จากกรณี วันที่ 22 ก.พ.65 มีสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ในกลุ่มงานบ้านที่รัก สอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เจอ ขณะกำลังรีโนเวตบ้านมือสอง เป็นสิ่งไม่คาดคิด ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกกลัวเพราะเจอกางเกงในเปื้อนเลือด โดยระบุว่า "ขออนุญาตสอบถาม ซื้อบ้านมือ 2 มาค่ะ กำลังจะรีโนเวทบ้าน ขณะที่ช่างกำลังรื้อบันได ขุดเสาบันไดขึ้นมา เจอกางเกงในเก่าเปื้อนเลือดอยู่ใต้เสาบันได หลุมละ 3 ตัว ทั้ง 4 หลุม มีสีขาว 11 ตัว และสีดำ 1 ตัว บอกตามตรงกลัวค่ะ"
วันที่ 23 ก.พ. 65 ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น โดยจุดที่พบกางเกงในเปื้อนประจำเดือน จะอยู่ช่วงบริเวณใต้เสาบันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้าน จากการสังเกตพบว่าขณะที่ช่างซ่อมบ้านกำลังขุดปรับสถานที่ ยังคงพบชิ้นส่วนของกางเกงในเก่า ที่เปื้อนประจำเดือนหลงเหลืออยู่ภายในหลุมปักเสาบันไดบางส่วน
นายนครินทร์ จินดากุล แฟนเจ้าของบ้าน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของภรรยาคือ นางสิริวรรณ จินดากุล อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเภสัชกรอยู่ที่ จ.บุรรีรัมย์ เป็นบ้าน 2 ชั้น ซื้อต่อมาจากพี่สาวของแม่คือ นางสำราญ ยิงรัมย์ หรือ ปาน จากการสอบถามบ้านมีอายุประมาณ 40 ปี
ภรรยาซื้อต่อมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงหวังจะเข้าไปอยู่อาศัยกันเอง เพราะในช่วงวัยเด็กของภรรยา เจ้าตัวก็เคยเข้าไปวิ่งเล่นในบ้านหลังดังกล่าวอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยพบเจออะไรผิดปกติ โดยหลังจากซื้อบ้านมา ตนก็ได้จ้างวานช่างให้ช่วยรีโนเวตบ้านให้ เพราะภรรยาตนเป็นคนชอบแสง ไม่ชอบมุมมืดมุมอับ และไม่ชอบอะไรที่สามารถลอดใต้ผ่านได้ เช่น ไม่ชอบเตียงที่มีใต้เตียง ไม่ชอบบันไดที่นั่งใต้บันไดได้ ตนจึงบอกให้ช่างจัดการรื้อมุมอับของบ้านทิ้งทั้งหมด
จนเมื่อวันที่ 20 ก.พ.65 ที่ผ่านมา แม่ของภรรยาได้เข้าไปคุมช่างเพื่อรีโนเวตบ้านเหมือนตามปกติ แต่จังหวะที่ช่างรื้อเสาบันได พบมี กางเกงในเลอะประจำเดือนผู้หญิงอยู่ใต้เสาบันได เสาละ 3 ตัว มีทั้งหมด 4 เสา รวมพบกางเกงใน 12 ตัว ช่างจึงตะโกนบอกว่า "เจอของดีแล้ว ๆ" เมื่อแม่ของภรรยาทราบจึงได้นำกางเกงในดังกล่าวไปเผากลางแจ้ง โดยไม่บอกตนกับภรรยา ทำให้ตนเพิ่งมาทราบเมื่อวานนี้ 21 ก.พ.65
เบื้องต้นจากการสอบถามคนในครอบครัวพบว่าไม่มีใครทราบเรื่องกางเกงในดังกล่าวเลย แม้แต่ตัวเจ้าของบ้านคนเก่าเอง ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ามีความกังวล เพราะแถบอีสานค่อนข้างที่จะมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ภรรยาจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงบนโซเชียลฯ เพื่อสอบถามความคิดเห็น แต่ยิ่งโพสต์ก็ยิ่งมีความกังวล เนื่องจากมีคนมาคอมเมนต์ว่าสิ่งไม่ดี เป็นของไสยศาสตร์อาจทำให้คนในบ้านที่จะอาศัยอยู่ไม่ได้ หากมีคู่ก็จะแยกจากกัน
