เดือด! แก๊งก๊งเหล้าป่วนคนป่วยงงทำผิดอะไร ไล่ลูกบ้านไปบวช ก่อนโร่ขมาหวั่นทัวร์ลง (คลิป)

จากกรณีนายสหรัฐ อ่างรัมย์ หรือ เจ อายุ 25 ปี ผู้ร้องเรียนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3" ระบายความรู้สึกหมดความทนกับเพื่อนบ้าน พฤติกรรมตั้งวงดื่มเหล้าพร้อมส่งเสียงดังรบกวนแถมไล่ลูกบ้านไปบวชด้วย ที่บริเวณโถงทางเดินเข้า-ออก เยื้องกับห้องผู้ร้องเรียนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ย่านลาดกระบัง โดยก่อนหน้ามีการแจ้งนิติบุคคลไปแล้ว แต่ปัดความรับผิดชอบให้ผู้ร้องไปแจ้งความเอง จึงตัดสินใจไปแจ้งความ แต่ตำรวจบอกเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงร้องสื่อเพราะพยายามพูดกับเพื่อนบ้านแล้ว

ล่าสุด วันที่ 21 ก.พ. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่านายเจ ผู้ร้องเรียนพักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 1 ห้องมุมซ้าย ถัดไปเป็นห้องคู่กรณี ทราบชื่อนายธนา พันเมือง หรือ จี๊ด อายุ 44 ปี ซึ่งชั้นนี้มีทั้งหมด 10 ห้อง แบ่งเป็นห้องเพื่อน และรุ่นน้องแก๊งนายธนา 4 ห้อง ปัจจุบันได้ย้ายออกไปแล้วมีคนเช่าใหม่ 2 ห้อง และที่เหลือเป็นผู้เช่ารายอื่นและร้านค้า

นายธนา ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยอีกมุมว่า หลังมีปัญหากันเรื่องตนตั้งวงดื่มเมื่อเดือนเมษายน 2564 ตนก็กลับบ้าน และไม่ได้ตั้งโต๊ะดื่มที่บริเวณโถงทางเดินแล้ว ได้ย้ายไปนั่งดื่มกันที่ข้างตึกแทน ส่วนตนอยู่ที่นี่มานานกว่า 10 กินดื่มกับเพื่อนฝูงกันปกติ แต่ส่วนใหญ่เป็นวันศุกร์-อาทิตย์ โดยน้องลงคลิปไปเป็นเหตุการณ์ตั้งแต่ปีที่แล้ว มองว่าเป็นเก่า แถมตัดต่อตอนเฉพาะช่วงพูดไม่ดี ส่วนช่วงที่พูดดี ๆ น้องไม่ลง จึงทำให้สังคมตัดสินและมองตนไม่ดี อยากให้น้องเอามุมที่ตนพูดดี ๆ ลงด้วย เพราะตนจำได้ว่าวันที่เถียงกัน พูดกับน้องว่า "เดี๋ยวพี่เบาให้ สักสักพี่ก็เลิกแล้ว"

ซึ่งส่วนที่ตนพูดไม่ดี ยอมรับว่าไม่ดี เพราะตนเป็นคนอารมณ์ร้อน และถูกต้องยั่วยวนโทสะ เช่น เอาวงจรปิดไปโพสตว่า "ดูสิ พ่อแม่ดีเด่นแห่งปี ปล่อยลูกนั่งตากยุง" ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เด็ก ๆ เขานั่งเล่นกัน เฉย ๆ แต่น้องก็เอามายั่วโทสะ นอกจากนี้ วันนี้สื่อมาก็ดีแล้ว ตนขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษน้องทุกอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจ พี่ขอโทษ สุดท้ายยืนยันว่าจะลดละ ส่วนน้องก็ขอยุติการอคติกับพี่ และเลิกส่องกล้องจับผิด เพราะมีกล้อง น้องก็ไม่ได้ช่วยเหลือใคร วันที่รองเท้าหายไป เคาะประตูขอความช่วยเหลือน้องก็ไม่ได้ช่วย

