ผัวเก่าหวงก้างบุกแทงผัวใหม่ เผยโทรป่วนวาเลนไทน์ ฝากแค้นเจอเมื่อไหร่เจ็บ (คลิป)

จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 20.00 น ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายเอกชัย วงศ์กลาง อายุ 30 ปี สามีเก่าของนางสาวสุกัญญา  อายุ 27 ปี เลิกรากันได้ประมาณ 1 เดือน และมีลูกชายวัย 7 ขวบด้วยกัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยกับ นายเข็มรัตน์ สุวรรณโชติ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของฝ่ายหญิง

โดยขณะที่นายเอกชัยขับรถเก๋งพาลูกมาเอาเสื้อผ้าที่บ้านหลังเกิดเหตุ ในซอย 8 ชุมชนบ้านเอื้ออาทรไร่กล้วย หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่อดีตทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกัน แต่มาเจอนายเข็มรัตน์อยู่ที่หน้าบ้าน ทำให้ผู้ชายทั้ง 2 คนมีปากเสียงและชกต่อย ก่อนที่นายเอกชัยจะใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย และข้อมือซ้ายของนายเขมรัตน์จนล้มลงเลือดไหลนองเต็มพื้นบ้าน แล้วขับรถเก๋งเชฟสีบรอนซ์ รุ่นครูซ หมายเลขทะเบียน 3832 ปราจีนบุรี หลบหนีออกไป

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา สืบทราบว่านายเอกชัยไปเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เนื่องจากจังหวะที่มีการทะเลาะกันทำให้นายเอกชัยหัวแตก มีบาดแผลที่ข้อศอกซ้าย พบรถจอดอยู่ที่ลานจอดและมีรอยเลือดหยดเป็นทางบริเวณประตูรถ ส่วนนายเอกชัยมีแพทย์ทำการรักษาเบื้องต้น ก่อนจะมีการคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพักเมื่อหายดีแล้ว

นายเข็มรัตน์ ผูุ้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง เปิดใจผ่านวิดีโอคอล เล่าเหตุการณ์ว่าก่อนเกิดเรื่อง นายเอกชัยโทรมาคุยกับนางสาวสุกัญญาว่าจะเข้ามาเอาเสื้อผ้าให้ลูกชายที่บ้านเกิดเหตุ ตนกับนางสาวสุกัญญาก็ช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของลูกชายใส่ตะกร้าแล้ววางไว้ตรงประตูบ้าน

เวลา 19.40 น. นายเอกชัยก็ขับรถเก๋งคันดังกล่าวเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน มีลูกชายวัย 7 ขวบนั่งอยู่เบาะข้าง พร้อมกับตะโกนบอกว่า “มาเอาเสื้อผ้าลูก” แต่ไม่ยอมลงจากรถมาเอา ทั้งที่ตนก็ไม่ได้ปิดรั้วบ้านและตะกร้าเสื้อผ้าก็วางอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน เอาแต่นั่งมอง ทำหน้าทำตากวนบาทาตนอยู่ในรถอย่างเดียว มีอาการคล้ายกับคนเมาด้วย ตนก็รำคาญ จึงอุ้มตะกร้าเสื้อผ้าไปวางไว้ที่ข้างรั้วหน้าบ้าน แต่นายเอกชัยก็ยังไม่ยอมลงมาเอา นั่งกวนประสาทตนอยู่ในรถเหมือนเดิม พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “มาเอาเสื้อผ้าลูก พ่อมาเอาเสื้อผ้าลูก” ตนก็งงและไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ลงมาเอาเสื้าผ้าลูกตามที่พูด

ตนจึงเดินเข้าไปที่ประตูรถฝั่งคนขับ นายเอกชัยก็ลดกระจกลงด้วยความโมโห ตนก็เลยชกเข้าไปที่หน้าของนายเอกชัยประมาณ 4 ครั้งติดต่อกัน ทำให้ลูกชายที่เห็นเหตุการณ์ร้องไห้โฮ จากนั้นนายเอกชัยหันไปหยิบมีดสั้นจากเก๊ะข้าง ๆ ไม่ทราบชนิดมีด แล้วเปิดประตูรถออกมา ปรี่เข้ามาแทงที่ใต้ราวนมตนประมาณ 4 ครั้ง แทงเข้าข้อมือซ้ายอีก 1 แผล ตนก็วิ่งเข้าบ้านเพื่อจะหาอาวุธมาต่อสู้ แต่เกิดลื่นล้มเพราะเลือดตัวเอง จึงมีแผลถลอกบริเวณขาเล็กน้อย ทำให้เห็นว่าภาพตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเมื่อคืน หน้าบ้านเต็มไปด้วยเลือด

