"มหาสมปอง" และ "มหาไพรวัลย์" มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดหมดเปลือก เคลียร์แบบเปิดใจในประเด็นดราม่าทุกดราม่าที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เกิดไม่ใช่ไม่รู้สึกแต่ก็รับฟังทุกคำที่ติชมและชื่นชม พร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดทำลงไป
ถาม เราจะมีความแบบฉันเป็นของฉันอย่างนี้ แต่สังคมหรือคนรอบข้างอยากให้เป็นอย่างนี้
มหาไพรวัลย์ : ต้องเป็นบางเรื่องครับ บางเรื่องที่เรารู้สึกปรับได้ เปลี่ยนได้ ใครที่เรารู้สึกว่าเรานับถือเขาจริงๆ แล้วเขาเป็นแบบอย่างที่เขาจะเตือนเราได้ สอนเราได้ อย่างไลฟ์ล่าสุดผมไลฟ์กับอาจารย์นภันต์ ซึ่งผมนับถือท่านพระอาจารย์มาก ตอนที่ผมสึก ท่านให้ศีล 5 ผม ผมจะบอกว่านี่คืออุปัชฌาย์ผม ครูบาอาจารย์ผมและท่านเตือนแล้ว ผมรู้สึกว่าคนแบบนี้เตือนเราด้วยความที่เขาไม่ได้หวังอะไรจากเรา เขาหวังอย่างเดียวคือหวังดีกับเรา
ถาม ต้องยอมรับว่าการประสบความสำเร็จอย่างรุนแรงมากคือการไลฟ์สดทั้งคู่ แล้วมันเหมือนกับเราเติบโตท่ามกลางโซเชียล ซึ่งยุคโซเชียลจะมีใครก็ตามวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกสิ่งเรารู้สึกเครียดหรือกระทั่งรู้สึกไหมกับคำว่ารู้สึกผิดหวังจังเลย อยู่ๆ ก็กลายเป็นความคาดหวังของผู้คน ทั้งที่ทุกคนเราก็บอกว่าเราก็ทำดีที่สุดในจุดของเราแล้วคนอื่นจะมองยังไงก็ช่างเถอะ แต่พอมาเป็นโซเชียลห้ามคนคิดไม่ได้ ห้ามคนคอมเมนต์ก็ไม่ได้เรารู้สึกว่ามันมีผลกระทบต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนมากไหม
มหาสมปอง : ผมไม่กล้าไลฟ์เลย ผมทำเฟซบุ๊กมา 10 ปี พึ่งมาไลฟ์ 3 กันยายน 2564 กับน้องแบบเป็นทางการ เพราะว่าผมกลัวคนด่า กลัวคนว่า นึกออกไหมคนรุ่นเราจะแบบไม่อยากให้ใครมาด่าใครว่า จนมาน้องชวนแล้วชวนอีกเป็นปีว่าแบบอาจารย์ไปคู่ผมหน่อย แล้วเราเป็นคนชอบเล่นมุกอยู่แล้ว น้องไปให้ถึงแสน Subscribe ก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน อะไรอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วผมไม่กล้าไลฟ์ เพราะผมรับไม่ได้ในการด่า ผมทำใจไม่ถูก
มหาไพรวัลย์ : ที่ชวนมหาสมปองมาไลฟ์เพราะเขาดัง แล้วเราอยู่วัดเดียวกัน ตอนหลังผมเริ่มได้คุยกับอาจารย์สมปองมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนเราอยู่วัดเดียวกัน แต่ว่าไม่ใช่แต่ผม แต่คนในวัดเดียวกันจะไม่มีใครได้เห็นพระที่ชื่อว่าพระมหาสมปอง เพราะว่าเป็นพระที่ออกจากวัดตี 5 กลับเข้ามาในวัดอีกที 4 ทุ่ม หนึ่งปีจะได้เห็นพระมหาสมปองสองครั้งก็คือเข้าพรรษากับออกพรรษา แล้วมาตอนหลังอาจารย์สมปองอยู่ในฐานะเป็น My Idol เราด้วย เพราะเราเป็นเด็กรุ่นหลังท่านด้วย เราก็รู้สึกว่าเรามาสนิทกับคนดังมันคืออะไรที่มันเป็นเครดิตเราด้วยส่วนหนึ่ง แล้วเรารู้สึกว่าในวันที่คนพูดถึงเรา การได้ดึงคนอย่างพระมหาสมปองมานั่งคู่กับเราแล้วมาไลฟ์คู่กับเราได้ดึงลงมาอย่างนี้ (หัวเราะ)
