กรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางพา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นพยาบาลสาว เข้าไปเเจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับนายณรงค์ชัย ธนจิรกานต์สกุล หรือ ไตตั้น นายทหารเก๊ที่หลอกลวงให้จดทะเบียนสมรสด้วย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบคลิปเสียงความยาว 5 นาที จึงทราบว่าเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายณรงค์ชัย กับ น.ส.เอ (นามสมมติ) พยาบาลสาวผู้เสียหาย โดยการพูดคุยเป็นไปในลักษณะข่มขู่ นายไตตั้น รู้สึกไม่พอใจหลังจากเรื่องดังกล่าวเป็นข่าว จึงโทรศัพท์มาหาพยาบาลสาว อ้างว่าตอนนี้ได้ส่งลูกน้องให้เฝ้าดูความเคลื่อนไหวผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด รู้ตลอดว่าผู้เสียหายอยู่ที่ไหน
"ใครที่ทำให้ผมเดือดร้อน ก็จะต้องโดนด้วย ต้องเดือดร้อนด้วย เพราะผู้บังคับบัญชาไม่ยอม ผมและทนายตั้มได้พูดคุยกันแล้ว สั่งให้ทนายตั้มเคลียร์นักข่าว อย่านำเสนอข่าวนี้" นายไตตั้น กล่าวอ้าง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อถูกนายไตตั้นหลอกยืมเงิน ทราบชื่อ น.ส.น้ำผึ้ง พนักงานร้านซักผ้า โดยทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดจากร้านซักผ้าดังกล่าว จะเห็นว่านายไตตั้น เดินทางมาที่ร้านต่อเนื่องหลายวัน เพื่อพูดคุยตีสนิทกับผู้เสียหาย
น.ส.น้ำผึ้ง ให้สัมภาษณ์ว่า ในครั้งเเรกวันที่ 6 เมษายน 65 เวลา 17.46 น. นายไตตั้นเดินทางมาที่ร้านเพื่อนำผ้ามาซัก พร้อมเเนะนำตัวว่าเป็นเเฟนของพยาบาล ใช้เวลาอยู่ที่ร้าน 1 ชั่วโมง
ในวันที่ 7 เมษายน 65 เวลา 05.49 น. นายไตตั้น ขับรถเก๋งของพยาบาลมาที่ร้าน เพื่อมาซื้อกาเเฟ พร้อมนำมะม่วงกับกระเทียมมาฝากตน เเละได้เเนะนำตัวเองว่าเป็นทหารเรือ ยศนาวาเอก นอกจากนี้ ยังเเอบอ้างเบื้องสูงเป็นทหารองครักษ์ เป็นวิศวกรของกองทัพเรือ มีธุรกิจรับเหมาใหญ่ 4 โครงการ มีลูกน้อง 4 พันคน โดยนั่งคุยประมาณ 50 นาที
ในวันที่ 8 เมษายน 65 เวลา 07.00 น. นายไตตั้น เดินทางมาที่ร้านอีก นำมะม่วงมาให้ พร้อมกับซื้อข้าวมานั่งกินในร้านด้วย โดยระหว่างที่กำลังกินข้าว ก็มีการพูดคุยตีสนิท บอกว่าได้จดทะเบียนสมรสกับพยาบาลเเล้ว ใช้เวลาอยู่ที่ร้าน 51 นาที ก่อนเดินทางกลับ
จากนั้นในวันที่ 9 เมษายน 65 นายไตตั้น ไม่ได้เดินทางมาที่ร้าน เเต่ได้โทรศัพท์เข้ามาหาตน เวลา 10.25 น. อ้างว่ามีปัญหาครอบครัว ทะเลาะกันกับเเฟน พร้อมส่งรูปเเฟนมาที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลมาให้ดูว่าเเฟนกินยาฆ่าตัวตาย เเต่ความจริงเเล้วในวันดังกล่าวเเฟนของนายไตตั้น ไปรับเลือดที่โรงพยาบาล เนื่องจากป่วยเกร็ดเลือดต่ำ ตนจึงเกิดความสงสาร โอนเงินให้รอบเเรกในเวลา 10.33 น. จำนวน 2,000 บาท
ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน เวลา 19.27 น. นายไตตั้น เดินทางมาที่ร้านอีกครั้ง เพื่อมาขอยืมเงิน พร้อมเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง ว่าถูกภรรยาไล่ออกจากบ้าน ยึดกระเป๋าสตางค์ ไม่มีเงินกินข้าว ใช้เวลาอยู่ที่ร้าน 1 นาที ก่อนจะเดินทางกลับ จากนั้นเวลา 21.44 น. ตนก็โอนเงินให้อีก 1,000 บาท รวมเเล้วนายไตตั้นยืมเงินทั้งหมด 3,000 บาท
น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวด้วยว่า จากบุคลิกการพูดคลิกเเละคำพูดคำจาของนายไตตั้น ดูไม่ออกว่าเรียนจบเเค่ ป.6 เพราะเป็นคนพูดจาดี เหมือนคนเรียนจบสูง พูดจาหว่านล้อมเก่ง อีกทั้งยังดูเป็นคนมีน้ำใจ มาหาทุกครั้งจะนำของมาฝากตลอด ทำให้ดูเป็นคนดี ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นมิจฉาชีพ