กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2” โพสต์ข้อความระบุว่า “ขนส่งมีงานทำอีกละ ขับรถสาธารณะแต่...#แท็กซี่ทุกวันนี้ปลอดภัยพอหรือยัง…เกิดจากขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้าน พอขึ้นรถมาแต่ไม่มีเงินสด เลยถามคนขับไปว่าสะดวกโอนไหม เค้าบอกไม่สะดวก เราเลยขอแวะกดเงินสดได้ไหม แต่เค้ากลับบอกเราว่าเสียเวลาทำมาหากิน และกลับมีปฏิกิริยาไร้มารยาท แถมด่าเราตามในคลิป มีเงินจ่ายจ้าไม่ได้หนีเนาะ ปล.กะเทยกลัวโดนตีนะ ขึ้นแท็กซี่บ่อยนะ ไม่เคยเจอขนาดนี้ กดเงินไม่ถึง 1 นาที พอเลยแท็กซี่ไร้ความปลอดภัยและบริการแย่ ๆแบบนี้”
ล่าสุดวันที่ 30 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายกัณฑ์ญาติพงศ์ พันทวี อายุ 20 ปี ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.65) ช่วงค่ำ ๆ ขณะนั้นตนไปทานข้าวกับเพื่อนบริเวณใกล้แยกสุขสมาน พอช่วงกลับบ้านได้เรียกแท็กซี่ปลายทางลาดกระบัง 16 ซึ่งระยะทางไม่ไกลมาก เมื่อขึ้นไปบนแท็กซี่แล้วตนหาเงินในกระเป๋าพบว่าไม่มีเงินสด ตนจึงได้สอบถามแท็กซี่ว่า “พี่สะดวกโอนไหม” แท็กซี่ตอบกลับมาว่า “ไม่ได้” ขณะนั้นตนไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะคิดว่าใกล้จะถึงบ้านจะขอลงไปกดเงินให้
เมื่อถึงหมู่บ้านที่ตนพักอาศัย มีตู้กดเงินอยู่ใกล้ค้านสะดวกซื้อ ตนจึงขอให้แท็กซี่แวะจอด เพื่อลงไปกดเงิน โดยแท็กซี่ได้เอ่ยปากว่า “จะมากดอะไรตอนนี้ เสียเวลาทำมาหากิน” ตนยอมรับว่าตนได้พูดโต้ตอบกลับไปว่า “จะเสียเวลาอะไร หนูไปกดตังค์ให้พี่ เพราะพี่ไม่สะดวกให้โอนไง ต้องเอาเงินสดมาให้พี่” แท็กซี่จึงตอบกลับมาว่า “งั้นรีบไปกดเงินสดมา แล้วเอาตังค์มาให้ และจะส่งตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ ไม่ไปส่งถึงบ้าน”
ทั้งนี้ ตนจึงลงไปกดเงิน พร้อมกับคิดว่า แท็กซี่จะมาส่งถึงแค่ร้านสะดวกซื้อไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงที่หมายปลายทาง พอกดเงินเสร็จตนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกคลิปวิดีโอเอาไว้ เมื่อมาถึงบ้านแท็กซี่ก็ไม่ยอมรับเงินพร้อมกับด่าทอ ตนจึงตอบกลับไปว่า เอาเวลาที่ด่าทอตนไปรับคนอื่นดีกว่าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ผิด ตนไม่ได้เบี้ยวค่าแท็กซี่ เพียงแต่ตนไม่มีเงินสดเท่านั้น ซึ่งแท็กซี่ก็ควรที่จะเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่มาด่าทอร่ายยาวแบบนี้ สำหรับตนแล้วใช้บริการแท็กซี่อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนยอมรับว่า ขณะนั้นทั้งตกใจและโกรธ ส่วนตัวไม่ได้ไปแจ้งขนส่ง เพราะไม่มั่นใจว่าขนส่งจะช่วยเหลืออะไรตนหรือไม่ หากแท็กซี่คนที่ด่าทอเห็นข่าวแล้ว ตนก็อยากให้เขาเข้ามาขอโทษ และหลังจากนี้ตนก็ยังคงใช้บริการแท็กซี่ตามปกติ ตนเชื่อว่าคงจะไม่เจอแบบนี้อีกแล้ว