มหาสมปอง : ฉะนั้นเนี่ยเขาไม่มีใครเชียร์ผมเลย หรือว่าบางทีโยมตอนนั้นที่เราเป็นพระไม่ชอบไพรวัลย์ เลยไปการเมืองนู่นนี่ ผมก็บอกว่าน้องผมเปรียญธรรม 9 ประโยคนาคหลวง เป็นสายปราชญ์แล้ว ขึ้นเวทีเดียวกับอาจารย์ ส.ศิวรักษ์ ผมทั้งชาตินี้ชาติหน้าก็ไม่กล้าขึ้นคือรู้สึกว่าเด็กคนนี้มันเจ๋ง ชอบน้องมาตลอด ผมก็ยังไม่กล้าเข้า ผมก็ฟังคนอื่นไงเขาก็เติมน้ำให้เราไง อย่าเพิ่งไลฟ์ด้วยกัน เดี๋ยวโดนด่าคู่ ผมจะพูดประโยคนี้ ให้เขาแยกกันด่าเราเถอะ
มหาไพรวัลย์ : ไพรวัลย์ คนเกลียดเราเยอะแล้ว ให้เขาด่าเราทีละคน ให้เขาเกลียดเราทีละคน
ถาม หลังจากออกมาเป็นฆราวาส เรื่องราวดราม่าเยอะมากๆ ไหนๆ ก็มีโอกาสมานั่งคุยกันในคลับฟรายเดย์โชว์อยู่แล้ว เป็นเรื่องของความเข้าใจแล้วกัน อย่างน้อยหลายๆ คนที่อาจจะคิดว่าเป็นแบบนั้น ผิดหวังจังเลยหรืออะไรก็ตามที วันนี้เปิดใจ จะได้ฟังกันในทุกๆมุม เราลองมาวิเคราะห์กันแต่ละดราม่า เริ่มตั้งแต่ตอนพระ อีกแล้วอาจารย์สมปอง ท่านมหาสมปอง ร้องไห้ออกอากาศก็ยังเป็นดราม่าเลย
มหาสมปอง : เจ้าต๊ะนี่แหละ โทรมาประมาณ 6 โมงเช้าว่าพี่เขาจะบุกจับพี่ (ตอนนั้นเป็นพระอยู่) เราก็ถามมาบุกจับเราเรื่องอะไร ก็เห็นเพจโพสต์ขายเสื้อ ก็เป็นเสื้อผม มีภาพไพรวัลย์ด้วยแหละ!!ผมไม่ได้เป็นคนโพสต์ไง ส่วนเป็นเสื้ออะไรก็เลขาผมนั่นแหละเขาโพสต์ขายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งมันผิดกฎหมายอะไรสักอย่างไม่รู้ ผมไม่ได้เป็นคนโพสต์ แต่ผมก็ต้องไปลบโพสต์ แล้วผมก็เลยมาไลฟ์ตอนค่ำว่าองค์กรนั้นเป็นองค์กรที่ผมเคยไปบรรยายบ่อย แล้วผมรู้สึกว่าอะไรทำไมไม่มาบอกเรา เตือนเราดีๆ คือควรจะเป็นคนของสำนักพุทธมาบอกเรา ว่าท่านสมปอง ท่านไพรวัลย์ ตอนนั้นนะ อย่างนี้มันอันตรายมันไม่ดีนะ มันติดคุกได้นะ มันเสื่อมเสียนะ มันไม่เหมาะ สำนักพุทธควรเป็นคนที่ควรรับใช้เรา เรารู้สึกว่าสำนักพุทธต้องรับใช้พระเณร ไม่ใช่เป็นเจ้านายพระเณร ผมก็เลยน้อยใจ ผมก็เลยร้องไห้ไปว่าเฮ้ย!! เราไม่ใช่ลูกหลานเขาเหรอ หลายคนที่ว่าเป็นพระเถระ ผมไม่มีปัญหากับพระเถระ ผมเคารพนับถือ ผมสายมูด้วย ใครมีอะไรศักดิ์สิทธิ์ผมชอบหมด จริงๆ เป็นองค์กรนั้นครับ เป็นภาษาอังกฤษด้วย 3 ตัวอักษรด้วยนะครับ คือผมก็เลยน้อยใจ ผมก็เลยร้องไห้คนนี้ก็ตะลึงเวลาผมแซวอะไรเขา เขาก็จะแซวผมคืน อย่างผมแซวอันนี้เขา แม่ … แม่บอกผมจะไม่ได้กอดแม่อีก ผมจะกลับไปกอดแม่ คือจะสึกไง แต่คิดว่าลูกไม่ได้สึกไง ผมก็จะแซว พอผมแซวอันนี้เขาก็แซวคืนมาว่า ทำไมนะ อะไรหนักหนา เราไม่ใช่ลูกหลานเขาหรือไง มันจะมีอะไรโต้กันอยู่ เราก็แบบอัดอั้นมากกว่าว่าคนที่รักเราห่วงเราควรจะเป็นคนที่อยู่ในวงการเดียวกับเรา หรือ สำนักงานที่เป็นชื่อเรา สำนักพุทธ เราถือว่าเราพุทธอะไรอย่างนี้มากกว่า
