เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่สร้างความจดจำให้กับแฟนละคร สำหรับสาว "จอย ชลธิชา" เพราะไม่ว่าจะออกมาซีนไหนแฟนๆเป็นต้องทำท่าเลียนแบบคาแรคเตอร์ในละครกันทั้งนั้น ล่าสุดในบท กัทลี ละคร เพลงบินใบงิ้ว เจ้าตัวก็เล่นร้ายได้น่าหมั่นไส้ จนงานนี้ต้องเชิญสาวจอยมานั่งเม้าท์ในรายการ Z Story Z Holiday ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 กับพิธีกร "ดีเจอ๋อง เขมรัชต์" และ "ลิตา อินท์ชลิตา" พร้อยเผยชีวิตคู่หลังแต่งงานว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ไม่ต่างกันเลยค่ะ ด้วยความที่เราเป็นแฟนกันมานาน ตอนนี้เปลี่ยนสถานะจากแฟนเป็นสามี แต่ก็จะเขินหน่อยตรงที่เราไปทำบัตรประชาชนแล้วไปเปลี่ยนนามสกุล ไม่คุ้นเลย
ตอนนั้นอายุประมาณ 13-14 ค่ะ เรื่องอันดากับฟ้าใส เป็นเรื่องแรกเลย ใสมากตอนนั้น แต่ก็โดนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองเหมือนกัน โดนว่าทำไมแรดอะไรแบบนี้ เพราะสมัยก่อน การที่มีเด็กๆ มาใส่ชุดว่ายน้ำ มีบทจูบกับผู้ชาย คือสมัยก่อนยังไม่มีแบบทุกวันนี้ เราต้องย้อนกลับไป เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว แล้วก็อยู่ในภาพยนตร์ ทุกอย่างมันดูใหญ่ไปหมด แล้วคนก็จะมองว่าเราแรดแต่เด็ก เวลาไปไหนคนก็จะแบบว่า ทำไมถึงยอมจูบจริง แม่ให้เล่นบทแบบนี้ได้ยังไง แต่หลังจากนั้นจอยก็รับบทใสๆ มาตลอด จนมาถึงบทร้าย อย่าง น้องนก
เรื่องนี้รับบทเป็น กัทลี ค่ะ เล่นเป็นพี่สาวของน้องวาววา หลายคนจะชอบถามว่าเราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ หรือเปล่า ทำไมถึงได้ร้ายกับน้องขนาดนี้ คือจริงๆ เราไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ คุณแม่เอาเรามาเลี้ยงด้วยความสงสาร เราก็เลยรู้สึกว่าเราก็แอบอิจฉาน้อง เราก็พยายามทำทุกอย่าง เพื่อที่จะอยู่เหนือกว่าเขา แต่จริงๆ ก็ไม่ได้คิดร้ายซะทีเดียว แต่ท้ายสุดตัวละครมันก็จะดำเนินไปยังไง ก็อยากให้ดูต่อกันเอง สปอยตอนนี้ไปเดี๋ยวไม่สนุก
คือทุกคนในเรื่องแรงหมด ไม่มีใครเป็นเกียร์ถอยหลังเลย ทุกคนใส่เกียร์เดินหน้าทั้งหมด ซึ่งเราก็ได้คุยกับผู้กำกับมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว ว่าละครอ่านแล้วสนุกๆมากๆเลย เป็นบทที่เราอ่านแล้ว อยากติดตาม อยากอ่านไปเรื่อยๆ อยากรู้ว่าตัวละครแต่ละตัวมันจะเป็นอย่างไรต่อไป หลายๆ คนก็จะพูดถึงความแรงของละครเนี่ยแหละ จนมีคนมาถามจอยว่าสรุปแล้วเรื่องนี้มีใครเป็นคนดีบ้าง แล้วกระแสตอบรับก็ดีมากจริงๆ เพราะละครมันก็แซ่บจริงๆ
อย่างตอนที่เล่นเป็นตัวละครน้องนก เราเอาตัวละครนั้นกลับมาบ้านด้วย ทั้งต้องเล่นเป็นความใสด้วย ร้ายด้วย โรคจิตด้วย มันทำให้เราเอาออกไปไม่ได้ง่ายๆ เพราะถ้าเอาออกไปแล้ว บางทีจะเอากลับมา มันก็ยาก ทีนี้ก็เลยเอาติดกลับบ้านไปด้วย เอานิสัยไปใช้ที่บ้าน
อย่างยืนอยู่เฉยๆ เราก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เวลาเราพูดคุยกับน้อง จังหวะการพูดทุกอย่างคือเปลี่ยนหมด ปกติจะเป็นคนพูดเร็ว แต่พอกลับบ้านก็จะกลายเป็นคนช้า พูดถึงตัวละครนั้น มันก็จะมีติดกลับไปบ้าง อีกหนึ่งอาการก็คือ การนอนไม่หลับด้วย
ก็ต้องใช้สติค่ะ อยู่กับตัวเองก่อน แล้วบอกกับตัวเองว่า เราเลิกงานแล้ว หรือไม่ก็หากิจกรรมทำ ดูหนังหรือว่าไปออกกำลังกาย ที่มันจะทำให้สลัดตัวละครออกไป ทุกวันนี้ปัญหานี้ก็น้อยแล้วค่ะ บทกัทลีตอนนี้ก็ไม่ได้เอากลับบ้านแล้วค่ะ เพราะถ้าเอากลับบ้าน สามีที่บ้านอาจจะตกใจ
