กรณีหนุ่มรายหนึ่งซึ่งเคยบวชเป็นสามเณร สังกัดวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ออกมาแฉนำภาพและคลิปวิดีโอของพระเณร ขณะตั้งวงดื่มสุรากันกลางดึกเพื่อฉลองวันเกิดภายในกุฏิ และดื่มยอมใจหลังถูกสามเณรคู่ขาคนหนึ่งบอกเลิก ก่อนพระและสามเณรในวงเหล้าดังกล่าวจะมีเพศสัมพันธ์กัน จึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเป็นการกระทำผิดหลักพระพุทธศาสนา
ล่าสุดวันที่ 22 ก.พ.65 พระครูโกศลวิหารคุณ เจ้าอาวาสวัดกลาง และรองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ามีพระเณรส่วนหนึ่งที่อยู่ในคลิปสึกออกไปแล้ว 2 รูป และส่วนที่เหลืออยู่ที่วัดต้องตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มนั้น จึงได้แจ้งให้เจ้าอาวาสของวัดดังกล่าวเรียกประชุม ซึ่งจะได้เคลียร์ว่ามีใครบ้างในคลิป ส่วนดีก็ให้แยกออกจากกลุ่ม ส่วนที่ทำผิดก็ต้องจัดการว่าจะเอาอย่างไร ความผิดระดับไหนก็ต้องมาดูข้อสรุป ส่วนอย่างอื่นทางคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองก็จะได้แก้ไข
"โทษสูงสุดถ้าดูตามหลักฐาน ในเรื่องของการตั้งวงกินเหล้ากัน สามารถตั้งตักเตือนกันได้ ถ้าไม่มีเรื่องยาเสพติด แต่ในกรณีนี้เรื่องผ่านมานานแล้ว เจ้าอาวาสอาจจะเรียกมา และยังไม่ถึงขั้นสึก ส่วนกรณีที่มีการถ่ายคลิปการร่วมเพศถือว่าร้ายแรง ส่วนการดื่มสุราถ้าเป็นเหตุความผิดซึ่งหน้า ก็สามารถจับสึกได้ แต่แหตุการณ์ล่วงเลยมาแล้ว อาจจะตักเตือนไม่ให้ทำอีก และต้องมีการทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน" พระครูโกศลวิหารคุณ กล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้พูดคุยผ่านโทรศัพท์กับนายเบล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อดีตเณรที่ออกมาแฉเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุหลัก ๆ ก็จะมี 2 คน พระท๊อป ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวั และพระแมน พระลูกวัด อายุ 22 ปี เหตุดังกล่าวเริ่มจากเดือน มี.ค.61 ตนมีบ้านเกิดอยู่ที่จ.สุโขทัย ได้รู้จักกับพระแมน ชาวจ.ศรีสะเกษ ผ่านทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากตนมีรสนิยมเป็นกลุ่มชายรักชาย เลยหลงผิดไปพูดคุยทำความรู้จักกับพระแมน โดยที่มารู้ภายหลังว่าพระแมนไปบวชเป็นพระสังกัดวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
โดยช่วงแรก ๆ ที่ตนพูดคุยกัน ตนยอมรับว่าฐานะที่บ้านยากจน ทำให้พระแมน ที่ตอนนั้นคบกันได้สักพักแล้ว ออกอุบายชักชวนให้ตนไปบวชเป็นสามเณร เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือจนจบชั้นม.3 และจะได้ปัจจัยจากกิจนิมนต์ ตนจึงตกลงทำตามที่พระแมนบอก กระทั่งตนเข้าไปบวชเป็นสามเณร ซึ่งตลอดระยะเวลา 3-4 ปี ตนก็ทนพฤติกรรมของพระแมน และพระท๊อป ไม่ไหว เนื่องจากทั้งคู่มักจะชักชวนและบังคับให้พระเณรภายในวัดมาร่วมวงดื่มสุรากันช่วงกลางดึกเกือบทุกวัน หากใครไม่ยอมปฎิบัติตาม ก็จะถูกข่มขู่ว่า จะให้ทำงานวัดอย่างหนัก และจะไม่ให้ร่วมออกบิณฑบาต หรือรับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน
ส่วนพระแมน ที่ตบคบหาช่วงแรกก็ดีมาก แต่ช่วงระยะหลังที่ตนเข้ามาบวชเป็นสามเณร ก็มักจะบังคับข่มขู่ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย นอกจากนั้นยังบังคับให้ตนมีเพศสัมพันธ์กับสามเณรรูปอื่น ๆ พร้อมกับบันทึกภาพและคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ โดยให้เหตุผลว่ารูปและคลิปวิดีโอดังกล่าวมีค่า ในอนาคตสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ หากนำไปโพสต์ขายผ่านเว็บที่มีรสสนิยมเดียวกัน
นายเบล กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้ตนทนไม่ไหว จึงหนีและศึกออกมาจากวัดในวันที่ 5 ก.พ.65 เพราะรับไม่ได้กับการกระทำ ผิดศีลธรรม ผิดหลักศาสนา ก่อนจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นร้องเรียนผ่านสื่อ หวังให้สำนักพระพุทธศาสนา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่ เข้าตรวจสอบพระลูกวัดดังกล่าว เพื่อลงโทษ จับสึกขาดจากการเป็นพระ และจะได้ไม่ไปบังคับสามเณรบวชใหม่ดื่มสุราหรือบังคับให้มีเพศสัมพันธ์เพื่อถ่ายคลิปสนองตัณหาต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากตนสึกออกมา เท่าที่ทราบพระแมน ก็สึกขาดจากการเป็นพระแล้ว ในวันที่ 8 ก.พ.65 เพราะหนีปัญหาที่กำลังจะตามมา ในส่วนนี้ตนจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามตัวนายแมน เพื่อลบข้อมูลที่เกี่ยวกับตนที่ถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเณรรูปอื่น ๆ เบื่องต้นคาดว่าเจ้าตัวน่าจะกลับพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ภูมิลำเนาบ้านเกิด แต่ไม่รู้จุดไหน ส่วนพระอื่น ๆ ที่กระทำความผิดก็ขอปล่อยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง และสำนักพระพุทธศาสนาดำเนินการแก้ไขตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้ศาสนาต้องเสื่อมเสียจากการกระทำของบุคคลดังกล่าว
ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับพระมหาคำภีโร หนึ่งในพระที่ร่วมวงสุรา กล่าวว่า อาตมายอมรับว่าเป็นหนึ่งในพระที่ร่วมวงสุราจริง ในวันที่ร่วมสังสรรค์นั้น พระแมนซึ่งเป็นพระลูกวัดที่เป็นเพื่อนกับอาตมา ได้ชักชวนให้ไปร่วมสังสรรค์ ซึ่งในส่วนนี้เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว อีกทั้งเป็นความอยากรู้อยากลอง จึงพลาดพลั้งกระทำความผิดดังกล่าว ทั้งนี้ในส่วนของความผิดอาตมาก็รู้สึกสำนึกผิด หากเจ้าอาวาสวัด หรือสำนักพระพุทธศาสนา จะลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบรายละเอียด อาตมาก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลตามความจริงทั้งหมด
ส่วนกรณีที่พระแมน บังคับข่มขู่สามเณรภายในวัดให้มีเพศสัมพันธ์ และถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้นั้น ในส่วนนี้อาตมายืนยันว่าไม่ทราบมาก่อน และขอให้ข้อมูลเพียงเท่านี้ อีกทั้งอาตมาก็ไม่ทราบว่าหลังเกิดเรื่องทั้ง พระท๊อป และพระแมน หลบหนีไปอยู่ไหน