กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3” โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอคำตอบเชิงวิชาการจาก สธ. และผู้มีความรู้ด้วย ผลข้างเคียงเฉพาะตัวบุคคลไหม”
โดยแฟนเพจดังกล่าว นำข้อความจากลูกเพจมาเผยแพร่ว่า “สวัสดีค่ะ ตอนนี้ติดโควิดค่ะ รับยาฟาวิฯ มาทานได้ 2 มื้อแรก มีเลือดออกตอนเช้าห้องน้ำค่ะ ตอนนี้เป็นมื้อที่ 4 เลือดออกมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ มีอาการแปลก ๆ ในช่องท้องแต่ไม่ปวด อยากทราบวาอันตรายไหมค่ะ สอบถามทางเภสัช เขาตอบไม่ได้ เขาบอกไม่มีข้อมูล ขอเป็นกระบอกเสียง เป็นสะพานข้อความนี้ เพื่อให้ผู้รู้ นักวิจัย คุณหมอ ผู้เกี่ยวข้อง ได้มาไขความกระจ่างด้วยค่ะ ตอนนี้กังวลมาก ขอบคุณค่ะ”
ล่าสุดวันที่ 22 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี วิดีโอคลอไปพูดคุยกับน.ส.ดาริน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 65 ตนเดินทางไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พอฉีดเสร็จแล้วช่วงกลางวันเริ่มมีการป่วย คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ พอเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 65 อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปซื้อ ATK มาตรวจ ผลตรวจเป็นลบ แต่ยังป่วยหนักจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 65
ต่อมาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 65 อาการไข้หวัดเริ่มดีขึ้นมาบ้าง และได้เดินทางไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าเข็มที่ 2 จึงสอบถามเภสัชกร ซึ่งพบว่าการป่วยครั้งนี้อาจเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน แต่การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าไม่ได้มีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง มีเพียงปวดเมื้อยกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าทำให้เอะใจ ภายหลังจากที่กลับบ้านมาได้ตรวจ ATK 2 รอบ ผลออกมาเป็นบวก ตนจึงกักตัวที่บ้านทันที พร้อมกับโทรศัพท์ไปติดต่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อจะขอตรวจอีกครั้ง แต่คิวเต็ม
ทั้งนี้ โรงพยาบาล นัดไปตรวจวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 65 ซึ่งตนก็ได้ไปตรวจตามนัด ทางโรงพยาบาลได้เอกซเรย์ปอด พร้อมกับให้ยายาฟาวิพิราเวียร์มาทาน ตนได้ทานยาครั้งแรก 9 เม็ด ในเวลา 21.00 น. จากนั้นก็นอนหลับยาวไปจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 65 กระทั่งเวลา 09.00 น. ตนได้ทานยาจำนวน 9 เม็ดอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ และทำใจไว้แล้วว่าปัสสาวะน่าจะสีข้น
"พอปัสสาวะเสร็จก็ก้มลงดู พบว่าเป็นเลือด เป็นสีแดงอ่อน จึงได้รีบโทรศัพท์สอบถามโรงพยาบาล เภสัชฯ โทรมาพูดคุยและตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เคยมีเคสแบบนี้ แต่หลังจากนั้นเภสัชขอให้ทานยาต่อ เพื่อจะสังเกตการ ก็ได้ทานยาต่อแต่ลดลงเหลือ 4 เม็ด วันนี้ก็ยังเป็นเลือดอยู่ กังวลว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย อยากให้คุณหมอชี้แจงเพื่อความสบายใจ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับนั้นเป็นผลข้างเคียงจากอะไรแน่" เจ้าของโพสต์ กล่าว
นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ กล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาที่ช่วยยับยั้งการกระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นยาที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยตัวยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น การสร้างเม็ดเลือดแดงหรือเม็ดเลือดขาวลดลง คลื่นไส้อาเจียน ตาเป็นสีฟ้า และทำให้ร่างกายสร้างกรดยูริกเพิ่มมากขึ้น ไตทำงานหนัก
นอกจากนี้ หากทานคู่กับยารักษาวัณโรค ยาเบาหวาน และยาหลอดเลือด ก็จะเสี่ยงทำให้กรวยไตอักเสบ ซึ่งเคสดังกล่าวคาดว่าร่างกายสร้างกรดยูริกเพิ่มมากขึ้น ทำให้กรวยไตอักเสบ ปัสสาวะออกมาเป็นเลือด ตนขอแนะนำให้หยุดทานยาตัวดังกล่าว และให้ปรึกษาแพทย์ทันที