ใช่ค่ะ ฤกษ์จริงๆ คือวันที่ 14 พฤศจิกายน เพราะตอนนั้นอยู่ๆ คุณพ่อก็จากไปอย่างกะทันหันช่วงเดือนตุลาคมค่ะ ก็เลยต้องเลื่อนงานแต่งงานไปก่อน
ก็ยังคิดถึงอยู่ค่ะ เพราะมันก็ยังไม่ได้นาน มันก็ค่อนข้างกะทันหันอยู่เหมือนกัน ก็คือเหมือนเพิ่งคุยกันเมื่อวาน แล้วก็บอกเขาอยู่เลยว่า งานแต่งงานยังไม่เลื่อนนะ เพราะว่าตอนนั้นโควิดมันก็กำลังดีขึ้น แล้วก็จะจำกัดจำนวนคนตามที่รัฐบาลกำหนดทุกอย่าง ประมาณ 50 คน บอกแพลนทุกอย่างเรียบร้อย พออีกวันก็ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อเข้าโรงพยาบาล
คบกันมาประมาณ 8 ปีแล้วค่ะ เจอกันเพราะเพื่อนแนะนำให้รู้จัก ก็คือคุณปูไข่กับคุณเจี๊ยบ ชมพูนุช เขาเป็นพ่อสื่อแม่สื่อในตอนนั้น เพราะเขาก็เดทกันอยู่ แล้วเขาก็เห็นว่าเรายังโสด เขาก็เลยเหมือนหาแฟนให้เพื่อนด้วยเลยดีกว่า เนื่องจากสองคนนั้นเขาก็ไปทะเลกัน แล้วเขาก็เลื่อนเปิดดูไอจีของคุณปูไข่ว่าคนไหนดี เหมือนเปิดแคตตาล็อก คุณเจี๊ยบเขาก็หาให้เรา พอเขาเลื่อนๆ ไป เขาก็เจอคนนี้ ดูการแต่งตัวว่าเข้ากับเราไหม ก็ดูได้อยู่ เพื่อนก็ตัดสินใจแทนเลย
เขาก็ไปสืบว่าคนนี้ยังโสดไหม คุณปูไข่เขาก็เลยไปถามพี่โต้งว่าโสดไหม สรุปผู้ชายเขาก็ยังโสดอยู่ ก็เลยว่ากลับไป ขอนัดเจอกันหน่อย ตอนนั้นก็ตกใจนะที่เพื่อนจัดการให้เราทุกอย่าง แต่ด้วยความที่โสด เราก็จะแบบว่าส่งๆ มาก่อน คือพี่โต้งจะเป็นลำดับที่ประมาณ 11 ช่วงโสดก็คือคุยได้หมด ส่งมาเลย ใครที่คุยรู้เรื่องก็คุยต่อ ใครที่คุยไม่รู้เรื่องก็บายค่ะ สุดท้ายก็มาจบที่คนนี้ แล้วเราก็บอกเขาว่าถ้าพี่มองอนาคตด้วยกันแล้วว่าอยากจะไปต่อ เราก็คบกันได้นะ แต่ถ้าคุณไม่ได้มองเห็นเราในอนาคตของคุณ เราเป็นเพื่อนกันเถอะ เพราะอายุพวกเราก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ไม่อยากเสียเวลา แล้วตอนนั้นเราก็อายุ 30 แล้ว ก็รู้สึกว่าเราจะต้องคบคนเพื่อนสร้างครอบครัว มีอนาคตร่วมกัน ไม่ใช่มาคบๆ เลิกๆ เราก็ไม่ไหว เขาก็บอกเราว่า เขาก็ตั้งใจอยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบคบใครแล้วเลิกเหมือนกัน
มันไม่ได้เรียกว่าเป็นมรสุมหรอก แต่มันเป็นเหมือนอาถรรพ์ 7 ปี เป็นแบบนี้สองคนแล้ว พอถึง 7 ปีแล้วเลิก พอมาคนที่สามก็กลัวแล้ว กลัวว่าบวกไปเรื่อยๆ เราอายุ 50 แล้วจะไปหาสามีที่ไหน เราก็เลยพูดกับเขาไปตอนนั้น เพราะอยากให้เขาจริงจังกับเราจริงๆ
จริงๆ เราเป็นคนที่ชอบเด็กอยู่แล้วด้วยกันทั้งคู่ แต่ว่าโลกมันก็ค่อนข้างที่จะโหดร้ายช่วงนี้ โควิดเราก็ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ เราก็คาดการณ์และคาดหวังว่าอีกสัก 2 ปีถ้าโควิดมันดีขึ้น ก็อาจจะค่อยคิดอีกที แต่ถ้ามีตอนนี้ เราไม่อยากให้ลูกอยู่แต่ในบ้าน ใส่แต่หน้ากากแบบนี้ เราสงสารเด็ก
ฝากละคร เพลงบินใบงิ้ว กันด้วยนะคะ ต้องบอกว่า เข้มข้นทุกสัปดาห์จริงๆ ไม่อยากให้พลาดนะคะ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถรับชมกันได้ เวลา 21.30 น. ค่ะ ทางอมรินทร์ทีวี
ติดตามทุกประเด็นร้อน เพิ่มเติมความแซ่ด กับรายการ Z Story Z Holiday ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 -11.00 น.(เทปใหม่ไม่รีรัน) ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : AMARINTV
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ถือฤกษ์ดี จอย ชลธิชา ควงแฟนหนุ่ม เข้าพิธีวิวาห์สุดชื่นมื่น
- จอย ชลธิชา เปิดความลับอาถรรพ์เลข 7 ทำรักล่มถึง 2 ครั้ง
- สุดอบอุ่น “จอย ชลธิชา” ควง “โต้ง” แฟนหนุ่มเข้าพิธีหมั้น แบบเรียบง่าย
Advertisement