จากเหตุการณ์ "แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อน ๆ คืนวันที่ 24 ก.พ. 65 กระทั่งพบร่างของแตงโม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 65 ล่าสุด 27 ก.พ. 65 ผู้จัดการของดาราสาว เปิดเผยถึงสาเหตุเพราะไปปัสสาวะท้ายเรือทำให้พลัดตกนั้น
กรณีการตรวจพยานหลักฐานโดยเฉพาะเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐานได้มีการตรวจสอบพบเส้นผมบริเวณใบพัดของเรือ ซึ่งเบื้องต้นยังรอผลการยืนยันเกี่ยวกับเส้นผมดังกล่าว ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพร้อมกับเรือสปีดโบ๊ต ขณะที่มีการล่องในแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้ความเร็ว 20 กม./ชม. ตามที่เคยมีบุคคลเคยให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับรายละเอียดการขับเรือ
วันที่ 4 มี.ค. 65 ทีมข่าวได้มีการทดสอบใช้ทุ่นสีดำ โยนลงไปที่ท้ายเรือ ใกล้กับใบพัดและคลื่นของเรือ ปรากฏว่าทุ่นดังกล่าวมีลักษณะรอยและถูกดูดเข้าไปใต้ท้องเรือ และติดอยู่ที่กราบท้าย ไม่ได้มีการหลุดออกหรือลอยห่างออกไปจากเรือ เมื่อมีการลดความเร็วลง จะเห็นทุ่นผลุบ ๆโผล่ ๆ แต่ก็ยังไม่หลุดออกจากใต้ท้องเรือ จากนั้นเมื่อลดความเร็วและให้เรือจอดนิ่ง จึงจะสามารถดึงทุ่นออกมาได้ปกติ แต่จากการทดสอบด้วยน้ำหนักของทุ่นที่ไม่ได้เท่าตัวบุคคล จึงทำให้มีลักษณะลอยอยู่บนผิวน้ำจมลงเพียงแค่เล็กน้อย จึงไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ได้โดยตรงเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่จะทำให้จมลงไปในน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์
นายธีรพัฒน์ บุญภิรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือสปีดโบ๊ต วิเคราะห์เกี่ยวกับเส้นผมที่อยู่ในใบพัดเรือ ตามที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพบว่า ขณะที่เรือกำลังแล่นจะมีลักษณะทำให้เกิดแรงดันของน้ำดันออก เมื่อตกอยู่ด้านหลังใบพัดเรือ จะทำให้ถูกดีดออกทันที ซึ่งจะไม่ถูกดูดเข้า ยกเว้นในขณะที่ตกลงไปเรือจอดนิ่ง จากนั้นมีการเริ่มเร่งความเร็ว หรือมีการถอยหลังของเรือมีลักษณะดูดน้ำเข้า จะมีความเป็นไปได้ที่จะดูดเอาร่างหรือเส้นผมเข้าไปพันในใบพัด ทั้งนี้หากเส้นผมบางส่วนถูกพับอยู่ที่ใบพัด หมายความว่าศีรษะหรือล่างส่วนหัวของบุคคลที่ตกลงไปในน้ำก็จะถูกปั่นจนแหลก จึงวิเคราะห์ว่าการตกด้วยความเร็ว ไม่สามารถที่จะเกี่ยวเอาเส้นผมบางส่วนไปพันเอาไว้ได้ เว้นแต่ว่าแม่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างมีสิ่งปฏิกูล หรือร้านตัดผมมีการนำเส้นผมไปโยนลงทิ้งน้ำ อาจเป็นเส้นผมอื่นที่เข้ามาพันอยู่ในก้านของใบพัดเรือ อาจไม่ใช่เส้นผมของแตงโมก็ได้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับการคาดการณ์ว่าในระหว่างที่แตงโมผลักตกน้ำ และเรือกำลังวนหา ร่างบางส่วนยังไม่ได้จมน้ำ และถูกทับหรือใบพัดพันผม ส่วนตัวมองว่าอาจมีความเป็นไปได้ยาก เพราะเนื่องจากเรือมีลักษณะเป็นตัววี เวลาที่จะเล่นผ่านมาแล้วทับร่างจนกระทั่งไปโดนใบพัด น้ำจะตีแยกแหวกออกซ้ายขวาจะไม่สามารถที่จะทับโดยตรงได้ และไปสู่ใบพัดด้านหลัง ฉะนั้นความเป็นไปได้เกี่ยวกับเส้นผมที่อยู่บริเวณใบพัดจะเป็นของแตงโม ภายใต้ของสภาพศีรษะที่ยังอยู่ปกติไม่มีบาดแผล จึงอาจมีความเป็นไปได้ยากพอสมควร
ทั้งนี้ หากมีการวิเคราะห์ว่าในขณะที่นางสาวแตงโมตกลงไปในขณะที่เรือกำลังจอดนิ่ง จากนั้นมีการเร่งเครื่องออกเรือ จึงทำให้มีบางส่วนของร่างกายโดยเฉพาะเส้นผมไปพันอยู่ในใบพัด ก็ยังเป็นข้อสมมุติฐานที่มองว่ายากเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากจะถูกดูดเพียงแค่เส้นผมศีรษะก็ต้องเข้าไปถูกปั่นด้วย แต่ถ้าหากในขณะนั้นเลือกกำลังแล่นด้วยความเร็วไม่ถึง 20 กม./ชม. และมีคนตกเรือ คนขับมีการกระชากให้เรือถอยหลัง หรือถอนคันเร่งสั่งหยุดเรือทันที ลักษณะของการหยุดของเรือไม่ใช่การเบรกเหมือนรถ เป็นเพียงการหยุดใบพัด เพื่อให้เรือหยุด แต่หลังจากที่มีการหยุดใบพัด เรือยังต้องไหลเดินหน้าไปไม่น้อยกว่า 5 เมตร จึงจะนิ่ง ฉะนั้นจึงยากที่จะมองว่าใบพัดจะมีการดูดเอาอะไรบางอย่างไปติดได้
แต่สำหรับกรณีการทดสอบโยนทุ่นของทีมข่าวในวันนี้ ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างเบากว่าร่างของมนุษย์ ฉะนั้นการจมจึงไม่ได้เท่ากับน้ำหนักมนุษย์ ทำให้ทุ่นดังกล่าวลอยอยู่บนผิวน้ำ เมื่อเจอกับคลื่นของใบพัดเรือจึงทำให้รอยและติดอยู่ใต้ท้องเรือ ไม่ได้ดีดออกเหมือนเช่นกับน้ำหนักตัวคน
ด้านนายสุรัติ สกุลสัน อายุ 49 ปี กับตันเรือ NBC ให้ข้อมูลว่า กรณีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพบเจอเส้นผม บริเวณใบพัดท้ายเรือลำเกิดเหตุนั้น ตนไม่เห็นลักษณะของการพันกับใบพัดเรือ ในความเป็นจริงแล้วหากจะมีเส้นผมเข้าไปพัน 1 รอบหมุนใบพัดได้ ความยาวของเส้นผมต้องยาวประมาณ 1 เมตรขึ้นไป และจะขาดได้ ถ้าใบพัดทำการหมุดอีกครั้ง
ในรอบการหมุนใหม่ จากประสบการณ์ใบพัดเคยไปติดกับเส้นเอ็นตกปลาก็จะหมุนรอบใบพัด และถูกตัดขาดในที่สุด อีกตัวอย่างคือ เชือกของเรือโยงที่มีการรออยู่ในน้ำแล้วเรือวิ่งผ่าน ทำให้ใบพัดไปโดนเชือก ก็สามารถทำให้ใบพัดตัดเชือกได้หากเรือวิ่งในความเร็ว ใบพัดก็จะทำรอบหมุนประมาณ 2,000 ครั้งต่อนาที
ถ้าเป็นการเสยผม หรือหวีผมบนเรือ ผมอาจจะปลิวไปกับสายลมที่พัดออกไป เนื่องจากผมไม่มีน้ำหนัก จากประสบการณ์ทิชชู่ที่เคยตกในเรือทิชชู่ก็โดนลมปลิวออกจากเรือ ซึ่งตนสันนิษฐานว่าการพบเจอบริเวณท้ายเรืออาจจะเป็นตอนที่มีการพลัดตกเรือ ก็เป็นไปได้ แต่ความน่าจะเป็นหากใบพัดมีการปั่นผมเข้าไปจริง ก็เชื่อว่าใบพัดจะปั่นและดูดผมไปทั้งยวง คงไม่หลุดออกไปแค่ 2-3 เส้นเท่านั้น
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า จากข้อมูลข้างตนส่วนตัวอาจจะสันนิษฐานได้ว่าผู้เสียชีวิตเองอาจจะตกหรือร่วงลงมาจากเรือ แล้วมาอยู่ใกล้กับบริเวณใบพัดของเรือ ส่วนว่าจะร่วงจากด้านหน้าหรือหลัง หรือร่วงจากเรือทิศทางไหนนั้นอาจจะไม่สามารถชี้ชัดได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าแล้วเส้นผมที่หลุดเข้าไปอยู่ใบพัดเรือมาจากที่ศีรษะเข้าไปใกล้ใบพัดเรือ จนทำให้ใบพัดเกี่ยวกับเส้นผมจนหลุด หรือจะเป็นเพราะเส้นผมหลุดร่วงจากสาเหตุอื่นแล้วไปติดอยู่ที่บริเวณใบพัดเรือ ในส่วนนี้ตามหลักนิติเวช สามารถมีการหาคำตอบได้ คือเรื่องของจำนวนปริมาณที่ตรวจพบว่ามีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงสามารถตรวจสอบได้ว่าร่องรอยของเส้นผมนั้นมีการตัดขาดของใบพัดเรือ หรือเป็นการหลุดตามปกติจากโคนผม ตลอดจนมีสาเหตุการขาดของเส้นผมมาจากการตัดหรือหลุดร่วง โดยการกระชากจากสิ่งอื่นหรือไม่ ในส่วนนี้สามารถตรวจสอบได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่เส้นผมของแตงโมหลุดมาติดใบพัดเรือมาได้อย่างไร
ส่วนถามว่าเส้นผมที่พบสามารถชี้ชัดไปถึงช่วงเวลาที่หลุดเข้าไปในพัด หรือชี้ชัดช่วงเวลาที่คาดว่าจะตก ตลอดจนท่าทางการพลัดตกนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หลักฐานชิ้นนี้เองก็สามารถนำมารวบรวมประกอบกับหลักฐานชื่นอื่นได้