กรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอที่บันทึกได้ขณะอยู่ในสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา ปราฏภาพผู้ชายสวมเสื้อสีฟ้า ผ่านจุดตรวจมาเเล้วแต่กลับพูดว่า "พกมีด พกระเบิด มา 20 ลูก" ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาบอกว่า การพูดลักษณะนี้ไม่ควรกระทำเพราะผิดกฎบังคับของสนามบิน ซึ่งเป็นคำพูดที่ต้องห้ามตามกฎระเบียบ
แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวกลับไม่พอใจ และไม่ยอมฟังอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เอาแต่พูดยกตัวอย่างว่า ถ้ามีคนนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาในสนามบินจริง ๆ แล้วไม่บอกจะทำอย่างไร ซ้ำยังอ้างว่า "ผมหวังดีนะครับ แค่ต้องการทดสอบพนักงานว่าจะตรวจเจอไหม" พร้อมกับขึ้นเสียงใส่เจ้าหน้าที่ และข่มขู่เจ้าหน้าที่ว่า "รู้ไหมว่าผมเป็นใคร ผมเคลียร์นายกฯ ได้"
ขณะที่อีกคลิปจะปรากฏภาพหัวหน้าการท่าอากาศยาน เข้ามาเจรจากับชายคนดังกล่าว โดยชายดังกล่าวก็ยังอ้างตัวว่าเป็นองครักษ์ ทหารเรือรุ่น 43 จึงถูกขอดูบัตรประจำตัว แต่คำพูดของชายคนดังกล่าวเริ่มไปไม่เป็น ก่อนจะแสดงอาการเลิกลั่ก เจ้าหน้าที่จึงยืนยันว่าต้องนำตัวไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ชายคนดังกล่าวจะพูดว่า "ผมขอโทษ ผมกราบตี_พี่ก็ได้ พี่ตบผมได้เลยครับ" ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่หลายต่อหลายครั้ง
ล่าสุดวันที่ 28 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังท่าอากาศยานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม 65 ที่ผ่านมา โดยจุดเกิดเหตุคือบริเวณควบคุมพิเศษของผู้โดยสารขาออก พบว่าชายคนดังกล่าวมีลักษณะท่าทางคล้ายคนเมาสุรา ก่อนจะยืนพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เครื่องเอกซเรย์สิ่งของและวัตถุ อ้างว่าในกระเป๋ามีระเบิด แต่เจ้าหน้าที่ก็ตรวจไม่พบวัตถุระเบิด และสิ่งของต้องห้าม จึงได้ปรามชายดังกล่าวว่าห้ามพูดเช่นนี้
แต่ชายดังกล่าวกลับไม่พอใจที่ถูกกล่าวตักเตือนและแสดงอาการโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ และอ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศองครักษ์ หลังจากนั้นยังต้องการคุยกับหัวหน้าเพื่อจะจบเรื่องดังกล่าว แต่ท้ายที่สุดแล้วหลับถูกควบคุมตัวออกไปนอกท่าอากาศยาน และไม่ได้ขึ้นเครื่องบินกลับไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองในวันดังกล่าวอีกด้วย
เวลา 15.00 น. พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่พันจ่าเอกไพโรจน์ สังกัดประจำกรมสื่อสารเทคโนโลยีและสารสนเทศทหารเรือ ใช้กิริยาวาจาที่ไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ประจำท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ในวันที่ 26 มกราคม 65 ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของพันจ่าเอกไพโรจน์ ได้เรียกตัวให้เข้ารายงานกับต้นสังกัด พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
โดยกรมการสื่อสารเทคโนโลยีและสารสนเทศทหารเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ได้ออกคำสั่งลงทัณฑ์ ด้วยหหารขังพันจ่าเอกไพโรจน์ ในฐานใช้กิริยาวาจาไม่สมควรหรือประพฤติไม่สมควร ซึ่งมีกำหนดลงทัณฑ์ 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 65 ไปจนถึง 10 กุมภาพันธ์ 65 พร้อมทั้งให้เข้ารับการธำรงวินัย ณ ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และมีกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 65 ไปจนถึงวันที่ 12 มีนาคม 65
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับชั้นของพันจ่าเอกไพโรจน์ ได้ขออนุญาตผู้บัญชาการทหารเรือ เข้ารับการธำรงวินัย ณ ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 65 เป็นต้นไป ได้แก่ เจ้ากรมการสื่อสารเทคโนโลยีและสารสนเทศทหารเรือ เข้ารับการธำรงวินัย จำนวน 3 วัน และผู้อำนวยการกองกลาง กรมการสื่อสารเทคโนโลยีและสารสนเทศทหารเรือ เข้ารับการธำรงวินัย จำนวน 5 วัน
