กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว" เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพคนร้ายขณะวิ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายหนุ่มรายหนึ่งที่ยืนรอลิฟต์ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พระขโนง ทำให้ได้รับบาดเจ็บหูแหว่งขาดครึ่งและศีรษะแตก แต่ยังไม่ทราบว่าถูกทำร้ายด้วยอาวุธใด ก่อนจะมีพลเมืองดีหามตัวนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่า นายอัษฏาวุธ ทอนเสาร์ อายุ 23 ปี ผู้บาดเจ็บ กำลังเดินเข้ายังตึกคอนโดฯ ตามปกติหลังเลิกงานเพื่อยืนรอที่ลิฟต์ หลังจากนั้นคนร้ายวิ่งผ่านตึกคอนโดออกไป แล้วก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง เพื่อเข้ามาทางประตูทางเข้า
ส่วนภาพกล้องวงจรปิดมุมหน้าลิฟต์ จะเห็นว่านายก็อต (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ วิ่งเข้ามานำก้อนอิฐตัวหนอนฟาดเข้าที่ศีรษะและของนายอัษฏาวุธจนล้มและถูกฟาดที่ศีรษะอีกครั้ง ก่อนเดินกลับออกไป กางเกงหลุดล่วง พร้อมมือถือก้อนอิฐตัวหนอนเอาไว้
ล่าสุดวันที่ 21 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายอัษฏาวุธ ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 18 ม.ค.65 เวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อตนเลิกงานกำลังเดินเข้าตึกยืนหน้าลิฟต์ จู่ ๆ ก็มีคนร้าย ทราบชื่อว่านายก็อต (นามสมมุติ) วิ่งเข้ามาพร้อมอิฐตัวหนอนฟาดเข้าที่ศีรษะของตน และที่ใบหูข้างขวา ตนได้ยินว่านายก็อต พูดว่า "มึงนี่ 2 รอบแล้วนะ" ตนก็รีบตอบสวนกลับทันที "2 รอบอะไรพี่ ผมไปทำอะไรให้พี่" เขาก็พูดย้ำ ๆ กับตนว่า "มึงหลายรอบแล้ว" จากนั้นนายก็อต ก็ใช้อิฐตัวหนอนฟาดศีรษะตนซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป
ทั้งนี้ ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บหูขวาขาดครึ่ง และศีรษะแตก โดยหูข้างขวาเย็บทั้งหมด 15 เข็ม และศีรษะเย็บ 4 เข็ม ตอนนี้การได้ยินยังคงปกติ แค่มีอาการปวดระบม ต้องอยู่ในความดูแลแพทย์ ตนยอมรับว่าเพิ่งเข้ามาพักอาศัยที่คอนโดฯ เพียงแค่ 4-5 เดือน และเคยเห็นหน้านายก็อตมาก่อน แต่ก็ไม่เคยได้พูดคุยกัน เพราตนทำงานเสร็จก็กลับไม่ได้สุงสิงกับใคร และยืนยันว่าตนไม่เคยไปหาเรื่องเขาก่อนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากที่ตนเห็นนายก็อต ลักษณะคล้ายคนหลอนยาเสพติด เพราะเมื่อก่อนเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนมาก่อน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ตอนนี้ตนค่อนข้างกลัวในเรื่องความปลอดภัย ไม่กล้ากลับไปที่คอนโดฯ หากไม่สามารถจับคนร้ายได้อาจจะต้องย้ายที่พัก ตนจึงอยากให้ตำรวจจับคนร้าย และให้นำตัวส่งบำบัดเพราะหากเขายังใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ ถือว่าเป็นภัยสังคมมาก ๆ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังคอนโดฯ ตึก S อาคารสูง 10 ชั้น บริเวณหน้าอาคารเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถจักรยานยนต์ เมื่อเดินเข้ามาบริเวณทางเข้าใต้อาคาร ไม่มีประตูปิดกัน ผู้คนสามารถเดินเข้าออกได้ง่าย เมื่อตรงเข้าไปก็จะพบกับลิฟต์อาคาร 2 ตัว ที่ผู้บาดเจ็บกำลังยืนรอขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพัก
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวเอ๋ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านห้องตรงข้ามผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนรู้เหตุการณ์ว่ามีนาย อัษฏาวุธ ผู้บาดเจ็บอ กำลังยืนกดลิฟต์ รอลิฟต์อยู่ เพื่อที่จะนำข้าวไปให้แฟนสาว ต่อมาไม่นาน นายก็อต (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ วิ่งนำอิฐไปทุบหัวผู้บาดเจ็บ และวิ่งออกจากที่เกิดเหตุ นำอิฐไปทิ้งคลอง หลังคอนโดมิเนียม
เมื่อนายก็อตทิ้งอิฐเสร็จ ก็วิ่งหนีกลับมาที่คอนโดตึก K และพูดเสียงดัง "แม่ครับ ๆ เปิดประตูๆ" ลักษณะท่าทางลุกลี้ลุกลน ส่วนตัวจากที่มองภายนอก นายก็อต เหมือนคนธรรมดาปกติทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนสติไม่สมประกอบ บางครั้งเหมือนปกติ แต่บางครั้งไม่ปกติ อารมณ์แปรปรวน อาการเหมือนคนเสพยาเสพติด ซึ่งจากที่ทราบจากแม่ผู้ก่อเหตุ นายก็อตเป็นคนเสพยาเสพติด และอยู่ระหว่างการเข้ารับบำบัด หากวันใดไม่ได้ซื้อยามาเสพ ก็จะมีอารมณ์แปรปรวน
ทั้งนี้ ตนยอมรับชาวบ้านในพื้นที่กลัวนายก็อต เคยก่อเหตุมามากมาย ทั้งเคยโวยวายด่าทอร้านขายของชำ นำไม้กวาดมาไล่ฟาดไล่ตีชาวบ้านจนบาดเจ็บ อีกทั้งเคยบีบคอเด็กในพื้นที่อีกด้วย ส่วนตัวอยู่ห้องตรงข้ามกลัวมากกลัวว่าจะถูกเผาห้อง ตนไม่รู้ว่าอารมณ์เขาจะแปรปรวนมากแค่ไหน
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยืนยันว่าผู้บาดเจ็บ ไม่มีทางที่จะเป็นคนสร้างเรื่อง หาเรื่องใครก่อน ไม่ใช่คนที่ เบิ้ลรถใส่อย่างแน่นอน ตอนนี้ไม่รู้จะหาความปลอดภัยอย่างไร เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจ เนื่องจากหากคนปกติทำร้ายร่างกายคนบ้า ก็ผิดผิดกฏหมาย แต่คนบ้ามาทำร้ายร่างกายคนปกติ ไม่สามารถแจ้งความจับกุมตัวได้" นางสาวเอ๋ กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ นางสาวธัญธิตา สุทาธายน อายุ 43 ปี น้าผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า นายอัษฏาวุธ หลานชายกำลังเลิกงานยืนอยู่หน้าลิฟต์ในคอนโดฯ จู่ ๆ ก็มีคนร้ายใช้อิฐตีที่ศีรษะหลายครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนบริเวณใกล้เคียงไม่กล้าเข้าไปช่วยห้าม จึงได้ประสานเรียกมูลนิธิและส่งตัวไปยัง รพ.ห้วยน้ำไทย แต่หลานชายมีประกันที่ รพ.วิภาราม
แต่เมื่อไปถึงก็ยังไม่ได้ทำอะไร กระทั่งพูดคุยกับแพทย์จนกว่าจะได้ผ่าตัด เนื่องจากเป็นเคสฉุกเฉิน รอนานประมาณเกือบ 24 ชั่วโมง ก็ได้รับการผ่าตัด และหลังผ่าตัดพักฟื้น 1 วัน ก็ให้ออกจากโรงพยาบาลทันที ตนกลัวว่าจะมีค่ารักษาค่อนข้างสูง เมื่อออกจากโรงพยาบาล ในวันที่ 20 ม.ค.65 ตนจึงรีบพาหลานชายเข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง โดยตนก็เอะใจสงสัยว่า สาเหตุใดถึงไม่จับตัวคนร้าย เนื่องจากคนร้ายเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดฯ
"ส่วนตัวติดใจมากว่า ทำไมตำรวจไม่จับตัวไปสอบสวนตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ คนร้ายนั้นชาวบ้านก็รู้ว่าเป็นคนที่เสพสายเสพติด ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า ไอ้เสพ เพราะติดยา และเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่นมาแล้ว และถูกคุมขังเพียงแค่ 2 วัน อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการ ไม่ใช่ให้รอผลใบรับรองแพทย์ ทำไมไม่เร่งตามจับตัวคนร้ายสักที" นาผู้บาดเจ็บ กล่าว