จากกรณีเพจ WATCHDOG THAILAND ได้รับแจ้งจากนายพูนศักดิ์ สุวรรณรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต ซึ่งเป็นผู้ดูแลคอกสุนัขภายในวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี ว่า หมู่บ้านที่อยู่ข้างวัด ร้องเรียนว่า คอกสุนัขได้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เนื่องจากสุนัขส่งเสียงเห่าหอนดังรบกวน และส่งกลิ่นเหม็น โดยพบว่ามีบ้านหลายหลังได้รับผลกระทบ กระทั่งมีการฟ้องศาลต่อเจ้าของที่ดินที่สร้างคอกหมา (อ่าน :
หลวงตาป่วยติดเตียง ซวยที่ดิน 500 ล. ถูกเอาหมานับร้อยมาปล่อย โดนฟ้อง พวกคนเลี้ยงหนีหมด)
วันที่ 21 ม.ค. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่วัดบัวขวัญ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของคอกสุนัขดังกล่าว พบว่าคอกสุนัขอยู่ในพื้นที่วัดบัวขวัญ ตั้งติดกับแพงหมู่บ้านจัดสรร
โดยบรรยากาศในช่วงกลางคืน ภายในคอกสุนัขมีการเปิดไฟส่องสว่างแค่บางส่วน และมีเสียงสุนัขเห่าเสียงดังชัดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา รวมถึงมีกลิ่นเหม็นของอุจจาระสุนัข และกลิ่นสาปสุนัขเป็นระยะ
โดย
นางจิตตา ทิมรอด อายุ 54 ปี ชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า หลังจากกรณีดังกล่าวเป็นข่าว วันนี้เสียงสุนัขเห่าดูคล้ายจะเงียบกว่าปกติ ทั้งที่ปกติแล้วจะมีเสียงสุนัขดังมากกว่านี้ โดยในช่วงเวลา 01.00 น. - 02.00 น. เสียงสุนัขเห่าจะดังมากกระทั่งตนไม่สามารถนอนได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตนต้องตื่นมากวาดอุจจาระสุนัขทุกเช้า ยิ่งวันไหนมีฝนและมีน้ำไหลหลากก็มักจะมีอุจจาระลอยมาตามน้ำ ซึ่งในฤดูผสมพันธ์สุนัขจะหอนอย่างต่อเนื่อง สร้างความทรมานกับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก และช่วงเวลา 04.00 น. ของทุกวันจะมีกลิ่นสาปสุนัขจะแรงเป็นพิเศษ ตนต้องทนอยู่กับสภาพดังกล่าวนี้ทำให้เสียสุขภาพจิตมาก แต่ก็ย้ายไปไหนไม่ได้เพราะครอบครัวของตนไม่มีฐานะมากพอ
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า หากมีสุนัขวิ่งอยู่หน้าบ้าน ตนก็มักจะนำก้อนหินขว้างไล่สุนัข เพราะไม่ต้องการให้สุนัขถ่ายรดบริเวณหน้าบ้าน
นางจิตตา กล่าวต่อว่า ตนต้องการให้นำสุนัขออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้หลวงตาเดือดร้อนเรื่องคดีความ อีกทั้งตนมองว่าหลวงตาไม่ได้เต็มใจให้นำสุนัขมาเลี้ยง แต่เนื่องจากหลวงตานอนป่วยติดเตียง เมื่อใครขออะไรได้แค่พยักหน้าแต่พูดไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าการพยักหน้าหมายความว่าอะไร