กรณีแฟนเพจ "กองสลากพลัส" เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ขณะเดินเข้าไปในสำนักงานดังกล่าว โดยเขียนข้อความระบุว่า นายสันธนะ ได้เข้าไปภายในโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทั่งนายสันธนะ อ้างว่าเมื่อภาพถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับกองสลากพลัสต่อไป
ล่าสุดวันที่ 4 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนมา 2 ปีที่แล้ว ตั้งแต่มีการเปิดธุรกิจใช้ชื่อว่ากองสลากดอทคอม ว่ามีการนำเงินที่ไม่ถูกกฎหมายมาดำเนินธุรกิจ จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบกับนายนอท ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงได้มีการพูดคุยกัน ตนก็ให้โอกาสเห็นว่าเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำธุรกิจ ต่อมาตนก็เข้าไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง เพราะทราบว่ามีการขยายกิจการ และมีการสอบถามถึงกลุ่มทุน เพราะธุรกิจระดับนี้ต้องใช้เงินทุนหลักหลายร้อนล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าไปในแต่ละครั้งมีการแจ้งให้ทราบ คนของตนเข้าไปดูก่อน เจอพนักงานก็แจ้งว่าตนต้องการพบเจ้าของ พนักงานก็บอกให้รอ โดยวัตถุประสงค์ที่เข้าไปครั้งสุดท้าย เพราะตนทราบจากข่าวที่มีการเข้าไปตรวจค้นว่า มีสลากในครอบครอง 4.4 ล้านฉบับ และเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท ตนมองว่าเป็นเรื่องแปลกจึงต้องเข้าไปตรวจสอบ และตนขอยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือเข้าไปปล้น เพราะด้านในสำนักงานกล้องมีวงจรปิดจำนวนมาก หากแน่จริงก็ควรเปิดคลิปเสียงตัวเต็มออกมาว่าตนคุยอะไรบ้าง
นอกจากนี้ เรื่องที่ตนเปิดชื่อพ่อแม่อีกฝ่าย ก็เป็นการตรวจสอบ แค่ถามว่าชื่อพ่อแม่อะไร ตรงตามที่ตนได้ข้อมูลมาหรือไม่ ไม่ได้ก้าวร้าว เพียงแค่สอบถามเท่านั้น กรณีที่มีชายแปลกหน้าบุกไปที่บ้าน หลังตนเข้าไปที่บริษัทยอมรับว่าตนต้องส่งคนไปตรวจสอบ บ้านของนายนอท เป็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ตนมองว่าแปลกมากที่มีเงินหมุนเวียนทำธุรกิจจำนวนมากเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปรีดรับเงินทอง เพราะตนก็เป็นคนที่สังคมรู้จัก เคยมีเหตุการณ์ถูกกล่าวหาในลักษณะดังกล่าวมาก่อนแล้ว จึงจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน แต่ตนมั่นใจว่ามีการทำผิดกฎหมายบางประการจึงต้องตรวจสอบการทำธุรกิจเงินทุนต้องมีที่มา ถ้าเงินเป็นช่องทางปกติ ไม่ต้องเอาเงินมาเป็นมัด ๆ โชว์ให้คนอื่นดู เหมือนที่อีกฝ่ายทำ ซึ่งตนคิดว่าตนมีสิทธิ์ตรวจสอบได้ เพราะสถานที่ที่เข้าไปเป็นสถานที่เปิด ใครก็สามารถเข้าไปได้ เมื่อเป็นคดีแล้วต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่าฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างที่ทำไม่ได้เป็นประโยชน์กับตน แต่เป็นประโยชน์กับสังคม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายพันธ์ธวัช นาควุสิทธิ์ หรือ นอท เจ้าของกองสลากพลัส กล่าวว่า กรณีนายสันธนะ ที่บุกมาถึงกองสลากพลัส ตนได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ขณะนี้ปล่อยให้เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะมีความผิดอะไรนั้น จะต้องดูข้อกฎหมายอีกครั้ง ตนยืนยันไม่มีการยอมความ และตนไม่รู้จักกับอีกฝ่าย ไม่ได้นัดหมายกันมาก่อนอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าอีกฝ่ายเคยเข้ามาที่บริษัท ทั้งที่ไม่ได้มีธุรกิจด้วยกัน ส่วนจะมีการพูดเรื่องเงินหรือไม่ ตนไม่ขอตอบเพราะไม่มีหลักฐาน
"นายสันธนะ ทำแบบนี้กับคนอื่นได้ แต่ทำกับผมไม่ได้ ก่อนหน้านี้นายสันธนะ เคยเข้ามาพร้อมเปิดเอกสารถามชื่อพ่อแม่ของผม และผมก็ไม่ได้กลัว เพราะพ่อแม่ผมเสียชีวิตไปหมดแล้ว ผมเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรจึงไม่กลัวใคร โดยเฉพาะคนไม่ดีนะครับ" เจ้าของกองสลากพลัส กล่าวยืนยัน
