กรณีหลวงพ่อ พระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ควบคุมตัวเด็กอายุ 9 ปี และ 17 ปี ในข้อหาขโมยเงินไปกว่า 1 แสนบาท ซึ่งอยู่ในย่ามที่แขวนไว้ในกุฏิ ขณะที่หลวงพ่อออกไปบิณฑบาต
แต่เมื่อกลับมาจากบิณฑบาต หลวงพ่อได้นำย่ามใบดังกล่าวออกมาค้นหาเอกสาร เพื่อจะนำไปทำธุระ แต่ปรากฏว่าต้องตกใจอย่างหนัก เพราะเงินในย่ามที่มัดไว้ด้วยหนังยาง หายไปกว่า 1 แสนบาท จึงคิดว่าเป็นเด็กอายุ 9 ขวบ น่าจะเป็นผู้ที่ขโมยเงินไป เพราะในช่วงเช้ากุฏิไม่ได้ปิด แล้วเด็ก 9 ขวบคนนี้ก็ยังอยู่ภายในวัด หลังจากนั้น หลวงพ่อจึงไปแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ลงพื้นที่สอบสวน จึงไปค้นที่บ้านของเด็กอายุ 9 ขวบ พบเงินซ้อนอยู่บริเวณใต้ที่นอน จำนวน 1,100 บาท โดยเด็กอ้างว่าเงินจำนวนที่ขโมยมานั้น ได้นำไปให้พี่อีกคนซึ่งอายุ 17 ปี ตำรวจจึงได้ไปค้นแต่ก็ยังไม่เจอ จึงได้นำตัวมาที่โรงพัก เพื่อทำการสอบสวน ทั้งนี้ เด็กอายุ 9 ขวบ ได้รับสารภาพว่าถูกเพื่อนรุ่นพี่อายุ 17 ปี บังคับให้ไปขโมยเงินหลวงพ่อเอามาแบ่งกันและนำไปเล่นเกม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปควบคุมตัวรุ่นพี่อายุ 17 ปี และได้สอบถามแต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้นำเงินไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ก่อน เพื่อทำการสอบสวน เนื่องจากเงินที่เอามานั้นยังหายไปประมาณ 1 แสนบาท จึงต้องควบคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้น
พระจำเนียร สีประยูร พระลูกวัดดังกล่าว เปิดเผยว่า วันดังกล่าวอาตมาได้ออกไปบิณฑบาตตอนเช้า และทุก ๆ ครั้งจะเก็บเงินไว้ในย่ามมัดรวมเป็นเงิน 3 ก้อน หลังจากกลับจากบิณฑบาต และค้นหาเอกสาร ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าเงินหายไป แต่ค้นในย่ามก็ปรากฏว่าเงินหายไปทั้งหมด อาตมาจึงรู้สึกสงสัยเด็กอายุ 9 ขวบ ที่โยมแม่ของอาตมานำเด็กมาฝากให้ดูแลได้ 3 วัน
ขณะที่นางสะอาด ภาคีวุฒิ อายุ 72 ปี มารดาของพระจำเนียร กล่าวว่า พระจำเนียรบวชมาแล้ว 4 พรรษา แต่ตนเห็นความสำคัญของเด็ก จึงนำมาฝากไว้ให้กับพระลูกชายเลี้ยงเพื่ออบรมสั่งสอน แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุเช่นนี้ ทั้งหมดก็อยู่ที่ตำรวจก็แล้วกัน ส่วนตนพอทราบเรื่องก็เดินทางไปหาแม่ของเด็กอายุ 9 ปี แต่แม่ของเด็กนำเงินมาคืนเพียง 6,900 บาทเท่านั้น ส่วนเงินส่วนที่เหลืออีกแสนกว่าบาทยังหายไป สอบถามเด็กก็อ้างว่า นำเงินไปให้พี่อีกคนอายุ 17 ปี
เด็กอายุ 17 ปี ซึ่งมากับแม่ถูกตำรวจควบคุมตัวมาที่ห้องสืบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวสั้น ๆ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นเรื่องจริงตามที่เด็ก 9 ขวบโยนความผิดมาให้ตน ตนขอปฏิเสธทั้งหมด เพราะไม่ได้ขโมยเงินของพระจำเนียร จะให้ตนสาบานก็ได้ เนื่องจากตนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
ขณะที่แม่ของเด็กอายุ 17 ปี กล่าวด้วยความมั่นใจว่า ลูกของตนไม่ได้ขโมยเงินไปอย่างแน่นอน ส่วนเด็กอายุ 9 ขวบที่ซัดทอดว่าตนมีความเกี่ยวข้องด้วย "ดิฉันไม่รู้เรื่องเลย สาบานได้ไม่เคยเอาไป และไม่รู้เรื่องเพราะถูกใส่ร้าย"
แม่ของเด็กอายุ 9 ขวบ กล่าวว่า ลูกของตนมักจะโดนเด็กอายุ 17 ปี ขู่บังคับให้ไปขโมยของเป็นประจำ ๆ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ส่วนลูกชายของตนก็หายไป 3 วันแล้ว ยังไม่ได้กลับมาบ้าน ตนเพิ่งมารู้ว่าลูกชายไปขโมยเงินพระจำเนียร
พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เด็กอายุ 17 ปี ยังปฏิเสธว่าไม่ได้เอาเงินไป และไม่ได้รู้เรื่องว่ามีการขู่ให้ขโมยเงิน อีกทั้งคดีนี้เป็นเด็กและเยาวชน จึงต้องมีการสอบสวนให้รอบคอบ และทราบว่าหลวงพ่อ น่าจะไม่เอาเรื่องเอาราว แต่ก็ต้องรอคุยก่อนว่าจะเอาดำเนินการอย่างไรกันดี ส่วนเงินของหลวงพ่อหายไปประมาณ 110,000 บาท เด็ก 9 ขวบก็ยอมรับสารภาพ และไปชี้ที่จุดเกิดเหตุ