บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ปี 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มตกหล่นให้เข้าถึงโครงการ
ทั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ 20 ล้านคน คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการเดิมและผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่ คาดสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งมีกรอบวงเงิน 564.455 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจ้างเหมาบริการระบบลงทะเบียน และการยืนยันตัวตน 164.274 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรับลงทะเบียน ของหน่วยรับลงทะเบียน 400.181 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบ ของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว
สำหรับ คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน คือ
- ผู้ที่มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ต้องไม่เป็นภิกษุ ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐ
- รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
- รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
ขณะเดียวกัน ผู้ลงทะเบียน ต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ เช่น วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น รวมถึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที คณะกรรมการกำหนด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ได้บัตรสวัสดิการและปัญหาผู้มีบัตรที่ไม่ควรได้รับสิทธิ ทั้งนี้ จะเปิดรับลงทะเบียน ตามโครงการฯอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และ จะตรวจสอบคุณสมบัติและตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งอีกด้วย
ในส่วนของผู้ได้รับสิทธิจากโครงการฯ ปี 2565 จะใช้บัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรสวัสดิการ เนื่องจากบัตรสวัสดิการที่ได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือนต.ค. 2560 มีอายุการใช้งาน 5 ปี และจะหมดอายุในเดือนก.ย. 2565 ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนการผลิตบัตรสวัสดิการใหม่ ประมาณ 1,258 ล้านบาท อีกทั้งลดปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์บัตรประจำตัวประชาชน หรือการนำบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลอื่นไปใช้สิทธิ์แทน และช่วยลดการทุจริต เช่น กรณีร้านค้าเก็บบัตรสวัสดิการไว้เอง
อนึ่ง โครงการลงทะเบียนฯปี 65 มีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขดำเนินการบางประการที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มเติมเงื่อนไข เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน และการดำเนินการให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ในปัจจุบันไม่สามารถสะท้อนข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง จึงจำเป็นต้องลงทะเบียนรอบใหม่ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการแห่งรัฐอย่างครบวงจร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็กเลย! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 กุมภาพันธ์ 65 เงินค่าครองชีพเข้า 500 บาท
- รัฐบาลสายเปย์! แจกเงินผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ -กลุ่มเปราะบาง คนละ 600 บาท เริ่มเลย เดือน ก.พ.นี้
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับใหม่ใช้ AI กรองคนจนไม่จริงลงทะเบียน-ดันออกจากระบบ