หนุ่มกลับจากไปเฝ้าไข้พ่อที่ป่วย แล้วกลับไม่ถึงบ้าน ก่อนตายโทรคุยกับแม่ว่าตำรวจ และบอกอย่าวางหูโทรศัพท์ และพูดเป็นลางร้าย จนกระทั่งสายหลุดติดต่ออีกไม่ได้ จนรุ่งเช้าพบเป็นศพนอนตายอยู่ในร่องริมถนน ในสภาพมีเลือดเต็มใบหน้า โดยเฉพาะที่เบ้าตาขวา มีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็งนั้น
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 2565 ร.ต.อ.พลายชุมพล จันทวิมล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในร่องข้างถนน สายเกษตรวิสัย-บ้านน้ำอ้อม หมู่ 8 บ้านน้ำอ้อม ต.น้ำอ้อม อ.เกษติวิสัย จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพนายกมล เทียมปาก อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในร่องริมถนน ข้างต้นยูคาลิปตัส สภาพศพสวมกางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน มีกระเป๋าสะพายสีดำคล้องอยู่ สภาพศพนอนคว่ำหน้า บริเวณใบหน้ามีเลือดเต็มไปหมด โดยเฉพาะที่เบ้าตาด้านขวาแตก เป็นแผลฉกรรจ์ คล้ายกับถูกของแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง จึงนำส่ง รพ.เกษตรวิสัย เพื่อส่งต่อไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด
จากการสอบสวนนางบังอร พาลาด อายุ 54 ปี แม่ผู้ตาย บอกว่า รู้สึกว่าการเสียชีวิตของลูกชายอาจจะถูกฆาตกรรม ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกจากบ้าน เพื่อไปจอดไว้ที่ บขส.เกษตรวิสัย แล้วก็จะขึ้นรถตู้โดยสารต่อ ไปเฝ้าไข้พ่อที่ รพ.ร้อยเอ็ด และจะกลับมาในตอนเย็นทุกวัน
ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เช่นกัน เมื่อลูกชายมาถึงเกษตรวิสัยแล้ว ก็ยังโทรบอกญาติว่ากลับมาค่ำรถตู้ได้เอาไปส่งลงที่ สภ.เกษตรวิสัย จะรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเอารถไปส่งบ้าน ซึ่งห่างจากตัวอำเภอประมาณ 6 กม.
ขณะที่รอจนกระทั่งเวลา 22.00 น. เศษ ผู้ตายได้โทรศัพท์ไปบอกญาติว่าขณะนี้กำลังขึ้นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไปส่งที่บ้าน และบอกว่าไม่ต้องวางสาย จากนั้นนายกมลก็พูดจาคล้ายคนกลัวและตกอยู่ในอาการวิตกกังวล พร้อมกับพูดเป็นลางคล้ายจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง และพูดผ่านโทรศัพท์มาในลักษณะคล้ายสั่งเสียว่าถ้าตนตายให้มางานศพด้วย และญาติก็บอกว่าอย่าวางสายโทรศัพท์ แล้วผู้ตายก็พูดโทรศัพท์บอกการเดินทางตลอดเวลาว่าผ่านที่ใดบ้างแล้ว โดยจะมีเสียงลมเข้ามาในโทรศัพท์ตลอดเวลา
จากนั้นสายก็หลุด แล้วเงียบไป ติดต่อกันไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงพบว่าเสียชีวิตแล้ว ต่อมาทางญาติไปดูที่ บขส.เกษตรวิสัย ก็พบรถของผู้ตายจอดอยู่ "ลูกชายต้องถูกฆ่าตายจากใครก็ไม่รู้ แต่ลูกบอกว่าตำรวจมาส่งตน ก็สงสัยว่าเมื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปส่งทำไมจึงไม่ส่งจนถึงบ้าน และยังมาเสียชีวิตอยู่ริมถนน ถ้าตกรถจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไมจึงไม่นำลูกส่งโรงพยาบาล และไม่แจ้งให้ญาติทราบ"
พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ดที่ เปิดเผยว่า ได้เรียกสอบทางด้าน พ.ต.อ.วินทุ ฝังใจ ผกก.สภ.เกษตรวิสัย เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ และรายงานของพนักงานสอบสวนเวร ซึ่งได้รายงานข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุ พร้อมทั้งนำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่สภ.เกษตรวิสัย มาประกอบคำชี้แจง และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ทราบ
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งรถตู้มา ขอให้ตำรวจไปส่ง อ้างว่าเกรงจะไม่ปลอดภัยและหลอนว่ามีคนปองร้าย ให้มาส่งที่สถานีตำรวจด้วยรถตู้ ตลอดด้วยอาการผิดปกติ และมาถึงก็มีอาการผวาว่ามีคนตามปองร้าย พอมาถึง สภ. ก็ผวามองซ้าย-มองขวามีอาการนั่งหมอบ และหลบไปหลบมาในลักษณะเหมือนกลัว และหลอนว่ามีคนจะมาทำร้าย และเมื่อตำรวจจะนำรถของตำรวจไปส่งบ้าน เจ้าตัวยังแจ้งว่ามีอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด และขอนั่งหลังรถคันที่จะไปส่ง และพบว่าหลังจากขึ้นรถกลับไม่นั่งตามปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปส่ง พบว่าผู้ตายมีอาการหลอน และผิดปกติ คือไม่นั่งธรรมดาแบบคนทั่วไป แต่นอนหมอบลงกับพื้นรถ เหมือนจะหลบใคร พร้อมกับเห็นคุยโทรศัพท์ไปด้วยตลอดเวลา ก็ไม่ได้สนใจในอาการที่ผิดปกติ ซึ่งพบตั้งแต่อยู่ที่สถานีตำรวจแล้ว
จนกระทั่งจะเข้าหมู่บ้านปรากฎว่าพบกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันจึงจอดรถถามเพราะสงสัยว่าเกิดเหตุมั่วสุมกันจึงจอดรถถามแต่ก็ไม่พบความผิดปกติจากนั้นตำรวจก็กลับมาขึ้นรถก็ปรากฏว่าไม่พบผู้ตายอยู่ท้ายรถแล้วซึ่งเข้าใจว่าคงลงรถกลับบ้านแล้วจึงขับรถกลับสภ.ฯจนกระทั่งเช้าซึ่งทราบว่าหนุ่มที่ให้ไปส่งเสียชีวิตแล้วตร.จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะประสาทหลอนจากการที่ขณะนั่งรถก็บอกญาติทางโทรศัพท์มีคนไล่ยิงทั้งๆที่ตร.ที่ไปส่งก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงปืนส่วนการกระโดดรถเสียชีวิตอาจจะกระโดดตอนที่คุยโทรศัพท์หลอนว่ามีคนตามยิงเลยกระโดดรถหรืออาจจะกระโดดรถตอนที่ตำรวจชะลอรถเมื่อเห็นกลุ่มวัยรุ่นแต่ไกลซึ่งผู้ตายอาจเห็นและหลอนคิดว่าคนมาดักทำร้ายจึงกระโดดรถก่อนจะถึงจุดที่วัยรุ่นอยู่เป็นเหตุให้เสียชีวิต
ยืนยันว่าการตายไม่ได้ตายด้วยการการกระทำของตำรวจแน่นอน เพราะความจริงแล้วญาติก็ยอมรับว่ามีการเสพยา แล้วจิตหลอนมานานแล้ว และพอมาพึ่งตำรวจก็ไปส่งด้วยความหวังดี แต่กลับกระโดดรถเสียชีวิต