กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายกัน และมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในตลาดรัศมี หมู่ที่ 6 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและสายตรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็นชายทราบชื่อต่อมา นายสมคิด เกตุแก้ว อายุ 50 ปี นอนจมกองเลือดหายใจโรยรินรอความช่วยเหลือ เพราะมีบาดแผลจากการถูกยิงที่ใต้กกหูซ้าย ช่วงลำคอ จำนวน 2 นัด ใต้รักแร้และตามร่างกายอีกหลายแห่งอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย
นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากหกล้มขณะวิ่งหนีกระสุนของคนร้ายรายนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด .45 ตกกระจายเกลื่อนพื้นจำนวน 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่แล้วรวบรวมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และยังพบรถจักรยานยนต์ที่มาจอดใกล้ที่เกิดเหตุถูกยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกันเข้าที่เครื่องยนต์จนได้รับความเสียหายด้วย
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อไปจับกุมตัวนายศุภวิทย์ สายธนู อายุ 35 ปี หรือฉายา ต้นรั่ว ขาใหญ่ในพื้นที่ ในข้อหาพยามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งไล่ล่าตัว
ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุที่บริเวณตลาดรัศมี หมู่ที่ 6 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พบว่าจุดที่คนเจ็บและกลุ่มเพื่อนนั่งดื่มสังสรรค์ เป็นบริเวณโต๊ะฝั่งตลาด และจุดที่คนเจ็บวิ่งไปล้มหลังถูกยิง คือ บริเวณลานปูนฝั่งตรงข้ามตลาด และพบร่องรอยคราบเลือดของผู้ขาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณลานปูน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสุพจน์ จวบนก อายุ 42 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ และเป็นผู้ที่นั่งอยู่ข้างกลุ่มของผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.65) เวลาประมาณ 23.00 ตนนั่งดื่มเบียร์ในตลาดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กับโต๊ะคนเจ็บ ตอนนั้นนายสมคิด หรือ จ๊าบ หัวป่า ผู้บาดเจ็บ ได้นั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 6-7 คน จากนั้นนายศุภวิทย์ ผู้ก่อเหตุ ได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่ถนนหน้าตลาด แล้วเขาก็เดินเข้าไปหานายสมคิด พร้อมกับเรียกชื่อเล่นนายสมคิดว่า "ไอ้จ๊าบ ๆ" จากนั้นก็เห็นทั้ง 2 คนมีปากเสียงกัน ก่อนนายศุภวิทย์จะก่อเหตุยิงนายสมคิดหลายนัด และนายสมคิด ก็วิ่งหนีไปฝั่งตรงข้ามตลาด แล้วผู้ก่อเหตุก็ยังจะตามไปยิงซ้ำ ๆ แล้วรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป สำหรับคนก่อเหตุ ตนก็ไม่เห็นเขามาก่อน เท่าที่จำรูปพรรณสัณฐานได้ผู้ก่อเหตุจะสวมเสื้อยืดแขนสั้น แต่ตนจำไม่ได้ว่าสีอะไร
