ทนายตั้มบุกภูเก็ตแฉรร.ดังเปิดผับยันเช้า ชาวบ้านโอดร้องตำรวจเจอขู่ ซัดผู้การฯ รับผิดชอบ (คลิป)

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 65 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "ผมได้รับการร้องเรียนจากชาวภูเก็ต ว่าได้รับความเดือดร้อน จากโรงแรม…มีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา มั่วสุม เสียงดัง ก่อความรำคาญและมีสิ่งผิดกฎหมาย มาเป็นปี ๆ แล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่ก็นิ่งเฉย ผมจึงขอมาดูด้วยตาตัวเอง ปรากฏว่าสถานบันเทิงนี้เปิดยันเช้าจริง และคนเยอะขนาดนี้หากเกิดคลัสเตอร์ใหม่อีกจะทำยังไง

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทำไมปล่อยปละละเลยให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกต่างหาก และเท่าที่ทราบสถานบันเทิงแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตอีกด้วย ผมคิดว่าสถานบันเทิงในโรงแรมที่สามารถเปิดเกินเวลามาเป็นปี ๆ มีนักท่องเที่ยววันละเป็นพันคน ไม่มีทางที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ และน่าจะมีการจ่ายสินบนมหาศาล

ขอให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยตรวจสอบว่าทำไมถึงมีการปล่อยปละละเลยขนาดนี้ มีการทุจริตรับสินบนกันหรือไม่ ในเมื่อนโยบายของท่านคือเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และหากมีเนื้อร้ายก็บอกว่าจะตัดทิ้ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตบกพร่องชัดเจนขนาดนี้ หวังว่าท่านจะทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างนะครับ"

ล่าสุดทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หลายรายว่า รร.ดังกล่าว มีการเปิดเป็นสถานบริการให้ความบันเทิง เปิดเพลงเสียงดัง มีคนเข้าไปใช้บริการเยอะมาก และยังเปิดได้ยันสว่าง ตอนแรกตนก็ยังไม่เชื่อ แต่วันนี้มีโอกาสได้เข้ามาพักผ่อนที่ภูเก็ตจึงลองเข้าไปดู และพบว่าคนแน่นจริง ๆ ไม่มีการบริหารจัดการเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และยังสังเกตเห็นว่ามีการสูบบารากู่ ซึ่งผิดกฎหมาย ตนก็ลองสั่งบารากู่มาที่โต๊ะ ปรากฏว่ามีการนำมาเสิร์ฟให้จริง ทั้งที่พนักงานและเจ้าของโรงแรมก็รู้จักตนด้วยการเดินมาทักทาย ในวันนั้นตนเข้าไปช่วงเวลา 02.00 น. กลับช่วงเวลา 04.00 น. ซึ่งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะปิดให้บริการ 

"เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้บังคับการจังหวัด ที่ปล่อยให้มีการเปิดสถานบริการเกินเวลา มีการขายของผิดกฎหมายอย่างบารากู่ นอกจากนี้ ยังมีผู้ร้องเรียนว่ามีการขายบริการด้วย ซึ่งหากสามารถถ่ายคลิปมาได้ ก็จะนำมาเผยแพร่ต่อไป ที่ผ่านมามีชาวบ้านไปแจ้งตำรวจแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังมีนักเลงมาพูดข่มขู่อีก จึงมาขอให้ผมช่วย เพราะเชื่อว่าพึ่งพาเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ผมยืนยันว่าไม่กลัว เพราะถ้ากลัวคงไม่มาถึงที่ภูเก็ต" ทนายตั้ม กล่าว