จากกรณี เมื่อเวลา 23.15. น. วันที่ 25 เม.ย. 65 ร.ต.อ.พิเชฐ เกื้อหนู รองสารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ริมถนนราษฎร์อุทิศ หน้าร้านอาหารเพื่อชีวิต เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้รายงานไปยัง พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผู้กำกับ สภ.หาดใหญ่ รับทราบ และลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่
ในที่เกิดเหตุพบเพียงปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ ริมถนนและกองเลือดอยู่ พร้อมรองเท้ากับแว่นของ นายนรพล มุสิตัง อายุ 30 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงบริเวณหน้าอกด้านซ้าย 1 นัด มีพลเมืองดีได้นำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสมมนัส หรือ อ๊อฟ ไชยหลายทอง อายุ 28 ปี ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนจะย่องเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อช่วง 03.00 น. ที่ผ่านมา พร้อมอาวุธปืน 9 มม. ที่ใช่ก่อเหตุ 1 กระบอก และกระสุนที่เหลืออยู่ในแม็กกาซีน 7 นัด
ล่าสุด วันที่ 26 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ สภ.หาดใหญ่ โดยในช่วงเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.กีรติ ตรีวัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ ได้คุมตัว นายสมมนัส ไชยหลายทอง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา แจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหม่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน ออกจากห้องขังเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยระหว่างนั้น ทีมข่าวได้พยายามสอบถามตัวนายสมมนัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสมมนัสไม่พูดอะไร
จากนั้น พ.ต.ท.กีรติ ตรีวัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ ได้สอบถามปากคำ นายสมมนัส เปิดเผยว่า ตนเองเป็นการ์ดในร้าน และเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ตนจึงได้เข้าระงับเหตุ ตนไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน จากนั้นผู้ตายได้ชกต่อยหน้าตนหลายครั้งในร้าน เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ตนจึงเดินออกมาด้านนอก กำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน กำลังถอดเสื้อแจ็กเก็ตใส่ไว้ประตูท้ายรถฝั่งคนนั่ง จากนั้นก็มีน้องในร้านออกมาถามเหตุการณ์ตนจึงได้ยืนคุยกัน แล้วผู้ตายก็ปรี่เข้ามาชกต่อยตนอีกครั้ง ก่อนจะมีเพื่อนผู้ตายวิ่งตามเข้ามาอีก 3 คน ตนจึงได้ยืนหยิบปืนหลังรถออกมายิงไป 1 นัด ซึ่งเป็นปืนที่มีใบอนุญาต
ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด 3 คลิป จากร้านขายรถยนต์มือสองใกล้กับจุดเกิดเหตุ ช่วงเวลา 00.06.00 น. วันที่ 26 เม.ย.65 เห็นว่ามีคนลักษณะคล้ายมีการชกต่อยกัน ก่อนจะเห็นกลุ่มคนในชัดการ์ดเดินไปท้ายรถยนต์เก๋งสีเทา จากนั้นมีคนเดินขึ้นรถยนต์ ขับออกไป ก่อนจะมีคนเข้ามามุงดูคนเจ็บ
จากนั้น เวลา 00.09.30 น. มีรถยนต์เก๋งสีแดงเข้ามาจอดรับคนเจ็บขึ้นรถ เพื่อไปส่ง รพ.หาดใหญ่ ต่อเนื่องมีรถยนต์เก๋งสีแดงขับออกจากที่เกิดเหตุไปส่งคนเจ็บที่ รพ.หาดใหญ่