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของนายศุภวิทย์ ในพื้นที่ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงได้พูดคุยกับนางศิริรัตน์ สายธนู อายุ 56 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.65) ลูกชายออกจากบ้านเวลา 20.00 น. ตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายไปไหน กระทั่งทราบช่วงกลางดึกว่าเขาไปก่อเหตุยิงนายสมคิด ซึ่งเป็นน้องเขย ส่วนสาเหตุตนฟังจากกลุ่มวงเหล้าว่า ก่อนเกิดเหตุนายศุภวิทย์ ได้ไปนั่งดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนที่บ้านของนายแมน จากนั้นนายสมคิด ก็เข้ามาต่อว่าทำนองหาเรื่องลูกชายว่านั่งขวางถนน แล้วนายสมคิด ก็ขับรถออกจากบ้านนายแมน และไปที่ตลาดจุดเกิดเกตุ กระทั่งลูกชายตามไปก่อเหตุ ตนจึงคิดว่าเป็นเพราะนายสมคิด ไปหาเรื่องลูกชายก่อนหรือไม่
สำหรับลูกชายของตนและลูกเขยเคยมีคดีความกันมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 64 เหตุการณ์ในตอนนั้นลูกชายนั่งดื่มเหล้ากับนายสมคิด แต่ถูกโวยวายใส่และใช้มีดไล่ฟัน ลูกชายจึงยิงนายสมคิดกระทั่งถูกดำเนินคดี ตนก็ได้ประกันตัวลูกชายออกมา หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ลูกชายก็พยายามอยู่ห่าง ๆ นายสมคิด เพราะไม่อยากจะเรื่องกันอีก
อย่างไรก็ตาม นายศุภวิทย์ เป็นคนนิสัยดี ไม่เคยหาเรื่องใครก่อนถ้าเขาไม่ถูกกระทำ ตนจึงอยากให้ลูกชายเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขณะนี้ลูกชายก็ไม่ได้ติดต่อมาหาตน ไม่รู้ว่าลูกชายหนีไปไหน เขาจะกินจะนอนอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นห่วงลูกชายมาก ๆ ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนางสาววรนันท์ สายธนู อายุ 32 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้อาการสามีก็ยังสาหัส มีเลือดออกที่ช่องท้อง แพทย์ก็ยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม สำหรับนายศุภวิทย์ ผู้ก่อเหตุ ก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของตน เมื่อกลางปี 64 นายศุภวิทย์ เคยมีคดีความกับนายสมคิดมาก่อน เหตุการณ์นั้นสามีและพี่ชายดื่มเหล้ากัน เมื่อเมาก็เกิดมีปากเสียงกระทั่งพี่ชายใช้อาวุธปืนยิงสามีของตนที่แขนซ้าย และไหล่ขวา โดยคดีดังกล่าวพี่ชายได้รับการประกันตัว และออกมาใช้ชีวิตตามปกติ
กระทั่งเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.65) เวลาประมาณ 19.00 น. นายสมคิด ได้นั่งดื่มเหล้าที่บ้านกับเพื่อน ๆ ประมาณ 3 คน จากนั้นเพื่อนของสามีได้เล่าให้สามีฟังว่า นายศุภวิทย์ ไปดื่มเหล้าที่บ้านของนายแมน แล้วมีเสียงดัง ทั้งยังจอดรถกีดขวางการจราจร ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อสามีได้ยินแบบนั้นจึงเดินทางไปที่บ้านนายแมน ซึ่งจุดที่นายศุภวิทย์ นั่งกินเหล้าอยู่ แล้วสามีก็ไปต่อว่านายศุภวิทย์ หลังจากต่อว่าเสร็จสามีก็ไปนั่งดื่มเหล้าที่จุดเกิดเหตุ กระทั่งถูกนายศุภวิทย์ตามไปก่อเหตุสลดดังกล่าว
"ยอมรับว่าพี่ชาย และสามีจป็นคนชอบดื่มเหล้า และใจร้อน ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้อาจเป็นเพราะสามีไปต่อว่าพี่ชายก่อน และด้วยความที่ทั้ง 2 คน เขาเคยมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่ยอมกัน" ภรรยาของผู้บาดเจ็บ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ อยู่ระหว่างติดตามตัวนายศุภวิทย์ ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามฉายาของนายศุภวิทย์ ผู้ก่อเหตุที่ได้ฉายา "ต้นรั่ว" โดยนางสาววรนันท์ สายธนู ภรรยาผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า นายศุภวิทย์ เป็นคนนิสัยรั่ว ๆ จึงได้ฉายาว่า "ต้นรั่ว" ส่วนนายสมคิด ฉายา "จ๊าบ หัวป่า" มาจากนายจ๊าบ อาศัยอยู่ในซอยหัวป่า