ระหว่างนั้นตนก็ตะโกนเรียกน้องของนางสาวสุกัญญาที่อยู่ในบ้านให้ออกมาช่วย บอกว่า “มันเล่นมีดเลย” ทำให้น้องของนางสาวสุกัญญาวิ่งออกมาห้ามไว้ พร้อมกันนั้นนางสาวสุกัญญาที่อยู่ในบ้านก็ได้ยิน จึงวิ่งออกมาพยายามจะแย่งมีดออกจากมือนายเอกชัยด้วย ตอนนั้นตนก็ลุกขึ้นไปคว้าไม้แปรรูปที่มีอยู่ในบ้าน เอามาฟาดไปหัวของนายเอกชัยประมาณ 2-3 ครั้ง เพราะกลัวว่านางสาวสุกัญญา จะโดนแทงด้วย ทำให้นายเอกชัยวิ่งหนีไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที

ชนวนเหตุคือนายเอกชัยกับนางสาวสุกัญญาคบหากันมาประมาณ 20 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2564 ทั้งคู่ตัดสินใจเลิกราแยกทางกัน เพราะทนพฤติกรรมขี้บ่น อารมณ์ร้อนโดยไม่มีเหตุผลของนายเอกชัยไม่ไหว ลูกชายก็ยังคงอยู่กับทั้ง 2 ฝั่งไป ๆ มา ๆ จากนั้นนางสาวสุกัญญาก็โสดมาได้ประมาณ 3 เดือนครึ่ง จนกระทั่งช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2564 ก็มาเริ่มสานสัมพันธ์กับตน ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตนย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านเช่าเกิดเหตุกับนางสาวสุกัญญา แต่ขณะที่ตนคบหากับนางสาวสุกัญญา มาเกือบ 5 เดือนนั้น เห็นว่าแฟนสาวยังคงติดต่อผ่านไลน์และโทรคุยกับนายเอกชัยตลอด แต่แฟนสาวยืนยันว่าคุยกันแค่เรื่องลูกเท่านั้น

บวกกับนายเอกชัยเทียวไปเทียวมาที่บ้านเกิดเหตุเรื่อย ๆ อ้างว่าเอาลูกมาให้นางสาวสุกัญญาช่วยเลี้ยง และผ่านไป 2-3 วันก็มาเอากลับ เป็นแบบนี้ตลอด ตนมองว่าไม่ค่อยเหมาะสม เกรงว่าจะไม่ใช่แค่เรื่องลูก จึงบอกให้แฟนสาวบล็อกไลน์นายเอกชัย เหลือไว้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์ และหากจะติดต่อกันเรื่องลูกก็คุยผ่านแค่โทรศัพท์เท่านั้น

ส่วนเรื่องลูก ตนกับนางสาวสุกัญญาก็ยื่นข้อเสนอไปว่าช่วงที่ปิดเทอม ขอลูกมาเลี้ยงที่บ้าน แล้วพอเปิดเทอมก็ค่อยให้สามีเก่าเอากลับไปเลี้ยง แต่นายเอกชัยไม่ยอม ต้องการจะเอาลูกเทียวไปเทียวมาแบบเดิม เพราะกลัวว่าตนจะพาเด็กไปอยู่บ้านของนางสาวสุกัญญาที่ จ.หนองคาย พร้อมกับบอกว่าถ้าตนกับนางสาวสุกัญญาเก่งจริงก็เอาเด็กไปเลี้ยงเองเลย

หลังแฟนสาวบล็อกเบอร์ของนายเอกชัยเขาก็ก็โทรมาเรื่อย ๆ โทรมาบ่อยมากเกือบทุกวัน มีบางครั้งที่เจอหน้ากัน แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะ เพราะส่วนใหญ่นายเอกชัยจะพูดผ่านโทรศัพท์ และชอบพูดดูถูกดูแคลนตนกับแฟนสาวว่ายังไงก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูลูกหรอก เปรียบเทียบนางสาวสุกัญญาเป็นหมา และตนเป็นปลอกคอหมา ทั้งที่ตนกับแฟนสาวก็รักลูกคนนี้ไม่น้อยไปกว่านายเอกชัย และตนเองก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำงานส่งเสียเลี้ยงดูเด็กคนนี้เหมือนลูกตัวเอง ป้อนข้าว พาเที่ยวตลอด บวกกับพยายามเงียบ ไม่โต้ตอบ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 วันวาเลนไทน์ ตนพาแฟนสาวไปกินข้าวต้ม ด้านของนายเอกชัยก็โทรมาหาแฟนสาวเรื่อย ๆ จนตนรำคาญ เพราะวันวาเลนไทน์ตนก็อยากมีโมเมนต์หวานกับแฟนบ้าง จึงคว้าโทรศัพท์มารับสายเอง แล้วก็ถามไปว่าโทรมาทำไมนักหนา นายเอกชัยบอกว่า "มึงไม่ต้องเสือก มึงมันคนนอก" ตนก็เลยสวนกลับไปว่า "มึงนั่นแหละคนนอก กูนี่คนปัจจุบัน" พร้อมกับลั่นวาจาไว้ว่า "เจอกันที่ไหน ใส่กันที่นั่น" ซึ่งนายเอกชัยก็รับปาก มั่นใจว่านายเอกชัยวางแผนไว้แล้วว่าจะต้องปะทะกันตนแน่ ๆ จึงเตรียมมีดไว้ที่เก๊ะรถ ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายเอกชัยในข้อหาพยายามฆ่าแน่นอน เพราะไม่รู้เลยว่าแขนซ้ายที่โดนแทงจะกลับมาสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งถ้ามันไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม หมายความว่าตนก็ต้องเสียหน้าที่การงานไปด้วย

