เมื่อเวลา 12.00. ของวันที่ 1 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอปากพลี ชุดสืบอำเภอปากพลี ได้ติดตามสืบหาและติดตามจับกุม นางสาวปรารถนา หรือ กุ้ง เชียงใหม่ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีตุ๋นเงินข้าราชการครูบำนาญ และคนสนิทรวมกว่า 100 ล้านบาทได้ที่บ้านสามี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบปากพลี ได้ควบคุมตัวมาพร้อมรถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ก-2357 ปราจีนบุรี มาที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่อส่งร้อยเวรทำการสอบสวนและดำเนินคดี
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ปากพลี จ.นครนายก ติดตามความคืบหน้าของคดี ในวันนี้ไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจยังคุมตัวนางสาวปราถนาโดยยังไม่มีการสอบปากคำเพิ่มเติม คาดว่าจะมีการส่งตัวต่อศาลในวันพรุ่งนี้ ในข้อหาฉ้อโกงผู้อื่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยในชั้นสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
ในขณะทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของกุ้งที่ ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก อีกครั้ง พบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน สภาพข้าวของหน้าบ้านยังกระจัดกระจายเช่นเดิม และจากข้อมูลทราบว่ามีการตัดไฟฟ้า และน้ำประปาแล้ว
นางลำดวน (นามสมมติ) อายุ 66 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองทราบข่าวจากตำรวจว่าจับตัวนางกุ้งได้แล้ว จึงรีบเดินทางไปที่ สภ.ปากพลี เพื่อไปเจอกุ้ง เมื่อกุ้งมาถึงไม่ได้พูดคุยกัน เพราะตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำทันที ตนเองดีใจที่ตำรวจติดตามตัวได้รวดเร็ว เรื่องจากเป็นคดีที่น่าสนใจ ขอขอบคุณตำรวจที่เร่งติดตามตัวให้
โดยเมื่อวานนี้ ดูจากสีหน้าแววตากุ้ง เขาไม่ได้มีความกังวล แถมยังจะเตรียมทนายความเพื่อฟ้องตนเองกลับอีกด้วย เพราะกุ้งปฏิเสธทุกข้อหา ตนอยากจะบอกกุ้งให้ยอมรับความจริง ขณะที่ตนเองก็ยังมีความกังวลเรื่องเงินที่ยังไม่ได้คืน ส่วนหลังจากนี้หากกุ้งมาขอโทษคงไม่ให้อภัยอีกแล้ว เพราะกุ้งตั้งใจทำแบบนี้ ตั้งใจหลอกลวงตนเอง และคนอื่น ๆ อีกหลายคน ต่อจากนี้ตนเองคงจะต้องขายที่ดินที่พอมีอยู่ เพื่อใช้หนี้สินที่มีอยู่
นายอนงค์ บ้านใหม่ อายุ 68 ปี ญาติของนางกุ้ง ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองดีใจที่ตำรวจจับตัวกุ้งได้ เมื่อวานนี้ตนเองก็ได้ไปรอกุ้งที่สภ.ปากพลี โดยยังไม่ได้พูดคุย หรือเดินทางไปเยี่ยม ตนเองอยากขอให้กุ้งยอมรับความผิดในสิ่งที่กระทำไว้ ส่วนที่ไม่ได้ทำก็ขอให้เอาหลักฐานมาสู้
ตนเองไม่ทราบว่าจะประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแม่ของกุ้ง แต่เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวานนี้มีทนายความของกุ้งมาด้วย คงจะมีการเตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอประกันตัว แต่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ตนเองไม่ได้มีความกังวลใด ๆ แล้ว แต่อยากให้กุ้งหรือสามี มาเจรจาพูดคุยกับผู้เสียหายว่าจะคืนเงินอย่างไรบ้าง เพราะตอนนี้ทุกคนเดือดร้อน
นางเฝอ (นามสมมติ) เจ้าของบ้านที่ญาติสามีนางสาวกุ้งมาเช่าอยู่ เผยว่า บ้านหลังนี้ อาของสามีนางสาวกุ้งได้มาเช่าเพื่อขายของ ขายน้ำเต้าหู้ตั้งแต่ปี 2563 แต่เปิดหน้าร้านไว้ขายของเฉย ๆ ไม่ได้มีใครมาอาศัยยู่ จนเมื่อวันที่ 22 ม.ค. อาของสามีนางสาวกุ้งได้ขอพาหลาน และลูก ๆ ของหลานมาพักอยู่ชั่วคราว เพราะบริษัทที่เคยทำงานนั้นปิดช่วงโควิด-19 ตนก็ไม่ได้ติดใจ
อีกทั้งตลอดเวลาที่มาอยู่ นางสาวกุ้ง สามี และลูกสาวก็อยู่กันแต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหนกัน และไม่ได้มีใครมาถามหา อีกทั้งส่วนตัวก็ไม่เคยได้พูดคุยด้วย แม้แต่ใบหน้ายังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ กระทั่งเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมนางสาวกุ้ง ตนจึงทราบว่า หนีคดีมา และทราบเพียงว่าไม่หลอกเงินคนอื่นเท่านั้น พอทราบเรื่องตนก็รู้สึกตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับผู้เช่าบ้าน แต่เข้าใจว่าทุกคนก็ไม่ทราบเรื่องเหมือนกัน