ถาม แล้วดราม่าสาวนั่งตัก
มหาสมปอง : สาวนั่งตักน้องชุดเขียวมีสองคน น้องชุดเขียวส่งตาหวานให้ผมเลยแหละพูดตรงๆ เคยฟังเทศน์ตอนอายุ 10 ขวบ คุณยายเปิดให้ฟัง โอ้โห .. สาธุๆ ลูกตอนเป็นพระใช่ไหม ใช่ค่ะ ศรัทธามากเลย ตอนนี้ล่ะลูก อ๋อ … ก็ไม่ค่อยศรัทธาแล้วล่ะค่ะ ในขณะที่ผมคุยอยู่ พี่อี๊ด โปงลางแหละ ก็สะกิดเป็นมุกแหละก็อย่าโกรธพี่อี๊ดเลย เป็นผมก็เล่นมุกเดียวกับพี่อี๊ด สะกิดว่าเฮ้ย!! มหาสึกใหม่ ทิดสึกใหม่ นั่งตักหน่อย แล้วกำลังคุยอยู่น้องเขาก็มานั่งตัก ผมก็เอาอย่างไรดี ผลักออกก็โดนตัวน้อง ถีบออกก็น่าเกลียดอีก รังเกียจน้องเขาไม่ใช่อาชีพที่น่ารังเกียจนะเด็กเอ็น หลายคนก็เรียนจบเปิดร้านกาแฟเยอะแยะ ผมก็เลยกินส้มตำ ผมไม่ได้โดนตัวน้องเลย มือข้างหลังก็ไม่ได้โดนครับ เขานั่งตักประมาณ 3 วินาที ไม่เกิน 5 วินาที แต่เวลาภาพนิ่งก็แช่เป็นวันๆ ผมไม่ได้รู้สึกผิดเลย เพราะผมไม่ได้เป็นคนดึงน้องมานั่ง พี่อี๊ดสะกิด แล้วหลายคนบอกให้ผมเลิกคบพี่อี๊ด ผมบอกมันเป็นมุก การซีเรียสกับมุกคืออะไร เวลาผมเล่นมุกแล้วคนมาซีเรียสกับมุกผม มันเป็นมุกครับพี่ มุกคืออยากให้ขำ อยากให้ตลก แต่ถ้ามันผิดพลาดพลั้งโอเค ผมขอโทษ ผมไม่มีคำว่าละกันด้วย เพราะขอโทษละกันแปลว่าไม่ได้ขอโทษ ผมขอโทษเลย ผมขอโทษด้วยความจริงใจ แต่ว่าโอเคผมเคยเทศน์สอนบ่อยว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดแล้วเขาคิดว่าเราผิด หนึ่งขอโทษด้วยความจริงใจ อย่ามีคำว่าละกันนะครับ สองปรับปรุงแก้ไขคือสำนึก แล้วคุณต้องปรับปรุงแก้ไข ผมว่าผมก็ไปทางนี้
ถาม คร่าวนี้ก็มาถึงมหาไพรวัลย์ ซึ่งเมื่อกี้มหาสมปองบอกว่ากำลังมา มีอะไรอยากจะพูดถึงดราม่าล่าสุดบ้าง
มหาไพรวัลย์ : ไม่มีอะไรเลยครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไร ไม่ใช่บอกว่าไม่มีดราม่า แต่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะผมรู้สึกว่าถ้าพูดอีกนั่นคือ การไม่ให้เกียรติใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับดราม่านี้ ฉะนั้นผมขอไม่พูดแล้วเรื่องนี้
ถาม ถ้าอย่างนั้นไม่พูดก็ได้ แต่ว่าจะถามว่าแล้วเราเป็นอันว่าจะต้องบอกว่ามันก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มากอันหนึ่งไหม เราไม่ต้องพูดดราม่าซ้ำก็ได้แต่ว่าเราถามว่าแล้วเราเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้
