สืบเนื่องจากเหตุการณ์สุดสลด ในพื้นที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ได้รับเเจ้งเกิดเหตุยิงกันตายในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลปงเตา อำเภองาว จังหวัดลำปาง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ส่วนจุดที่ผู้เสียชีวิตนอนนั้นอยู่ที่บริเวณห้องนอนชั้น 2
ทราบชื่อคือ นายอากล๋อง อามอ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพใส่เสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาวสีดำ พบร่องรอยบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปยาว แบบไทยประดิษฐ์ บริเวณหน้าผากจำนวน 1 นัด นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด
ขณะที่ผู้ก่อเหตุสืบทราบว่าคือ นายนคร อายิ อายุ 20 ปี หลานชายของคนตาย ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปมที่ผู้ตายเคยเเจ้งจับหลานชายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เนื่องจากเรื่องของยาเสพติด มีการก่อเหตุเผาบ้านมาแล้วก่อนหน้านี้ หลานชายแค้นเลยเป็นที่มาของการก่อเหตุครั้งนี้ พร้อมคุมตัวไปชุดเกิดเหตุแล้วนั้น
วันที่ 21 ก.พ. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าบรรยากาศช่วงเย็นที่ผ่านมา ครอบครัวของผู้ตาย ลูกสาวของคนตาย เป็นแม่ของคนก่อเหตุคือ นางวรรณรัตน์ โยธิน อายุ 44 ปี กำลังจัดเตรียมงานศพให้กับทางผู้ตาย ตำรวจร้อยเวรพร้อมด้วยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดเพิ่มเติม
ตำรวจให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุยอมรับว่าก่อเหตุจริง เนื่องด้วยมีอาการหลอนเกี่ยวกับยาเสพติด ประจวบกับโกรธแค้นทางผู้ตายที่เคยแจ้งตำรวจจับปมเผาบ้านและยาเสพติด ทำให้มีการวางแผน นำปืนที่ประดิษฐ์เองนำมาก่อเหตุ ทำทีว่าอยู่ด้านล่าง พร้อมเคาะให้ทางผู้ตายได้ยินเสียง ก่อนที่ผู้ตายจะใช้ไฟฉายส่องดูจากร่องพื้นไม้ ผู้ก่อเหตุตัดสินใจยิงสวนจากด้านล่างทะลุพื้นไม้เข้าเบ้าตาและศีรษะผู้ตาย เสียชีวิตนอนจมกองเลือด
ต่อมานางวรรณรัตน์ โยธิน แม่ของคนก่อเหตุและเป็นลูกสาวของคนตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ยอมรับช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฝั่งหนึ่งก็ลูก อีกฝั่งหนึ่งก็พ่อ ยังคิดอะไรไม่ออก ถามว่าโกรธลูกไหมส่วนตัวก็โกรธเพราะจริงแล้วทางคุณตาเป็นคนดูแลเขามาตั้งแต่เด็กประมาณ 3 ขวบ ทั้งที่คุณตารักเขาและหวงเขามาก แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาทำร้ายคนที่ดูแลเขาได้
ส่วนตัวไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันกับทางคนตายและคนก่อเหตุ เพราะตนเองมีสามีใหม่ แยกออกไปอยู่อีกหมู่บ้าน ที่ผ่านพฤติกรรมของลูกชายเวลาเจอหน้า มักจะขอเงินตนครั้งละ 200-300 บาท ถามว่าเอาไปทำอะไร ก็อ้างว่าเอาไปเติมน้ำมันรถ ทั้งนี้ ตนทราบจากชาวบ้านว่าลูกชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็นเขาเสพต่อหน้า ทุกครั้งที่กลับมาบ้านจะเห็นว่าพฤติกรรมของเขามักจะทำลายข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ไม่เคยอาละวาดทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนทางด้านผู้ตายปกติจะเป็นคนขี้บ่นตามประสาคนแก่ เพราะเขารักหล่นคนนี้มาก
ประเด็นที่เขาก่อเหตุมาจากความแค้นที่ทางผู้ตายไปแจ้งจับเขานั้น ก็อาจจะมีส่วน ก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เขาเองโดนจับข้อหาเสพยาเสพติดประเภทยาม้า รวมถึงยังก่อเหตุจะเผาบ้านด้วย ช่วงที่ทำแผนฯ ตนเองก็ได้สอบถามทางลูกชาย ลูกลายก็ไม่ยอมตอบ พูดแค่ว่าทางผู้ตายรักลูกชายมากกว่าเขา มีอะไรก็ด่าแต่เขา โดยก่อนหน้านี้บ้านหลังดังกล่าวจะมีคุณยาย ภรรยาคนของคนตาย และมีลูกคนเล็กอีกคน มีศักดิ์เป็นน้องของตนอยู่ด้วย แต่ประมาณสิ้นปีที่แล้วทางคุณยายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ทำให้เหลือแค่คนตาย พร้อมลูกชาย และหลานอยู่ด้วยกัน กระทั่งลูกชายของผู้ตายอายุประมาณ 30 ปี ก่อเหตุเผากระท่อมกลางไร่เสียหาย แต่ทางคนตายกลับมาด่าทอคนก่อเหตุ ไม่โทษลูกตัวเอง จึงทำให้โกรธแค้นมาตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนเรื่องของคดี ตนขอปล่อยให้ลูกชายได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่ขอช่วยหรือสู้คดี
เพื่อนบ้านชื่อ นางสาววลีลักษณ์ อามอ อายุ 35 ปี เล่าเหตุการณ์ว่า เบื้องต้นเมื่อวานช่วงประมาณ 18.00 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งทำอาหาร ได้ยินเสียงลักษณะคล้ายเสียงปืนจำนวน 1 นัด ตนเองก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเป็นเรื่องปกติที่ทางด้านคนก่อเหตุ คือนายนคร อายิ มักจะยิงปืนเล่นเป็นประจำทุกวัน วันละ 1-2 นัด กระทั่งช่วงประมาณ 19.00 น. ผ่านไปเกือบชั่วโมง มีชาวบ้านมาบอกว่าทางพ่อของตนโดนยิง ตอนนั้นตนเองก็เลยรีบไปดู พบว่าพ่อของตนนอนเสียชีวิต ขณะที่ทางหลานของตนที่เป็นคนก่อเหตุได้หลบหนีไป
ทั้งนี้ ตัวเองยอมรับว่าทราบเรื่องมาตลอดเเละเป็นคนที่เข้ามาเป็นตัวกลางในเวลาที่มีเรื่อง ทุกครั้งที่หลายชายอาละวาดทางพ่อของตน คนที่เสียชีวิต มักจะหลบมานอนที่บ้านของตนตลอด เป็นแบบนี้มานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ที่ผู้ก่อเหตุอยู่ ม.1 ก็เริ่มมีอาการหลอนและอาละวาด
ยอมรับว่าในส่วนประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้ตายจะเป็นคนขี้บ่น แต่จะบ่นในลักษณะเชิงสอน ส่วนปัญหาหลักจากที่ได้สัมผัสมาคือทางคนตายจะบ่นคนก่อเหตุว่าชอบทำลายข้าวของที่มีค่า เช่นเรื่องของจักรยานยนต์ที่ทางผู้ตายชื้อมาขับ แต่ทางคนก่อเหตุมักจะเอาไปขับเล่นจนน้ำมันหมด คนตายก็เลยเก็บกุญแจไว้ไม่ให้ขับ คนก่อเหตุเลยรื้อสายไฟ ทำตัวเป็นล่างต่อสายตรงขับเอง จนทำให้รถเสียหายไปแล้วมากกว่า 2 คัน จนต้องขายทิ้งไปก่อนหน้านี้ ไม่รวมพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ทางคนก่อเหตุมักจะรื้อจนเสียหาย
รวมทั้งเวลาที่เขาเสพยาเสพติดจะอาละวาดในลักษณะเคาะบ้าน ทำลายบ้าน ส่งเสียงดังจนชาวบ้านไม่ได้หบับไม่ได้นอน ซึ่งเป็นที่มาที่ทางผู้ตายต้องมาขอตนอาศัยหากเขาอาละวาด ยอมรับว่าเคยเตือนไปแล้ว แต่ด้วยทางผู้ตายรักหลานคนนี้มาก กลัวว่าหากทิ้งให้อยู่คนเดียวจะไม่มีคนดูแล เลยตัดสินใจอยู่ด้วยความเสี่ยง ส่วนสาเหตุที่ทางผู้ตายเเจ้งจับคนก่อเหตุนั้น เพราะอยากให้เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ได้หวังร้ายหลาน