เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 เพจเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนต์ โพสต์ข้อความแจ้งข่าวเศร้าว่า ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ พิธีกรชั้นครู ซึ่งเป็นคุณพ่อของ เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ เสียชีวิตแล้วหลังติดเชื้อโควิด-19
โดยเพจเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนต์ โพสต์ว่า ทีมข่าวดาราภาพยนตร์ โทรศัพท์แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้กับ เหมี่ยว ปวันรัตน์ ซึ่ง เหมี่ยว เปิดใจเล่าถึงการจากไปของคุณพ่อว่า
"คุณพ่อติดเชื้อโควิด19 และเข้ารับการรักษาตัวตามขั้นตอนที่โรงพยาบาลมาประมาณเกือบ1สัปดาห์แล้ว แต่ด้วยว่าคุณพ่อมีโรคประจำตัว และอายุมากแล้วคืออายุ 87 ปี ทำให้การรักษาไม่สำเร็จ เชื้อแพร่กระจายลงปอด และทำให้ท่านเสียชีวิต เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา โดยวันนี้19 กุมภาพันธ์ 2565 (เพราะเสียชีวิตด้วยโควิดการจัดการพิธีศพจึงต้องเป็นขั้นตอนตามระเบียบสาธารณสุข) ครอบครัวจะทำพิธีฌาปนกิจใน เวลา13.00 น โดยทำพิธีฌาปนกิจ ณ วัดภานุรังสี ในส่วนของครอบครัว คนอื่น ๆ ไม่มีใครติดเชื้อค่ะ"
สำหรับประวัติของ ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ เป็นทั้ง นักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ นักแสดง นักพากย์ มีผลงานที่น่าจดจำ คือเป็นพิธีกรรายการ "นาทีทอง" และ "ประตูดวง" รายการที่มีผู้ชมสูงสุดทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
จบการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง สาขาจิตรกรรม รุ่นเดียวกับสุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2499 และเรียนต่อคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และ กำธร สุวรรณปิยะศิริ พร้อมกับรับราชการกระทรวงศึกษาธิการ และสมัครเป็นนักร้องกับ ชาลี อินทรวิจิตร
เข้ารับราชการเป็นครูอยู่ 5 ปี จึงลาออกมาเป็นโฆษก ที่สถานีวิทยุ วปถ.1 (วิทยุทหารสื่อสารประจำถิ่น) กรมการทหารสื่อสาร และสมัครสอบเข้าเป็นผู้ดำเนินรายการ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ช่อง 7 ขาวดำในอดีต) เมื่อ พ.ศ. 2507 และไปเป็นผู้ช่วยพิธีกรรายการป็อปท็อป ทางช่อง 5 ซึ่งมี พ.อ.การุณ เก่งระดมยิง เป็นพิธีกร
ธรรมรัตน์ ลาออกจากช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2528 เพื่อไปทำงานการเมืองกับกลุ่มรวมพลังของพลตรีจำลอง ศรีเมือง ลงสมัคร ส.ก.เขตลาดพร้าว 2 สมัย โดยในสมัยที่สองได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภา กทม.คนที่ 1
ต่อมา ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักพากย์ยอดเยี่ยม จากผลงานพากย์หนังชุด บิ๊กซินีม่า ทางช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2537 และรับรางวัลพิธีกรโทรทัศน์ยอดเยี่ยม รางวัลเมขลา ในปี พ.ศ. 2538 จากรายการ 20 คำถาม จากนั้นจึงเลิกผลิตรายการโทรทัศน์และเลิกเล่นการเมือง หันไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จบการศึกษาในปี 2541 จากนั้นจึงออกตระเวนเดินสายร้องเพลง และจัดรายการวิทยุภาคภาษาไทยที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
จากนั้นในปี พ.ศ. 2543 และลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวันที่ 4 มีนาคม ใน กทม.ด้วย แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
ช่วงหลัง ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ เดินทางกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ชื่อ เอเชียน วิชั่น แชนแนล และยังรับงานพากย์ภาพยนตร์ และร้องเพลง จนสุขภาพมีปัญหาจึงห่างเหินจากวงการ
สำหรับผลงานภาพยนตร์เด่นได้แก่ เทวดาเดินดิน ( พ.ศ.2519), เมืองขอทาน (ขี้กลากคอนกรีต) ( พ.ศ.2521), อะไรกันวะ ( พ.ศ.2521, อีแต๋น ไอเลิฟยู ( พ.ศ.2527) , นักเพลงผู้ยิ่งใหญ่ ( พ.ศ.2527) , ตุ๊กตาทองหลังโลงศพ ( พ.ศ.2530) ,ล่าระเบิดเมือง ( พ.ศ.2542), สุริโยไท ( พ.ศ.2544)
นอกจากนี้ยังมีผลงานละครโทรทัศน์ เช่น ชาวเขื่อน ช่อง 7 ( พ.ศ.2524), ปมรักนวลฉวี ช่องไอทีวี ( พ.ศ.2546)
และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2535 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) และพ.ศ. 2533 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ ดาราภาพยนตร์