มหาไพรวัลย์ : ผมเรียนรู้ว่าในวันที่เราแสวงหาที่พึ่งอย่างอื่นไม่ได้ มีสิ่งเดียวที่ปกป้องเราในเมื่อสิ่งอื่นไม่ปกป้องเรา คือความจริง ฉะนั้นพูดอะไรให้จริงเข้าไว้ ความถูกต้องจะปกป้องเราเอง ในวันที่คนอื่นเขาไม่ปกป้อง แล้วต่อให้ความจริงวันนี้คนอื่นก็ไม่เชื่อหรอกไม่ใช่ว่าเขาเชื่อนะครับ เขาก็ไม่เชื่อผมตอนที่ผมพยายามพูดออกมาพูดอะไรอย่างนี้ คนก็ยังมาด่าผมอยู่ แต่ผมรู้สึกว่าสักวันหนี่งแหละความจริงมันก็คือความจริงครับ
ถาม แล้วอย่าง มหาไพรวัลย์ คอนเทนต์หลายๆ อันทำร้ายเราได้ไหม
มหาไพรวัลย์ : ถ้าบอกว่าทำร้ายไม่ได้เลยนี่มันก็โกหกใช่ไหมครับ เพราะว่าก็มีความรู้สึกนะครับ มันจะรู้สึกว่าทำไมๆ มันยิ่งพูดยิ่งแย่ ยิ่งเหมือนจะไม่มีอะไรกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องมันกลับกลายเป็นเรื่องที่เป็นเรื่องได้อย่างไร แต่ว่าไม่ถึงกับร้องไห้ แต่มันจะรู้สึกว่าเหนื่อย มันเหนื่อย บางทีทำงานกลับบ้าน จะไม่อยากพบใครเลย ต่อให้เป็นใครก็ตาม อยากอยู่คนเดียว ซึ่งทุกคนที่อยู่รอบข้างจะเป็นห่วง อย่างน้องเลขาจะเป็นห่วง พี่สาวอีกคนก็จะเป็นห่วง ก็อยากจะมาอยู่ด้วย มาให้กำลังใจ แต่ตอนนั้นมันรู้สึกว่าอยากอยู่คนเดียวมันเหนื่อยมาก มันเหนื่อยจนรู้สึกว่าอยากอยู่คนเดียว
มหาสมปอง : ผมไม่เห็นด้วยกับการอยากอยู่คนเดียวนะ ผมถามแทนพี่ฉอดแล้วกัน รู้สึกว่าคนที่เคยเชียร์มาถล่มเราในวันที่เราล้ม คนที่เคยเชียร์เรา ชอบเรา เคยคุยกันด้วย เคยมาหาเราที่วัดตอนที่เราเป็นพระ แล้วพอวันหนึ่งก็เหมือนแบบมาซ้ำเราอย่างนี้รู้สึกอย่างไร
มหาไพรวัลย์ : รู้สึกว่ามันให้บทเรียนว่าในวันที่เราดี มันมีแต่เสียงชื่นชม คำชื่นชมเนี่ยเราพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอกว่าคนที่ชื่นชม เขาชอบเราจริงๆ หรือเปล่าหรือเขาโอเคกับเราแค่ไหน ตอนในวันที่กระแสความชื่นชมมันลดน้อยลงไป เสียงก่นด่ามันเริ่มมากขึ้นวันนั้นแหละมันจะเป็นของจริงที่จะบอกเราว่าโดยที่สุดแล้ว คนอื่นเขามองเราอย่างไร ซึ่งผมได้รับบทเรียนอันนี้ ถ้าผมไม่เจอกระแสนี้ผมก็ยังจะหลงระเริงอีกเยอะ กระแสนี้มันได้ให้บทเรียนอันสำคัญแล้วว่าจริงๆ แล้วคนเขามองเราอย่างไร
สามารถชมคลิปย้อนหลังทางยูทูบ
https://youtu.be/D9MM8ExvD2o
https://youtu.be/M1_TtKO2cn8
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ เผยความในใจถึงสามี เจอรักครั้งนี้เหมือนได้รางวัลชีวิต
- อาจารย์คฑา ชินบัญชร เปิดดาว 4 นักษัตร เฮงยืนหนึ่ง!
- แกรนด์ เดอะสตาร์ เผยความรักครั้งหนึ่ง เคยถูกหลอกให้คบซ้อน 6 เดือน!