นางสาวสุกัญญา อดีตภรรยาของนายเอกชัย และแฟนคนปัจจุบันของนายเข็มรัตน์ เปิดใจว่า ตนกับนายเอกชัยตัดขาดความสัมพันธ์กันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 แล้ว เพราะทนอยู่กับคนที่ดูถูกเหยียดหยามตนไม่ได้ ยิ่งอยู่กันก็ยิ่งแย่ เวลาที่เขาเมาจะหาเรื่องทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล งานก็ไม่ทำ ซึ่งตนมองว่าในเมื่อเรามีลูกด้วยกันแล้ว หน้าที่ความรับผิดชอบมันก็ต้องมากขึ้น บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ตนจึงขอโบกมือลาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่ประเด็นหนึ่งที่ยังตัดไม่ขาดนั้นก็คือเรื่องลูกชาย เพราะก่อนจะเลิกรามีการพูดคุยกันว่าหากลูกเรียนจบเทอมนี้ จะส่งขึ้นไปให้พ่อกับแม่ที่ จ.หนองคาย เลี้ยงดูแทน เนื่องจากตนเองก็ต้องทำงาน ส่วนนายเอกชัยก็มีหน้าที่การที่ต้องทำ แล้วลูกก็ต้องเรียนออนไลน์ เกรงว่าจะไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก ทำให้นายเอกชัยไม่พอใจ เพราะเขาต้องการที่จะเอาลูกไว้ และใช้เป็นข้ออ้างในการไปมาหาสู่ตน แล้วเมื่อวานช่วงเย็นนายเอกชัยก็โทรมาบอกว่าจะเอาลูกมาให้ ตนก็บอกว่าให้เอาลูกมาอยู่กับตนจนกว่าจะปิดเทอม แล้วค่อยมารับทีเดียว แต่ นายเอกชัยก็ไม่ยอม แล้วบอกให้ตนเก็บเสื้อผ้าของลูกแล้วเอามาวางไว้ที่หน้าบ้าน เพราะว่าเขาจะเข้ามาเอา

ตนกับนายเข็มรัตน์ก็เลยจัดการเก็บให้ทั้งหมด แล้วก็เอามาวางไว้ที่หน้าบ้าน แต่นายเอกชัยมาถึง เขากลับไม่ลงมาเอา แล้วเหตุการณ์มันก็เป็นไปตามที่นายเข็มรัตน์เล่า ซึ่งตนตกใจมากเพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ส่วนตัวแล้วมองว่านอกจากชนวนเรื่องลูกแล้ว อาจจะเป็นไปได้ที่นายเอกชัยไม่พอใจที่ตนไปคบหากับนายเข็มรัตน์ เนื่องจากช่วงที่มีการเลิกรากันใหม่ ๆ นายเอกชัยเคยบอกให้ตนรอ แล้วเขาก็ขอเวลาปรับปรุงตัว แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้

หลังจากที่ตนมีแฟนใหม่ เขาก็โทรมาด่าตนว่า “มีปลอกคอชิ้นใหม่แล้วหรอ” ซึ่งคำพูดนี้มันแรงมาก ตนรับไม่ได้ มองว่าเขากำลังหมายความว่าตนเป็นหมา หรือไม่ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แล้วยิ่งถ้ากินเหล้าก็ยิ่งหนัก มีการดูถูกตนกับแฟนใหม่ด้วยว่า “พวกมึงพากันพาตัวให้รอดเถอะ” ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะต้องทน สู้ออกมาตั้งหลักกับแฟนใหม่ ช่วยกันทำมาหากินน่าจะดีกว่า ตอนนี้ก็ขอตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด ไม่มีรีเทิร์นแน่นอน