ด้านนายสหรัฐได้เปิดคลิปเหตุการณ์ ทั้งหมด 2 คลิปหลัก และวงจรปิดที่ติดตั้งแล้วนายธนาไม่พอใจ เหตุการณ์ที่หนึ่งเหตุการณ์แก๊งนายธนาตั้งวงดื่มเหล้าเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ใจความระบุว่านายสหรัฐออกไปตักเตือนให้แก๊งดื่มลดเสียง แต่ถูกแก๊งดื่มกล่าวหาว่ามีอคติ ไล่ให้ไปอยู่วัด และไม่ยอมรับว่าดื่ม และเสียงดังส่งความรำราญ

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 64 นายสหรัฐกลับจากทำงาน ได้ยินเสียงคนเสียงดังจึงหยิบมือถือถ่ายคลิประหว่างเดินเข้าห้อง พบแก๊งนายธนาตั้งวงดื่ม โดยแฟนสาวของนายสหรัฐเดินตามและถ่ายคลิปไว้ด้วย,

เหตุการณ์ที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 นายธนาปีนขึ้นไปปรับกล้องนายสหรัฐ, เหตุการณ์ที่ 4 เมื่อวันที่ 18 กุภาพันธ์ 2565 นายธนาใช้ไม้ปรับกล้อง พร้อมด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนายสหรัฐถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเสร็จสิ้น พบว่านายสหรัฐป่วยเป็นโรคไต ระยะที่ 3 ต้องฟอกไตเองเดือนละ 4 ครั้ง ทีมข่าวได้เห็นนายสหรัฐนั่งฟอกไตอยู่พอดี แต่ต้องใช้เวลาฟอกถึง 2 ชม.

นางสุเพียบ อ่างรัมย์ อายุ 53 ปี พ่อผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยไปร่วมกับลูกด่าหรือตำหนิเพื่อนบ้านเลย มีแต่ตำหนิลูกตัวเองว่าให้อยู่เฉย ๆ แต่ลูกคงรู้สึกไม่ไหวจริง ๆ เนื่องจากลูกเป็นโรคไต เพื่อนบ้านรู้ว่าน้องเป็นโรคไต แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นใจ หรือคงคิดว่า "เป็นก็เป็นไป เราไม่ได้เป็น ก็ไม่ได้สนใจใคร" สำหรับน้องพยายามช่วยตนหาเงินด้วยการวิ่งไรเดอร์ แต่ก็วิ่งไม่เต็มที่เหมือนคนอื่น ในหนึ่งอาทิตย์จะวิ่งได้สัก 3-4 วัน ที่เหลือก็นอนโทรม ดังนั้นใคร ๆ ก็รู้คนเป็นโรคนี้เวลานอนก็ต้องพักให้เพียงพออยู่แล้ว วันนี้ได้เครียร์กันก็รู้เบาใจ

นายสหรัฐ อ่างรัมย์ หรือ เจ อายุ 25 ปี ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า เรื่องทั้งหมดคุยกันแล้วจริง แต่เวลาคุยเหมือนหาเรื่องตนตลอดเวลา ไม่ได้มาคุยดี ๆ ใช้คำพูดว่า "เออเจมึงมาคุยดิ" แบบนี้ใครจะกล้าคุย ส่วนเรื่องยั่วโทสะเป็นเพราะคู่กรณีมีนิสัยอารมณ์ร้อนเองคิดเอง ต่อให้ตนพูดอะไรก็คิดว่ายั่วโทสะ นอกจากนี้ตนยืนยันว่าเรื่องกล้องวงจรปิดตนได้ติดไว้รอบห้องตน 4 ตัว เป็นกล้องหน้าห้องฝั่งซ้ายเวลาตนไปทำงานจะหันไปบริเวณโถงทางเดินค้างไว้ ไม่ได้มอนิเตอร์จับผิดพฤติกรรมใคร

ส่วนกล้องหน้าตึกจะหันไปตรงโถงทางเดิน บริเวณข้างห้องและด้านหลังจะดูรถจักรยานยนต์ เพราะเคยมีรถจักรยานยนต์หาย กล้องนิติเห็นทุกมุมจริง แต่พอมีเหตุต้องรอประมาณ 2 วัน ซึ่งช้า ตนจึงติดไว้และสามารถดูได้เลย ไม่ได้มีเจตนาไปส่องใคร อย่างไรก็ตามสำหรับตนอยู่ได้ เพื่อนตนเยอะ หรือคิดว่าจะทำคนป่วยก็ให้มันรู้ว่าความเป็นคนมีกันไหม แต่ถ้าไม่จบ กฎหมายไทยต้องให้ความยุติธรรมกับตน