นายอนุชิต ยกซิว อายุ 44 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนชะโงกหน้าออกมาดูเหตุการณ์เพราะได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดัง มีเสียงผู้หญิงกรีดร้อง จับใจความไม่ได้ว่าคุยอะไรกัน จากนั้นก็เห็นผู้ก่อเหตุชักปืนยิงผู้เสียชีวิต 1 นัด จนล้มลงหน้าร้าน ซึ่งคนยังได้ยืนเสียงบอกให้ “เดินขึ้นรถ ๆ” จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินขึ้นรถยนต์ขับออกไป ตนได้เดินไปดูหน้าคนเจ็บ ปราฏกว่าตนเองไม่รู้จักจึงได้เดินกลับออกมา เพราะตอนนั้นมีคนเยอะมากพอที่จะให้การช่วยเหลือเเล้ว จากนั้นก็มีตำรวจลงพื้นที่ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อย
ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดหงส์ประดิษฐาราม สถานที่จัดงานศพของนายนรพล ผู้เสียชีวิต ทีมข่าวได้พบกับ นางสุปัญญา เฉลิมไทย อายุ 61 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนทราบเหตุประมาณ 00.30 น. มีเพื่อนลูกชายมาเคาะประตูเรียกตนที่บ้าน จากนั้นสะใภ้ก็เดินลงมารับ เพื่อนก็คว้าตัวไปพูดคุยกัน 2 คน ไม่ได้บอกเเม่ ตนมาทราบภายหลังว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตเเล้วที่โรงพยาบาล
ซึ่งเมื่อวานนี้ ตั้งเเต่เช้าจนถึงเย็นตนไม่เจอลูกชายเลย พอตนกลับจากทำงานมาถึงบ้าน ลูกชายก็โทรมาบอกว่าจะออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อนชื่อปอ เนื่องจากเพื่อนอกหักถูกแฟนทิ้ง จากนั้นตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายไปที่ร้านตอนไหน ตนก็นอนหลับ จนเพื่อนเขามาที่บ้านเพื่อบอกข่าว
ทั้งนี้ ตนมีลูกชาย 2 คน คนที่เสียชีวิตคือลูกชายคนโต ก่อนหน้านี้ 2 เดือน ตนเพิ่งจะสูญเสียสามีไป ยังไม่ทันครบรอบทำบุญ 100 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิตไปอีกคน ทั้ง ๆ ที่นัดกันจะทำบุญให้สามี วันที่ 10 พ.ค. 65 ก่อนหน้านี้ตนไม่มีลางสังหรณ์อะไรมาก่อนเลย ส่วนลูกชายมีภรรยา 1 คน มีลูกด้วยกัน 2 คน คือผู้หญิงอายุ 9 ปี ผู้ชาย อายุ 8 ปี ปกติลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว นิสัยใจคอของลูกก็เป็นคนดี รักสนุก รักเพื่อนมาก เพื่อน ๆ ก็รักเขา แต่นิสัยของลูกชายคืออย่าทำให้เขาโมโห ไม่งั้นเขาก็จะไม่ยอมใคร ตายเป็นตาย แต่ถ้าใครดีด้วยก็จะดีตอบ
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นการ์ดอยู่ที่ร้านอาหาร แต่ไม่เคยรู้จักกับลูกชายเป็นการส่วนตัว ตนก็อยากจะทราบว่ามีเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงมายิงลูกชายตนแบบนี้ หากทะเลาะกันทำไมไม่ไปเเจ้งความ ใครผิดใครถูกก็ว่ากันไป เมื่อทีมข่าวเล่าเหตุการณ์จากคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาเเละจากข้อมูลตำรวจให้ฟัง นางสุปัญญาก็กล่าวว่าเวลาลูกชายไปกินหรือดื่มเเล้วอยู่ในอาการมึนเมาก็จะอารมณ์คุมตัวเองไม่ค่อยได้ เคยมีเรื่องชกต่อยแต่ไม่บ่อย เขาไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ปกติแล้วลูกชายไปเที่ยวบ่อย ตนก็มักจะโทรหาว่าเมื่อไรจะกลับบ้าน แต่เมื่อคืนหลังจากลูกบอกจะออกไปเที่ยว ตนก็ไม่ได้โทรตาม
ส่วนเรื่องที่หากผู้ต้องหาอยากจะขอขมาขอโทษ ตนก็พร้อมจะให้อภัย หากว่าลูกชายไปทำร้ายเขาก่อน แต่เขาก็ไม่ควรจะยิงลูกตนแบบนี้ ตนไม่อยากจะให้ลูกชายตายจากไปแบบนี้ ตนเพิ่งจะคุยกับญาติ ๆ ว่าลูกเพิ่งกลับมาจาก จ.ปัตตานี พอวันต่อมาลูกก็เสียเเล้ว ตนเสียใจมาก ตนกลัวว่าจะไม่มีชาติหน้าอีก แต่หากชาติหน้ามีจริง ก็อยากจะให้มาเกิดเป็นเเม่ลูกกันอีก ขอให้เป็นเด็กดี