ฉะยับ รพ. ปล่อยชายฉกรรจ์อ้างเป็น ตร. อุ้มสาวโควิดหนี พ่อช่วยลูกทันจ่อเอาผิด (คลิป)

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2565 ที่ สน.โชคชัย นายพล (นามสมมติ) พ่อของ น.ส.เอ (นามสมมติ)  ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ หลังลูกสาวถูกชายอ้างเป็นตำรวจอุ้มออกจากโฮสพิเทล ขณะที่รักษาอาการป่วยโควิด-19 อยู่

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับพ่อของผู้เสียหายคือ นายพล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้คบหากับผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายออ (นามสมมติ) คบหากันได้ประมาณ 2-3 เดือน เเต่พฤติกรรมของนายออเป็นคนอารมณ์เเปรปรวน หวาดระเเวง ไม่ให้ลูกสาวออกจากห้อง เวลาจะไปไหนต้องอยู่ใกล้กันตลอด เวลาทำอะไรไม่พอใจก็จะฉุดกระชากลากถู ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว จึงเตือนลูกสาวว่าให้เลิกยุ่ง

จนกระทั่งวันที่ 15 มกราคม ลูกสาวอาศัยจังหวะที่นายออนอนหลับ หนีออกจากห้องไปเพื่อจะไปหาพ่อ จึงได้ไปตรวจโควิดก่อน เพราะก่อนหน้านั้นเพิ่งไปเที่ยววัดที่ภาคใต้มา ต่อมาวันที่ 16 มกราคม ผลตรวจออกปรากฏว่าลูกสาวติดโควิด จึงเข้ารับการรักษาที่ โรงแรมซึ่งเป็นโฮสพิเทลที่โรงพยาบาลจัดหาไว้ให้

หลังจากรักษาตัวได้ประมาณ 5 วัน ในช่วงตี 4 ของวันที่ 19 มกราคม ก็มีชายฉกรรจ์ 4-5 คน นำโดยนายออบุกเข้ามาที่โฮลพิเทล อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ พร้อมชูบัตรให้เจ้าหน้าที่ดู บอกว่ามารับตัวลูกสาวไป เพราะลูกสาวมีหมายจับ เนื่องจากไปขโมยเงินมา 1 ล้านบาท พร้อมกับโชว์หมายให้กับพยาบาลดู หลังจากนั้นพยาบาลได้โทรขึ้นมาหาลูกสาว บอกให้เปิดประตูห้องไว้ โดยไม่ได้เเจ้งรายละเอียดใด ๆ

กลุ่มคนเหล่านั้นขึ้นมาหาลูกสาวถึงที่ห้องพัก แล้วเขาก็ฉุดกระชากลูกสาวตนไป แล้วพามาอยู่ที่คอนโดย่านรามคำแหง ซึ่งลูกสาวอาศัยจังหวะที่นายออนอนหลับ เเอบส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือจากตน

วันที่ 20 มกราคม เวลา 16.00 น. พ่อเดินทางเข้าเเจ้งความรอบเเรกที่ สน.โชคชัย จากนั้นตำรวจเเละกลุ่มอาสาเส้นด้าย เดินทางไปดักรอที่คอนโดดังกล่าว เเละบังเอิญเจอพอดี จึงรับตัวไปรักษาที่อื่น ต่อมาวันที่ 22 มกราคม เวลา 13.00 น. ตนเดินทางไปเเจ้งความรอบ 2 เพื่อขอให้ตำรวจไปดูกล้องวงจรปิด จากนั้นเวลา 16.00 น. ตนเเละตำรวจเดินทางไปยังโฮสพิเทลที่เกิดเหตุ เพื่อขอดูกล้อง เเต่ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ อ้างว่าเป็นเขตควบคุมโรค

ซึ่งตนเองรู้สึกข้องใจมาก เนื่องจากวันนี้ไปพร้อมตำรวจในเครื่องเเบบ ทางโรงพยาบาลไม่ให้เข้า ไม่ให้ความร่วมมือ เเต่ก่อนหน้านั้นกลับปล่อยให้ชายฉกรรจ์ซึ่งไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเป็นใคร บุกเข้าไปลักพาตัวลูกสาวถึงในโรงพยาบาล ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ต้องการมี 2 เรื่อง คือเอาเรื่องกับโรงพยาบาล และต้องการดำเนินคดีกับคนที่ลักพาตัวทั้งหมด