จากกรณีวันที่ 27 ม.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในสวนสมเด็จย่า ใกล้กับห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นชายต่างด้าว ถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย ส่วนอีกรายถูกแทงที่ด้านหลัง โดยเพื่อนที่มาด้วยกันช่วยปฐมพยาบาล รวมถึงคนไทยที่เห็นเหตุการณ์ช่วยประสานโทรแจ้งรถพยาบาลจากโรงพยาบาลมารับตัวผู้บาดเจ็บ
วันที่ 28 ม.ค. 62 ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ ภายในสวนสาธารณะสวนสมเด็จย่า ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว โดย
นายมานิตย์ นุชนงน้อย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 16.00 - 17.00 น. ตนเห็นกลุ่มชาวเมียนมาผู้บาดเจ็บประมาณ 5 - 6 คน วิ่งแตกฮือกันมา
โดยสภาพบาดแผลของผู้บาดเจ็บ พบว่าถูกแทงบริเวณซี่โครงใต้ราวนมฝั่งซ้าย และศีรษะแตก คาดว่าถูกตีหัวมาด้วย โดยผู้บาดเจ็บร้องด้วยความเจ็บปวดและทั้งหมดพยายามวิ่งหนีไปที่ป้ายรถเมล์ซึ่งตนกำลังนั่งอยู่ แต่คนเจ็บล้มลงกับพื้น ผู้เห็นเหตุการณ์จึงโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้มาช่วยเหลือ
จากการสอบถาม เพื่อนของคนเจ็บบอกว่า ไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน เพียงแค่เดินลงมาจากสะพานลอย ก็ถูกผู้ก่อเหตุใช้มีดแทงทันที โดยคู่กรณีเดินมาจากอีกฝั่งของถนน นอกจากนี้ยังพบว่า เพื่อนในกลุ่มอีกคนก็ถูกแทงที่ด้านหลังเช่นกัน แต่อาการไม่สาหัส
ทั้งนี้ กลุ่มคนเจ็บยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนที่แทงมาก่อน ไม่ได้รู้จักกัน และไม่ไดัมีปัญหากันซึ่งหน้า เนื่องจากกลุ่มผู้บาดเจ็บเพียงมาเที่ยวในวันหยุดเท่านั้น
นายมานิตย์ กล่าวต่อว่า สวนสาธารณะแห่งนี้มักมีเหตุชาวเมียนมาแทงกันบ่อยครั้ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงต้องใช้สถานที่แห่งนี้มีเพื่อมีเรื่องกัน แต่คาดว่าเพราะจุดนี้เป็นจุดรวมตัวชาวเมียนมาในวันหยุด โดยก่อนหน้านี้ก็มีเหตุกลุ่มเมียนมาตีกัน เมื่อตีกันเสร็จก็วิ่งหนีขึ้นสะพานลอยไป ตนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง แต่ก็รู้สึกสงสารผู้บาดเจ็บ และหากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ชาวบ้านและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในละแวกต้องวิ่งหนี เพราะเกรงว่าจะถูกลูกหลง
ดังนั้นหากเป็นไปได้ ตนต้องการให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้ เพราะแม้ว่าจะมีไฟส่องสว่างเพียงพอ แต่กลับไม่มีกล้องวงจรปิด รวมถึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการกวดขันให้มากขึ้น
ด้าน
ร.ต.อ.ธีฬะเกียรติ ฑีฆะบุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สน.พหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ผู้บาดเจ็บ เป็นคนสัญชาติเมียนมา ถูกแทงที่ราวนมฝั่งซ้าย ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยได้สอบปากคำเบื้องต้นกับเพื่อนของคนบาดเจ็บ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับคนก่อเหตุมาก่อน และคนก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาเหมือนกัน
ทั้งนี้ จุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่มักได้รับแจ้งเหตุแทงกันบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาแทงกันเอง ซึ่งไม่ทราบสาเหตุการทำร้ายกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตนจะให้สายสืบไปติดตามดูกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อตามหาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายต่อไป