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวย้ำด้วยว่า ช่วงเช้าของวันนี้กองทัพเรือได้จัดประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ประจำเดือนมกราคม 65 โดยมีพลเรือเอกสมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน สั่งการในที่ประชุมให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือทุกหน่วย พร้อมกับเน้นย้ำกำลังพลให้ปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย เป็นที่พึ่งของประชาชน หากพบว่ากำลังพลรายใดประพฤติตนเป็นทหารนอกแถว หรือปฏิบัติตนไม่สมควร กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวินัยทหาร หรือกระทำผิดกฎหมาย กองทัพเรือจะดำเนินการตามข้อกฎหมายและระเบียบของทางราชการอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีข้อยกเว้น และไม่มีการปกป้องคนผิดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อไป
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ น.ส.จิ๊บ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกับพันจ่าเอกไพโรจน์ โดยเหตุการณ์การดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 21.00 น. ของวันที่ 26 มกราคม 65 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นเที่ยวบินที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนเกิดเหตุพันจ่าเอกไพโรจน์ ได้เดินมายืนอยู่ข้าง ๆ ตน พร้อมกับพูดว่า "กูพกระเบิดมา 20 ลูก อยู่ในกระเป๋า" พูดประโยคเดิมอยู่หลายครั้ง ตอนเเรกก็พูดเบา ๆ เเล้วก็พูดดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตนและผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่ได้ยินเเตกตื่น รีบคว้ากระเป๋าเเล้วถอยห่างออกมา เเละได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์บางช่วงเอาไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ซึ่งได้ยินมาตั้งเเต่เเรก ก็เดินมาตักเตือนพันจ่าเอกไพโรจน์ ว่าห้ามพูดคำเเบบนี้ในสนามบิน เเต่พันจ่าเอกไพโรจน์ ก็ไม่ยอมหยุด ซ้ำยังเถียงใส่เจ้าหน้าที่และขึ้นเสียงว่า "ก็เเค่พูดเล่น ทดสอบไม่ได้เหรอ" เเละยังอ้างว่าตัวเองเป็นนายทหารยศใหญ่ มีตำเเหน่งสูง
หลังจากนั้นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็เข้ามาพูดคุยด้วย ทำให้พันจ่าเอกไพโรจน์ เริ่มมีท่าทีอ่อนลง และพยายามขอโทษว่า เเค่ต้องการทดสอบเจ้าหน้าที่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวออกจากสนามบิน ขณะที่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ก็เดินทางกันตามปกติ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกตกใจมาก ๆ ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะถึงเเม้จะอ้างว่าพูดเล่น เเต่คนที่ได้ยินไม่ตลกด้วย
ทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.คลองหอยโข่ง จึงสอบถามกับพ.ต.อ.พิเชษฐ์ สมรรคจันทร์ ผกก.สภ.คลองหอยโข่ง กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้เชิญเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานหาดใหญ่ เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปชายคนดังกล่าวพูดว่ามีระเบิดในกระเป๋าภายในสนามบิน จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และส่งหนังสือไปยังต้นสังกัดกรมทหารสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ
โดยภายหลังทราบชื่อผู้กระทำความผิด พันจ่าเอกไพโรจน์ ข่าวแก้ว อายุ 41 ปี เพื่อให้ต้นสังกัดส่งตัวมาสอบปากคำและเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จและการนั้นเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยาน หรือในระหว่างการบินตื่นตกใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22