทุกอย่างก็ปรากฏตามคลิปที่เห็น

นางปรางณัฐพิมล เปิดเผยต่อว่า ภายหลังจากที่เจอเหตุการณ์สุดช็อก ก็ได้แยกกันอยู่กับสามี และกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมฟ้องหย่า ส่วนลูกค่อนข้างที่จะน่าเป็นห่วง เพราะลูกก็รับรู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในครอบครัว แต่ก่อนครอบครัวของตนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก พ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนที่จะไปพบสาวคนใหม่ที่เป็นครู

อย่างไรก็ตาม การนำเรื่องราวนี้มาเปิดเผยก็เพราะอยากได้รับความเป็นธรรม เพราะจนถึงปัจจุบันตนยังไม่รับความเป็นธรรม หลังจับได้สามีมีคนอื่น ก็หายเงียบไป ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบตนกับลูกสาวอีก ตนยืนยันจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด