ตำรวจคฝ. เมากร่าง ลวนลามสาว ต่อย พนง. มีดฟันร้าน บช.น. แถลง เจ้าตัวป่วยซึมเศร้า

ตร.แจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ตำรวจ คฝ.เมากร่าง ก่อเหตุลวนลาม พนง.สาวเสิร์ฟ ต่อย พนง.ชาย ฟันทรัพย์สินร้านอาหาร จ.ลำพูน ด้านโฆษก บช.น.เผย เจ้าตัวมีภาวะซึมเศร้า

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ตำรวจควบคุมฝูงชน ก่อเหตุ ลวนลามพนักงานสาว และชกต่อยพนักงานชายในร้าน รวมถึงใช้มีดยาว 1 เมตร ฟันทรัพย์สินของร้านอาหาร ที่ร้านบ่อตกกุ้งทุ่งหลวง ต.ประตูป่า อ.เมืองลำพูน เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงเช้าของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปนั้น

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของ สภ.เมืองลำพูน ข้าราชการดังกล่าวเป็นข้าราชการที่สังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) อย่างไรก็ตาม ได้มีการส่งตำรวจคนดังกล่าวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 6 มกราคม และพบว่ามีภาวะซึมเศร้า จากนั้นได้ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 มกราคม เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ลำพูน โดยแพทย์ลงความเห็นว่ามีภาวะซึมเศร้า และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิดและให้พักราชการตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึง 3 มีนาคม โดยระหว่างเดินทางกลับไปพักที่บ้านอาจมีการดูแลไม่ทั่วถึง จนเกิดเหตุดังกล่าว

ขณะนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "ทำให้เสียทรัพย์" อยู่ระหว่างดำเนินคดี ส่วนทางด้านวินัย ทางหน่วยงานได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยไปแล้วส่วนหนึ่ง

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ ผบ.ตร. ไปจนถึง ผบช.น. ก็มีความเป็นห่วงในส่วนของสุขภาพและสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ตรวจสอบในเรื่องของความเป็นอยู่และสุขภาพจิตของข้าราชการตำรวจเพื่อทำการแก้ไขในเบื้องต้น

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เป็นนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้ดูแลในเรื่องของสวัสดิการตำรวจ นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งสายด่วน ดีเพรส วี แคร์ (Depress We Care) คอยให้คำปรึกษาด้านต่างๆ เช่นความเครียดจากครอบครัว รวมถึงโรคซึมเศร้า ทั้งกับข้าราชการตำรวจและประชาชน ที่หมายเลขคอลเซ็นเตอร์ 081-932-0000 โดยให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี 2561 มีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยเดือนละ 150 คน