ส่วนนี้ตนและภรรยาจึงไปปรึกษาหมอธรรมที่เคารพนับถือภายในพื้นที่ กลับได้รับคำตอบว่ากางเกงในเปื้อนประจำเดือนหญิงสาวดังกล่าว เป็นไสยศาสตร์อาถรรพ์ ที่หากมีไว้จะทำให้ครอบครัวเกิดแต่ความวุ่นวายเหมือนตามที่ตนคิด หมอธรรมก็ได้แนะนำแนวทางการแก้ไขให้ตนไปหาไม้สะเดาที่ถูกฟ้าผ่ามาทำการปักรอบบ้าน เพื่อทำพิธีตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ ก่อนนิมนต์พระมาสวดปัดเป่าทำบุญบ้าน เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับผู้ที่จะเข้ามาอยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็คงจะรีโนเวตบ้านไปเรื่อย ๆ ด้วยงบประมาณ 300,000-500,000 บาท แต่จะเหลือไว้แค่บันได เนื่องจากคงจะปรึกษาผู้รู้ให้ช่วยมาทำพิธีต่าง ๆ ภายในบ้านให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากทำอะไรเสร็จสิ้นแล้วจึงจะย้ายเข้าอาศัย และใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม อยากฝากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ หากจะทำการซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยควรไตร่ตรองให้ดีและตรวจสอบให้แน่ชัด จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับตน
นายบุญมา มูลตา อายุ 32 ปี ช่างซ้อมบ้าน กล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนถูกว่าจ้างให้มาทำการรีโนเวตบ้านหลังดังกล่าว ขณะจะทำการรื้อเสาหลักบันได ใต้ฐานเสาหลักบันไดมีกางเกงในของผู้หญิงที่เลอะเต็มไปด้วยประจำเดือน เสาใต้บันไดถูกขุด 4 หลุม พบทั้ง 4 หลุมมีกางเกงในอยู่ภายในหลุมละ 3 ตัว มีสีขาว 11 ตัว และสีดำ 1 ตัว รวมทั้งหมด 12 ตัว
ตนจึงแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับทางแม่ของผู้ว่าจ้างทราบ พร้อมแนะนำให้นำไปเผาทิ้ง เนื่องจากตนเคยเป็นเด็กวัด ช่วยงานสัปเหร่อมาก่อน จึงทราบว่ากรณีดังกล่าว เป็นเรื่องของมนตร์ดำ อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ เสมือนผู้ที่ลงมือกระทำมีความต้องการอยากจะให้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวทะเลาะเบาะแว้ง ใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไม่มีความสุข จึงแนะนำให้เผาทำลายทิ้งดีกว่าเพื่อจบปัญหา และเพื่อความสบายใจของผู้ที่จะมาอยู่อาศัย
นางกุลทรัพย์ ยิงรัมย์ อายุ 52 ปี แม่เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวมีอายุมามากกว่า 50 ปี โดยเจ้าของบ้านคนเก่าก่อนจะขายบ้านหลังนี้ให้ลูกสาวคือ นางสำราญ ยิงรัมย์ หรือ ปาน อายุ 62 ปี เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของตน ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนได้โทรศัพท์สอบถามพี่สาว เจ้าตัวก็บอกไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งลองปรึกษาหารือกันภายในครอบครัว ก็เชื่อว่าคนในครอบครัวก็ไม่น่าจะมีใครที่คิดร้ายต่อกันถึงขั้นก่อเหตุเล่นคุณไสยในลักษณะดังกล่าว
ตนจึงทำให้เชื่อว่าบุคคลที่ก่อเหตุดังกล่าว น่าจะทำเรื่องราวดังกล่าวไว้ก่อนที่ครอบครัวของตนจะย้ายมาอยู่หรือไม่ ส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบ แต่อีกมุมก็เชื่อว่ามีคนรัก ก็ต้องมีคนเกลียด แต่ก็ไม่รู้ว่าบุคคลที่กระทำเป็นใคร จึงไม่อยากใส่ใจ โดยหลังจากทราบเรื่อง ตนก็ได้นำกางเกงในดังกล่าวไปเผาทำลายทิ้งเป็นที่เรียบร้อย เพื่อความสบายใจของคนในครอบครัว พร้อมทั้งอยากจะให้เคสนี้เป็นเคสอุทาหรณ์ถึงวัยรุ่น ควรระวังหากจะทำการซื้อบ้านอยู่อาศัย ต้องมีการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน เพราะเรื่องราวไสยศาสตร์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเล่า แต่เป็นเรื่องที่มีเกิดขึ้นจริง และขอให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล