หลักฐานไขคดี? เปิดกล้องกฟผ. แตงโมเกาะท้ายเรือ ผู้รู้ฟันธงแค่แสงสะท้อน (คลิป)

เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 9 มี.ค. 65 มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดังที่พลัดตกเรือเสียชีวิต ได้พบหลักฐานสำคัญที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยที่ใดมาก่อน หลังจากลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทางเรือสปีดโบ๊ตในห้วงเวลาเกิดเหตุ พบว่ามีกล้องวงจรปิดบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ วันที่ 24 ก.พ.65 ช่วงเวลาประมาณ 22.34 น. ซึ่งเป็นช่วงที่สอดคล้องกับคำให้การของพยานเรื่องเวลาแตงโมตกเรือ

เวลาที่บันทึกได้จากกล้องวงปิด ช่วง 22.33.57 น. เห็นว่ามีเรือลำที่เกิดเหตุแล่นผ่านเข้ามา ก่อนที่จะแล่นสวนกับเรือขนทราย ช่วงเวลา 22.34.03 น. ก่อนเรือจะแล่นผ่านพ้นหน้าจอกล้องจากวงจรปิด แล้วเรือก็ได้วกกลับมาอีกครั้ง

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจตั้งแต่ท่าเทียบเรือขนทรายตรงข้ามการไฟฟ้า นายเทพ ขวัญอ่อน อายุ 65 ลูกจ้างบริษัทขนทราย เล่าว่า คืนก่อนทราบว่าแตงโมตกเรือตอนนั้นจำได้แม่นว่าเวลาประมาณ 21.30 น. ตนและพวกคนเรือเห็นเรือลำหนึ่งเปิดเพลงเสียดังและขับผ่านไปไวมาก แต่ไม่สนใจ และไม่รู้ว่าเป็นเรือลำที่แตงโมนั่งมาและเป็นธรรมชาติของคนเรือที่จะไม่สนใจเรืออยู่แล้วมารู้ข่าวคืนตอนเช้าว่าแตงโมตกเรือ

ตนเองยืนยันว่าหลังได้ยินเสียงเพลงบนเรือดังในขณะนั้น ไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีใครตกเรือ และไม่ได้เสียงอื่นใด นอกจากเสียงเพลง ส่วนเรือบรรทุกทรายสวนกันช่วงก่อนถึงท่าเรือตน ตนจำได้เป็นเรือขนทรายบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งวิ่งตามเวลานี้ประจำ

ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ วันที่ 24 ก.พ. 65 ช่วงเวลาประมาณ 22.34 น. ช่วงที่สอดคล้องกับคำให้การของพยานเรื่องเวลาแตงโมตกเรือ อีกทั้งสอดคล้องกับคำให้การของพยานที่ระบุว่าพบเห็นคนพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตขณะกำลังแล่นสวนทางกับเรือขนทรายนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจอแล้ว! นาทีแตงโมตกน้ำ ภาพจากเรือบรรทุกทราย ดันเห็นสปีดโบ๊ต 2 ลำ

นายธราธร มาฬมงคล ผู้จัดการบริษัท ดิจิทัล เฟิร์ส บริษัทกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดของ กฟผ. มุมสูงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นห้วงเวลาที่พยานให้การว่ามีคนพลัดตกจากสปีทโบ๊ตนั้น ตนเองมองว่าลักษณะการผ่านของเรือนั้น ไม่ใช่มอเตอร์ของเรือ เพราะห่างจากเรือมากเกินไป หากดูจากลักษณะของเรือหรือจะเป็นแขนคนเกาะท้ายเรือยิ่งไม่ใช่ เพราะมองว่ากล้องถ่ายจากระยะไกลมาก หากเป็นแขนคนยิ่งไม่ใช่เด็ดขาด เพราะแขนไม่ใช่วัตถุที่ใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นแสงตกกระทบของกล้อง บริเวณจุดใดจุดหนึ่ง และมีไฟท้ายเรือมาเกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าไม่ใช่คุณแตงโมแน่นอน และช่วงเวลาดังกล่าวในกล้องวงจรปิดไม่พบสิ่งของหรือคนตกน้ำเลย หากมีคนตกน้ำ ก็คงจะต้องมีน้ำกระเพื่อมมากกว่านี้ แต่ในวงจรปิดไม่มีเลย ประกอบกับแสงอื่น ๆ ที่สาดเข้ามาในกล้องด้วย

ส่วนคลิปที่คล้ายมีการจิกหัว บริเวณหัวเรือนั้น ตนเองมองว่าเป็นมือของคนคนนั้นเอง เพราะดูจากภาพคล้ายก้มขึ้นมาจับศีรษะ หรือ กำลังวนหาอะไรบางอย่าง หรือปวดศีรษะหรือไม่ เมื่อดูครั้งแรกบนเรือมี 6 คน หากซูมภาพและดูอย่างละเอียดบนเรือมี 5 คนแน่นอน

ส่วนกล้องวงจรปิดลักษณะคล้ายคนยืนกอดกันบริเวณหัวเรือนั้น มองว่าอาจจะเป็นไปได้ เรื่องของคนยืนบริเวณหัวเรือ อาจจะกอดกัน หรือยืนใกล้กัน เพราะข้างที่สวมกอดไม่มั่นใจว่าเป็นมือหรือเป็นชิ้นส่วนของเรือ ซึ่งดูจากคลื่นแล้วเรือวิ่งด้วยความเร็ว หากยืนกอดกันคงจะไม่นิ่งแบบในภาพ และมองว่าเป็น 2 คนแน่นอน หนึ่งคนสวมเสื้อสีดำหรือน้ำเงิน อีกคนสวมเสื้อสีอ่อน คล้ายบอดี้สูท

ส่วนกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือเทเวศร์ ที่ ส.ส.เต้ สงสัยนั้นยืนยันว่าไม่มีใครตกลงไปในน้ำเลย เพราะช่วงเวลาที่เรือผ่าน มีแสงจากร้านอาหารส่องมาพอดี หากมีคนตกในช่วงเวลาดังกล่าว ต้องมีน้ำกระเพื่อมบ้าง ในคลิปเห็นเพียงแสงกับคลื่นเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ในแม่น้ำกล้องวงจรปิดจะมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะใช้เพียงดูท่าเรือ หวังผลระยะไม่เกิน 8 เมตร และกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ที่ทีมข่าวนำมาให้ดูนั้นเป็นกล้องรุ่นเก่า หากเป็นกล้องดิจิทัลจะชัด และเห็นรายละเอียดมากกว่านี้ การดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นน่านน้ำสามารถแปลงวัตถุที่เห็นได้ยากกว่าอยู่บนบก และเป็นช่วงกลางคืนจึงทำให้ดูยากมากขึ้นไปอีก