สาวเปิดวงจรปิดล่าโจรป้ายยา ไม่รู้ตัวถอดทองให้ ได้สติหมดตัว - ตร.จ่อหมายจับ (คลิป)

29 ธ.ค. 61
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวหลังถูกคนร้ายหลอกล่อคุย ก่อนจับเนื้อต้องตัว หลังจากนั้นมีอาการไม่รู้สึกตัว และหลงเชื่อถอดทองคำหนัก 50 สตางค์ ให้คนร้ายไป โดยไม่สามารถติดตามตัวได้
น.ส.ปิ่น (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
วันที่ 28 ธ.ค. 61 น.ส.ปิ่น (นามสมมติ) ผู้เสียหาย พนักงานร้านค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ดแห่งหนึ่งในศูนย์การค้าย่านรามอินทรา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ (24 ธ.ค.) เวลาประมาณ 12.00 น. ตนทำงานอยู่เพียงลำพัง ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุเป็นหญิงเสื้อสีฟ้า เดินเข้ามาที่ร้านทำทีเป็นลูกค้า ชวนตนพูดคุย และถามหาสินค้าที่เป็นกระเป๋า ตนเองจึงให้บริการตามปกติ จังหวะที่ตนพาลูกค้าไปดูสินค้า ลูกค้ารายนี้เริ่มจับแขนและมือตน ขณะนั้นตนก็ยังไม่ได้เอะใจ จากนั้นลูกค้าก็เดินมาชำระเงินที่เคาน์เตอร์ และเริ่มชักชวนตนให้กู้เงิน โดยอ้างว่าตัวเองปล่อยกู้ เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าตนไม่สนใจ ก็ชวนตนให้ซื้อสลากชิงทองคำ ราคาใบละ 150 บาท และเมื่อตนปฏิเสธอีก ผู้ก่อเหตุยังคงเชิญชวนต่อเนื่อง และในระหว่างที่พูดคุยกัน ผู้ก่อเหตุจะพยายามจับตามร่างกายของตน
ทองของ น.ส.ปิ่น
น.ส.ปิ่น ยอมรับว่า เมื่อฟังผู้ก่อเหตุชักชวน ตนก็เริ่มมีความรู้สึกอยากได้เงินตามที่อวดอ้าง เพราะหากถูกรางวัลจะได้เงินหลายหมื่นบาท สุดท้าย ตนพูดคุยกับคนร้ายไม่ถึง 10 นาที และตัดสินใจถอดทองให้ผู้ก่อเหตุไปโดยง่าย โดยไม่ได้เอะใจ ขณะนั้นตนจำได้เพียงว่า อยากได้รางวัลที่ผู้ก่อเหตุอวดอ้าง แต่ไม่รู้ตัวว่าซื้อบัตรทองมา เพราะตนไม่ได้จ่ายเงินให้สักบาทเดียว เพียงแต่ให้ทองหนัก 50 สตางค์ไปแทน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ใช่คนเล่นหวย หรือการพนัน และไม่ได้โลภอยากได้เงิน นอกจากนี้ คนร้ายยังขอหมายเลขโทรศัพท์ของตน โดยอ้างว่าจะติดต่อมาหาอีก 15 นาที หากจับรางวัลแล้ว จากนั้นจึงออกจากร้านไป และไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย เวลาผ่านไปราว 1 - 2 ชั่วโมง ตนเริ่มมีความรู้สึกมึนหัว วิงเวียน คล้ายจะอาเจียน จึงมั่นใจว่าตัวเองถูกป้ายยา อีกทั้งหลังโพสต์เรื่องราวไปแล้ว ตนได้ข้อมูลจากบริษัทว่า เคยมีคนถูกหญิงรายนี้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว โดยครั้งนั้นได้เงินไปจำนวน 3,500 บาท ทั้งนี้ ตนเองเดินทางไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางเขน
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน ขณะเกิดเหตุ
นอกจากนี้ น.ส.ปิ่น นำภาพวงจรปิดให้ทีมข่าวดู พบว่า ผู้ก่อเหตุสวมเสื้อสีฟ้า รูปร่างอ้วน ใส่กระเป๋าคาดเอวคล้ายแม่ค้า เดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ทำทีคุยกันอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะชวนกันมาคุยกันที่ข้างเคาน์เตอร์ เพื่อหลบมุมวงจรปิด ทำให้ไม่เห็นภาพขณะที่ น.ส.ปิ่นถอดทองข้อมือให้คนร้ายไป
นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม (แฟ้มภาพ)
ด้าน นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันวงการแพทย์ยังไม่มีการใช้ยาสลบแบบป้าย แล้วซึมผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด ทั้งนี้ หากนำยาสลบในลักษณะการกิน หรือ ยาฉีด มาถูกร่างกายจะก็ไม่มีผลให้ยาออกฤทธิ์ได้ อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.บางเขน ระบุว่า หลังผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเรื่องและดำเนินเรื่องตามขั้นตอน ซึ่งหลังจากพิจารณาพฤติการณ์ของคนร้ายแล้ว คาดเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์โดยการออกกลอุบาย จากนี้จะมีการสอบปากคำผู้เสียหาย และจะดำเนินตามกระบวนการขอออกหมายจับจากภาพวงจรปิดตามขั้นตอนต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