"เล็ก ฝันเด่น" เล่าเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยปาบึก เผยใจรักในการกู้ภัยแม้อาการเอ็นเข่าฉีกยังไม่หายดี (คลิป)

ในฐานะทีมกู้ภัย เมื่อภาคใต้ประสบภันปาบึก "ใหญ่ ฝันดี - เล็ก ฝันเด่น" ในนามทีมใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังพายุและช่วยเหลือประชาชน โดยในวันที่ 4 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา "เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร" ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดประสบภัยพายุปาบึก ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊ก Alex Marine Junyatanakorn ซึ่งในภาพเผยในเห็นคลื่นลมริมทะเล ที่กำลังซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง ทำให้การไลฟ์ต้องยุติลงในเวลาไม่นาน เนื่องจากลมกระโชกแรงสัญญาณขาดหาย วันนี้ (7 ม.ค. 62) "เล็ก ฝันเด่น" ได้เดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯในเวลา 12.30 น. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีจึงได้เข้าไปสอบถามถึงสถานการณ์พายุปาบึกและภารกิจในครั้งนี้ โดย "เล็ก ฝันเด่น" ได้เล่าว่า ตนเริ่มต้นภารกิจช่วยเหลือจากการติดตามข่าว ตั้งแต่ช่วงปลายปีต้นปี เพราะกรมอุตุฯ ได้กล่าวเอาไว้ว่าอาจจะมีพายุก่อตัว เมื่อรัฐบาลมีการประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง ในวันที่ 3 ม.ค. ตนและทีมจึงได้นัดกันเพื่อออกเดินทางไปยังภาคใต้ โดยได้นำเลื่อยยนต์ รถกระบะ 2 คัน และเรือกู้ภัยอีก 2 ลำ ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ตอนเที่ยงและเดินทางไปถึงจังหสัดสุราษฎร์ธานีในตอน 5 ทุ่ม "เล็ก ฝันเด่น" เล่าต่อว่า หลังจากค้างคืนในวันที่ 3 มกราคม พอรุ่งเช้า (4 ม.ค.) ตนและทีมก็เดินทางต่อไปยัง อ.ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งในวันนั้นพายุปาบึกยังเข้ามายังฝั่งไม่เต็มที่ แต่แค่ขอบรัศมีของพายุก็เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก มีทั้งลมและฝน สิ่งที่ต้องระวังคือสิ่งที่ลอยปลิวมา หลังจากนั้นตนก็ได้รับแจ้งว่าที่อำเภอปากพนัง เริ่มได้รับความเสียหาย ไฟฟ้าดับ ปริมาณน้ำท่วมสูง ตนและทีมจึงได้เดินทางเพื่อไปสมทบกับหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ทหาร และหน่วยงานของรัฐ ที่คอยช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่นั้น ยอมรับว่ามีความยากลำบากในการประสานงานเนื่องจากระบบการสื่อสารและสัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกตัดขาด เมื่อตกค่ำตนและทีมก็ไปออกจากพื้นที่เพื่อย้อนกลับไปที่ตังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะรายงานสภาพอากาศชี้ว่าพื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบจากพายุ แต่โชคดีที่พายุอ่อนกำลังลง จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้รับผลกระทบแค่น้ำท่วมในบางส่วน เมื่อถามว่าพายุปาบึกคือภัยจากพายุที่หนักที่สุดที่เคยเจอในฐานะหน่วยกู้ภัยของ "ฝันเด่น" หรือไม่ ? เล็ก ฝันเด่น ตอบว่า ลมและน้ำมีความแรง ส่วนน้ำที่พัดพาบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างก็เป็นความรุนแรงในวงกว้าง ซึ่งเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) ตนก็เพิ่งได้เห็นภาพความเสียหาย เพราะสัญญาณการสื่อสารเริ่มกลับมาใช้การได้ ซึ่งถึงแม้ทีมกู้ภัยของตนจะเดินทางกลับมาแล้ว แต่ยังคงมีทีมกู้ภัยพื้นที่ที่คอยให้การช่วยเหลือฟื้นฟู ซ่อมแซมบ้าน เตรียมอาหาร อาหารแห้ง หากถามว่าเป็นภัยที่หนักที่สุดหรือไม่ ก็ตอบยาก ยอมรับว่าหนัก แต่ความเสียหายในแต่ละภัยก็มีความหลากหลาย อย่างเช่นเมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) ที่ต้นยืนอยู่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ครบรอบ 2 ปี สิ่งที่อยากบอกคือภัยเกิดขึ้นต่างเวลาต่างสถานที่แต่สิ่งทีตามมาคือความสูญเสียที่เหมือนกัน สิ่งที่ตนคิดเมื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคือตนอยากจะช่วยเหลือคนให้ได้มากที่สุด อยากจะบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยให้ได้ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือแรงใจที่จะช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะช่วยคนหรือสัตว์มันคือการดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยในฐานะมนุษย์ในฐานะคนไทยด้วยกันเท่าที่ช่วยได้ สำหรับสถานการณ์ของพายุปาบึกในขณะนี้ เล็ก ฝันเด่น บอกว่า เริ่มเบาบางลงแล้ว กำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ซ่อมแซม การทำสาธารนูปโภคขั้นพื้นฐาน (ถนน ไฟฟ้า ปะปา) อย่าลืมว่าผู้ประสบภัยไม่ได้มีแค่ผู้ใหญ่ มีทั้งเด็กและคนชรา ดังนั้นการฟื้นฟูต้องทำแบบครบวงจร อย่างที่เราได้เห็นกลุ่มต่าง ๆ ที่สมทบทุนหรือนำสิ่งของไปให้ และถ้าหากใครยังจำกันได้ ในช่วงที่คนไทยรวมตัวกันช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง เล็ก ฝันเด่น ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่รวบรวมทีมกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือหน่วยซีล จนตัวเองประสบอุบัติเหตุ เอ็นข้อเข่าซ้ายฉีกขาดในเกรด 3 แต่เจ้าตัวก็ยังคงทำหน้าที่กู้ภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่มาถึงทุกวันนี้ วันนี้ (7 ม.ค.) เล็ก ฝันเด่น ยอมรับว่าอาการบาดเจ็บนี้ยังไม่หาย อาการบาดเจ็บยังคงติดตัวไปตลอด หากอาการหนักกว่านี้ถึงขั้นเอ็นขาดจริง ๆ คงต้องผ่าตัด แต่ทุกวันนี้ตนยังไหว แต่ต้องระวังในการเดินโดยเพราะสถานที่ที่เป็นดินโคลน เพราะหากตนลื่นแล้วขาพลิก คงต้องพักรักษาตัว ซึ่งใช้ระยะเวลานาน ตนมาทางนี้มาด้านนี้ ตนรักในการกู้ภัย "เมื่อไรที่ได้เห็นสายตาของคนที่เราไปช่วย มันเป็นสิ่งที่ภาษาอธิบายไม่ได้ เวลาที่ใครติดอยู่ในที่มืดมิดหรือขับขัน การได้ไปช่วยเหลือ สายตานั้นจะบ่งบอกถึงความหวัง เราคือความหวังที่ไปถึงเขา ฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่สุด" เพราะตนเคยเจอกับเหตุการณ์ตึก 6 ชั้น ถล่ม แต่ตนไม่มีอุปกรณ์จะช่วยเหลือ ตนได้พูดคุยกับผู้ประสบภัยจนสิ้นใจ เหตุการณ์นี้คือแรงพลักดันในตนตั้งใจพัฒนาทีมพัฒนาอุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที สุดท้าย เล็ก ฝันเด่น ได้ขอฝากผู้คนที่สนใจจะช่วยเหลือร่วมสมทบทุนผู้ประสบภัยในภาคใต้จากพายุปาบึกได้ตามช่องทางต่าง ๆ โดย เล็ก ฝันเด่น บอกว่า จะมากจะน้อยถือเป็นน้ำใจ เป็นไทยด้วยกันต้องช่วยกัน