กรณีพ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์รพ.เชียงดาว เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมภายในบ้านเช่า ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ภายในห้องเบอร์ 2 พบศพ นางป้าเล็ด (ไม่มีนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวไทใหญ่ นอนเสียชีวิตอยู่สภาพศพถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด บาดแผลจำนวนหลายแห่งบนร่างกาย ส่งศพไปชันสูตรอีกครั้งที่ภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ตำรวจสอบสวนพยานแวดล้อมทราบตัวคนก่อเหตุ คือ สามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ล่าสุดวันที่ 15 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นห้องเช่า ตั้งอยู่โซนหลังบ้านของเจ้าของห้องเช่าอีกที ทีมข่าวพบว่าบริเวณปากทางเข้ากว้างเพียง 1.5 เมตร มีประตูสังกะสีเปิด-ปิด เขียนป้ายชัดเจนว่าบุคคลภายนอกห้ามเข้า และเข้าออกได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. ขณะเดียวกันพบมีวงจรปิดตั้งแต่ปากทางเข้า แต่เจ้าของกล้องวงจรปิด แจ้งว่าไม่มีไฟล์บันทึกเหตุการณ์ย้อนหลัง ดูได้แต่เหตุการณ์เรียลไทม์เท่านั้น
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางเข้าไปยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ พบห้องเช่ามีทั้งหมด 6 ห้อง บริเวณหน้าห้องของคนตาย พบว่ามีข้าวของเครื่องใช้บางส่วนถูกรื้อออกมาไว้หน้าห้อง พร้อมกับมีกระถางปักธูปวางอยู่จำนวนมาก คาดว่าจุดเพื่อใช้ในการดับกลิ่น เพราะกลิ่นบริเวณหน้าห้องค่อนข้างเหม็นคาวเลือด จากการสังเกตภายในห้องมีเตียงนอน และมีกำแพงกั้นระหว่างเตียงกับห้องน้ำ เชื่อว่าเป็นจุดที่คนตายถูกฆ่า เพราะมีคราบเลือดอยู่ที่พื้นจำนวนมาก
นางเอี่ยน อายุ 60 ปี ชาวไทยใหญ่ เล่าให้ฟังว่า ในคืนระหว่างวันที่ 11 กับวันที่ 12 เมษายน 65 ทั้งคู่นั่งสังสรรค์กินเหล้าเสียงดังในห้อง ก่อนตนจะได้ยินทั้งคู่มีปากเสียงกัน โดยที่ฝ่ายชายซึ่งพวกตนเรียกกันว่า นายปึ้ง อายุ 25 ปี ชาวปะโอ ออกมานอกห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และมานั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนห้องเช่าเบอร์ 4 เบอร์ 5 จากนั้นก็ขอนั่งดื่มด้วยกัน แต่ไม่นานประมาณ 5-10 นาที นายปึ้ง กลับเข้าห้องไปมีปัญหากับเมียอีกรอบ ซึ่งตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องแต่ไม่ได้มาก จึงไม่สนใจอะไร
แต่หลังจากนั้นได้ยินเสียงนายเอ (นามสมมติ) ผู้เช่าห้อง ตะโกนห้ามว่าอย่าไปทำเมีย ให้ออกมาคุยกันข้างนอก ซึ่งก็มีเสียงนายปึ้ง ตะโกนว่าเรื่องผัวเมียอย่ายุ่ง ก่อนที่นายเอ จะเดินไปหน้าห้อง เรียกให้นายปึ้งออกมา ทันทีที่นายปึ้ง วิ่งออกมาคว้ารถจักรยานยนต์ ของนางป้าเล็ด นายเอจึงคว้าคอเสื้อนายปึ้ง ก่อนจะถามว่าจะไปไหน นายปึ้ง บอกว่าไปซื้อเหล้า นายเอ ก็เลยควักเงินสมทบให้ 60 บาท ตนก็กลับเข้าห้องไปนอนไม่ได้สนใจอะไร ขณะที่เพื่อนห้องเช่าคนอื่นก็สังสรรค์กันข้ามวันข้ามคืน
กระทั่งเช้าวันที่ 13 เมษายน 65 ตนเห็นห้องล็อกปกติ คิดว่าทั้งคู่กลับบ้านที่เชียงใหม่ จึงไม่ได้สนใจ แต่เช้าเมื่อวาน (16 เมษายน 65) ตนตื่นมาตอน 07.00 น. เปิดห้องมาเริ่มได้กลิ่น และไม่เห็นทั้งคู่กลับมา จึงเริ่มสงสัย ก่อนไปเรียกเจ้าของห้องมาดู เมื่อเปิดห้องก็เห็นว่านางป้าเล็ดตายแล้ว และเชื่อว่าต้องเป็นผัวนางป้าเล็ด เป็นคนลงมืออย่างแน่นอน
ทีมข่าวทราบว่านางป้าเล็ด ผู้เสียชีวิต ทำงานอยู่ร้านข้าวขาหมูไม่ไกลจากห้องเช่า จึงเดินทางไปยังร้านที่ทำงาน พบนางบรภรรณ โข่จันทึก อายุ 63 ปี นายจ้าง เปิดเผยว่า นางป้าเล็ด เป็นคนขยันมากและสะอาด จากการสังเกตหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คือ ล้างจาน ก็จะตั้งใจทำและทำอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งตนจะให้ค่าแรงเป็นรายวัน ๆ ละ 350 บาท และทราบว่านางป้าเล็ด เป็นคนไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เก็บเงิน และมีทองใส่
ส่วนที่นางป้าเล็ด มาทำงานที่ร้านตนได้ เพราะนายปึ้ง แฟนหนุ่มอายุน้อยเป็นคนพามาสมัครงานที่ร้านด้วยตัวเอง ตอนนั้นเห็นทั้งคู่ดูรักกันดีมาก ระหว่างนางป้าเล็ด ทำงานก็มักเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ให้ฟังว่า คบหากับเด็กหนุ่มรายนี้อยู่ โดยเจอกันผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าตัวแก่แล้วก็เหงา ต่างคนต่างเหงาก็มาเจอกัน ร่วมถึงนางป้าเล็ด ก็เป็นคนมีเงิน มีทองใส่ ลูก ๆ โตหมดแล้ว ชีวิตไม่ได้ลำบาก จึงไม่ชัดว่าการที่เด็กหนุ่มมาคบหาด้วย เป็นเพราะฝ่ายหญิงมาเงินหรือไม่
แต่พักหลัง ๆ นางป้าเล็ด ก็มาระบายทุกข์ให้เด็กที่ร้านฟังว่ากลัวแฟนหนุ่ม เพราะมีนิสัยขี้หึง อารมณ์ร้าย และยังมีพฤติกรรมหลอนยา คาดว่าเป็นยาเสพติด ซึ่งชอบเห็นภาพหลอน และถือมีดไล่ทำร้ายแมว พร้อมวางแผนว่าจะหนีแฟนหนุ่ม โดยมอมเหล้าแฟนหนุ่มให้เมาก่อนขนของหนี แต่เรื่องนี้ก็ผ่านไปกว่า 1 เดือนแล้วก็ยังเห็นนางป้าเล็ด คบหากับเด็กหนุ่มรายนี้อยู่ จึงคิดว่าทั้งคู่คงคืนดีกัน เพราะเห็นมารับมาส่งที่ร้านทุกวัน
กระทั่งวันที่ 13 เมษายน 65 วันสงกรานต์นางป้าเล็ด ไม่มาทำงาน ตนจึงให้ลูกน้องไปตาม แต่ลูกน้องบอกว่าหน้าห้องล็อก เพื่อนข้างห้องแจ้งว่าทั้งคู่ไปทำงานแล้ว แค่ตนคิดว่านางป้าเล็ด หนีไปเที่ยวสงกรานต์ ไม่คิดเลยว่าถูกฆ่าเสียชีวิตคาห้องแบบนี้ วันที่ทราบข่าวทำอะไรไม่ถูก เสียใจ เสียดาย ที่สูญเสียลูกน้องที่ทำงานดีไป 1 คน สำหรับตนมองเรื่องการคบหาเจอกันผ่านทางออนไลน์ค่อนข้างอันตรายมาก เพราะไม่รู้จักที่มาที่ไปกันและกัน จู่ ๆ มาอยู่ด้วยกันเลย ซึ่งถือว่ามีเวลาศึกษานิสัยใจคอกันน้อยมาก
นอกจากนี้ ทีมข่าวพบแอคเคาท์ TikTok ของผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่ชอบโพสต์รูปคู่กับแฟนเด็ก ซึ่งดูสนิทสนมรักกันดี ขณะเดียวกันยังพบว่าผู้เสียชีวิตมีเครื่องประดับทองทั้งสร้อยคอและแหวนทองใส่เต็มตัว ซึ่งข้อมูลตรงกับนายจ้าง จึงไม่ชัดว่าเรื่องทรัพย์จะเกี่ยวข้องกับการถูกฆาตกรรมด้วยหรือไม่
ทีมข่าวติดต่อไปยังภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นแพทย์ยังอยู่ระหว่างขันสูตรศพ โดยประสานผ่านทางกู้ภัยให้แจ้งญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีการทางศาสนาในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.65) ขณะที่ ร.ต.ท.กฤต กิจวัฒนะโภคิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงดาว ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด ก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับ โดยที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี