สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่พูดถึงกันค่อนข้างมากในโลกออนไลน์ หลังจากแฟนเพจ "survive - สายไหมต้องรอด" ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถจับภาพภายในลานจอดรถของตลาดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ของเขตสายไหม พบว่ารถยนต์คันหนึ่งขับพุ่งชนรถจักรยนต์จนล้ม ทำให้คนขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาด ต้องกระโดดลงจากรถ ก่อนรถยนต์คันดังกล่าวจะรีบขับหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เวลา 01.00 น. ของวันที่ 20 มีนาคม 65 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เบื้องต้นสืบทราบว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นจากชายหญิงคู่หนึ่งคล้ายกับมีกิจกรรมบางอย่างในรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในพื้นที่ของตลาดเขตสายไหม เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปพบเห็น จึงขอความร่วมมือและเชิญให้ออกจากพื้นที่ ทำให้เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวรู้สึกโมโห ก่อนจะขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและหลบหนีไป
ล่าสุดวันที่ 21 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังตลาดดังกล่าวซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พบว่าตลาดค่อนข้างใหญ่และกว้าง มุมที่เกิดเหตุนั้น จะเป็นในส่วนของท้ายตลาด ตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้
นายวุฒิ เตชะมา อายุ 50 ปี หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาด เล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากลูกน้องว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ตลาดนัดปิดแล้ว มีรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งขับรถย้อนศรสวนเลนรถขาออกเข้ามายังบริเวณที่จอดรถของตลาดและขับไปจอดด้านหลัง ซึ่งเมื่อรปภ.จุดดังกล่าวเห็นก็เลยตัดสินใจเดินไปที่รถ เพื่อขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นไปตามกฎของตลาด แต่เมื่อรปภ.คนดังกล่าว เดินไปส่องไฟฉายพบว่ามีชายวัยกลางคน และหญิงสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่ท่าทางค่อนข้างผิดปกติ แม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่ได้มีกิจกรรมอะไรกัน
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็เคยมีเรื่องของคู่รักชายหญิง มักแอบมีกิจกรรมอะไรบางอย่างในบริเวณดังกล่าว ทำให้ขณะนั้น รปภ.คนดังกล่าว ตัดสินใจเชิญให้ออกไปจากตลาดด้วยถ้อยคำที่สุภาพ ชายคนดังกล่าวก็ถามกลับว่าทำไม ก่อนที่จะขับรถออกไป แต่ปรากฏว่าเขาขับไปอีกจุดหนึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร โดยที่ไม่ได้ขับออกไป รปภ.เห็นท่าไม่ดี เลยตัดสินใจไปบอก รปภ.อีกคนหนึ่งให้ไปช่วยคุย ก่อนที่ รปภ.อีกคนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปเตือน
"พอรปภ.อีกคนขี่รถจักรยานยนต์ไปถึง เขาก็ยังไม่ทันได้ลงจากรถเลย รถเก๋งก็ขับพุ่งมาชนทันที ทำให้รถเก๋งทับรถของรปภ. จากนั้นคนก่อเหตุก็ได้ขับรถหนีไปด้วยความเร็ว หนีออกไปทางด้านหลัง แต่ออกไม่ได้เลยตัดสินใจขับออกทางเดิมครับ" นายวุฒิ กล่าวให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ปกติเเล้วลานจอดดังกล่าวจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 22.000 น. ของทุกวัน แต่จะมีรถของคนที่เช่าตึกข้าง ๆ ตลาดสามารถขับเข้ามาจอดได้ ซึ่งตามปกติถ้าจอดและดับเครื่องเสร็จ เขาจะต้องลงจากรถทันที แต่เคสนี้ตนมองว่าไม่ปกติ แถมยังมีผู้หญิงมาด้วย ประกอบกับในอดีตตอนที่ตนเข้าเวรก็เคยมีคู่รักหญิงชายขับรถมาทำกิจกรรมบางอย่างในรถ ตนเดินเข้าไปเห็นเขาถอดเสื้อผ้า สวมแต่กางเกงใน แต่เคสนั้นเมื่อตนเชิญให้ออกนอกพื้นที่ก็ยอมขับรถออกทันที
ต่อมาเวลา 16.20 น. นายธนากร ไมล์ขุนทด อายุ 31 ปี รปภ.ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เดินทางไปพร้อมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ไปที่สน.สายไหม เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน ตลอดจนมีการนัดกับคู่กรณี ซึ่งเป็นหญิงสาวอ้างว่าเป็นเจ้าของรถคันที่ก่อเหตุ แต่ให้เพื่อนยืมรถ และตั้งใจจะมาไกล่เกลี่ยแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายธนากร เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. มีรถเก๋งสีขาวขับเข้ามาในลานจอด ซึ่งตอนนั้นตนก็อยู่เวรพอดี ตนจึงมองว่าค่อนข้างผิดปกติ เนื่องจากก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมักจะมีคู่รักชายหญิงขับรถเข้ามาจอดในจุดดังกล่าวบ่อยครั้ง จึงแจ้งให้น้องรปภ.อีกคนเข้าไปสอบถามว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ หลังจากที่เข้าไปพบว่าชายหญิงคู่ดังกล่าวดับเครื่องยนต์อยู่ภายในรถเปิดแอร์นอน ไม่ทราบว่าจะทำอะไรกันหรือไม่ เนื่องจากฟิล์มติดกระจกค่อนข้างมืด
"พอน้อง รปภ.สอบถามก็โดนผู้ชายอารมณ์เสียใส่ และตะคอกใส่ แล้วเขาก็ขับรถย้ายที่จอดไปอีกจุดหนึ่งมุมมืด ๆ ข้างตลาดห่างจากจุดแรกไม่ไกล 100 เมตร จากนั้นเวลาผ่านไปกว่า 10 นาที ทางน้องรปภ.ได้มาแจ้งผมเลยตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ แต่คนในรถกลับวนรถพุ่งชนจักรยานยนต์ของผมแบบในคลิป ส่วนความเสียหายของรถจักรยานยนต์ ยังไม่สามารถตีมูลค่าความเสียหายได้ตอนนี้ คงต้องรอช่างตรวจสอบก่อนครับ" นายธนากร กล่าว
นายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าของตลาดได้ประสานมาขอความช่วยเหลือ ตนจึงรับเป็นตัวแทนลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานข้อมูลจนทราบชื่อเจ้าของรถ ทั้งนี้ เมื่อเป็นข่าวออกไป เจ้าของรถคันดังกล่าวซึ่งเป็นผู้หญิงได้ติดต่อเข้ามาที่พนักงานสอบสวนของ สน.สายไหม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องในวันที่เกิดเหตุมีเพื่อนผู้ชายยืมรถไป ขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม จากคำกล่าวอ้างดังกล่าว ตนก็คงต้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และอาจจะต้องรอพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น รปภ.ดังกล่าว เตรียมจะแจ้งความเอาผิดในข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนเจ้าของตลาดก็จะแจ้งข้อหาความผิดฐานบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล รวมถึงข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ แต่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเข้าข่ายหรือไม่