กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "survive - สายไหมต้องรอด" โพสต์ข้อความว่า "เมื่อเวลา 22.00 น. พ่อ - แม่ พาลูกสาววัย 14 ปี ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ มาร้องขอความช่วยเหลือจาก พี่เอกภพ หลังลูกสาวถูกพ่อของเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนเมายาบ้าบังคับข่มขืนกระทำชำเรา เกิดเหตุภายในบ้านเช่า ซ.พหลโยธิน 52 (แยก 42) เขตสายไหม
ต่อมาผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนออกมาข่มขู่ ด.ญ.ผู้เสียหายและครอบครัว และกลุ่มเพื่อนที่ทราบเรื่องไม่ให้ไปเล่าเรื่องดังกล่าวให้ใครฟัง และห้ามแจ้งความหากไม่เชื่อจะยิงให้ตาย พ่อ-แม่ ด.ญ.ผู้เสียหาย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน หากไปแจ้งความกลัวจะเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือดังกล่าว ภายหลังรับแจ้ง วันพฤหัสบดีที่ 17 มี.ค.65 เวลา 15.00 น. พี่เอกภพ เตรียมประสาน สน.บางเขน พา ด.ญ.ผู้เสียหาย พร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน แล้วค่ะ #สายไหมต้องรอด❤️ #เคียงข้างคุณ"
กระทั่งวันที่ 18 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สน.บางเขน โดยทีมงานสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และได้พูดคุยกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยส.ส.เขตสายไหม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 65 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. โดยในวันดังกล่าว เด็กหญิงผู้เสียหาย ถูกชักชวนให้ไปกินข้าวจากเพื่อนชาย โดยให้ไปกินข้าวที่บ้าน ซึ่งพ่อของเพื่อนชายคนนี้เป็นผู้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพกล้องวงจรปิดจุดใกล้บ้านผู้เสียหาย ในวันที่ 15 มีนาคม 65 ปรากฏภาพเหตุการณ์ระหว่างที่ผู้เสียหายถูกผู้ก่อเหตุข่มขู่ เป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ผู้ก่อเหตุกำลังนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ ก่อนจะคว้าอาวุธบางอย่างออกมาซึ่งคลายกับปืน ตามที่ผู้เสียหายให้ปากคำไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางเขน เปิดเผยว่า เบื้องต้นพอที่จะทราบแล้วว่าผู้ต้องหาเป็นใครอยู่ที่ไหน จึงได้สั่งการให้ชุดสอบสวนประสานจับกุมตัวมาดำเนินคดี หากไม่ได้รับการตอบรับ ก็จะออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากระทำชำเรา ซึ่งในคดีดังกล่าวมีโทษเกิน 3 ปี สามารถออกหมายจับได้เลย ส่วนพยานหลักฐานที่มีการพูดไม่ตรงกัน พนักงานสอบสวนจะรวบรวมและนำมาพิจารณาอีกครั้ง และยังรอผลการตรวจร่างกายที่ รพ.ภูมิพล มีเพียงผลตรวจเบื้องต้นที่ผู้เสียหายนำมาให้ตำรวจ ซึ่งพบว่ามีการถูกล่วงละเมิดจริง แต่ ไม่พบสารคัดหลั่ง ทั้งนี้ต้องดูการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และยืนยันว่าสามารถตรวจย้อนหลังได้
เวลา 18.00 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน นำตัวผู้ก่อเหตุ อายุ 42 ปี ที่ลงมือข่มขืน ด.ญ.อายุ 14 ปี มาที่สน.บางเขน เพื่อทำการตรวจสารเสพติด เบื้องต้นพบสารเมทแอมเฟตามีน และผู้ต้องหายอมรับว่ามีการเสพยาบ้าจริง แต่จะฟ้องกลับคนที่ทำให้เสียชื่อเสียง
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นางสาวใบบัว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พี่สาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุน้องสาวบอกกับคนที่บ้านเพียงว่า ขอไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน เนื่องในโอกาสใกล้จะปิดเทอม โดยที่ครอบครัวก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้น้องสาวไม่เคยขอไปกินเลี้ยงบ้านเพื่อนมาก่อน กระทั่งกลับมาบ้านช่วงเช้ารู้ว่าน้องสาวถูกข่มขืนก็เข้าไปแจ้งความที่โรงพัก
ที่ผ่านมาครอบครัวไม่เคยทราบเรื่องการคบหาเพื่อน หรือแฟนมาก่อน และไม่เคยรู้จักผู้ก่อเหตุมาก่อน ไม่ทราบว่ามีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่ ส่วนสภาพจิตใจน้องสาวค่อนข้างย่ำแย่ และร้องไห้บ่อยครั้ง ปกติน้องสาวเป็นคนเงียบ ๆ เรียบร้อย ไม่ค่อยพูดหรือปรึกษาปัญหากับคนในครอบครัว ตนไม่ต้องการความรับผิดชอบใด ๆ จากผู้ก่อเหตุ และไม่ให้อภัยเด็ดขาด แต่ต้องการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด ส่วนตัวยอมรับว่าขณะนี้ก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของคนในครอบครัว หากเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาที่สน.บางเขน ก็พร้อมพูดคุยและเผชิญหน้า
