แม่ช้ำใจ ลูกสาว 12 ถูกลวงอนาจารในตึกร้าง สงสัยคนสนิท - พยานเห็นคาตาเดินจูงเด็ก

จากกรณีแม่เด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ว่า ลูกสาวถูกชายอายุประมาณ 40 ปี ข่มขืนกระทำชำเราในตึกร้าง ย่านรามคำแหง เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.พ. 62)

วันที่ 14 ก.พ. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณ ตึกร้างในซอยรามคำแหง พบว่า ตึกนี้เคยเปิดเป็นฟิตเนสและสปา ความสูง 2 ชั้น มีรั้วกระเบื้องกั้นโดยรอบ บริเวณชั้น 1 มีร่องรอยการพักอาศัย โดยมีห้อง ข้างในมีเตียงและเครื่องนอน ด้านนอกพบเสื้อผ้าเก่า และขยะจำนวนมาก ส่วนชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ มีห้องเล็ก ๆ เกือบ 10 ห้อง และมีลานโล่งพื้นเป็นไม้ที่ผุพังแล้ว

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า อาคารร้างแห่งนี้ เคยมีคนเร่ร่อนเป็นวัยรุ่นตอนปลาย มามั่วสุมเป็นประจำ แต่ระยะหลังตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าไม่มีคนเข้าออก คาดว่า เจ้าหน้าที่น่าจะเข้ามาจัดการ แต่จุดนี้ไม่เคยมีเหตุข่มขืน แต่มีเรื่องทะเลาะวิวาทของผู้ที่มาแอบอาศัยเป็นประจำ และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนเฝ้ายามทั้งคืน ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ หรือเห็นชายอายุ 40 ปี นำเด็กสาวเข้ามาในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ช่วงก่อน 23.00 น. พื้นที่นี้ยังพลุกพล่าน มีคนเดินเข้าออก แต่หลังจากนั้นจะเริ่มเงียบ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเหตุและมีเสียงร้อง ตนน่าจะได้ยินเสียง

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังตึกร้างสูง 7 ชั้น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมาดูพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยพบว่าตึกดังกล่าว มีผู้ที่เข้าอาศัยโดยการจับจองเกือบทุกชั้น

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามตนว่าได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องหรือไม่ ซึ่งตนตอบกลับไปว่าไม่ได้ยิน จนช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่นำรูปชายต้องสงสัยมาสอบถามตน ตนจึงจำได้ว่าชายต้องสงสัยรายนี้ เป็นผู้ที่เข้ามาในตึกร้าง 7 ชั้นเป็นประจำทุกวัน ล่าสุดวานนี้ตนยังเห็นเจ้าตัวช่วงเย็น จนช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ยังเห็น แต่ไม่ทราบว่าไปก่อเหตุข่มขืนเด็กหรือไม่ ทั้งนี้ตนคิดว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะติดยา และมามั่วสุมเสพยาเป็นประจำ

พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก. สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้าย ซึ่งเป็นคนรู้จักของพ่อแม่เด็กหญิงวัย 12 ขวบ พร้อมประสานงาน พฐ. เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อขอศาลออกหมายจับคนร้าย สำหรับผู้ก่อเหตุรู้จักกับทางครอบครัวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ มีหน้าที่ไปรับ-ไปส่ง ผู้เสียหายที่โรงเรียนเป็นประจำ จนแม่ของผู้เสียหายไว้ใจ ก่อนจะหายไปนานกว่า 1 เดือน และกลับมาที่บ้านเด็กวันเกิดเหตุ ขณะที่เด็กอยู่บ้านคนเดียว ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ชื่อนามสกุลของผู้ก่อเหตุแล้ว แม่ผู้เสียหายก็ยืนยันว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะเดียวกัน พบพยานที่ระบุว่า วันเกิดเหตุ เห็นคนร้ายมาที่บ้านร้าง จูงมือเด็กเดินมาหาตัวเอง และชักชวนตัวเองไปกินข้าว แต่ปฎิเสธ ก่อนแม่ของเด็กจะโทรมาหาตัวเอง กระทั่งทราบเรื่อง