ครั้งแรกพิสูจน์ชัด! เรือดูดร่างแตงโมท่าไหน เจอรอยเฉือนเหวอะถ้าตกน้ำหัวเรือ (คลิป)

วันที่ 27 เม.ย. 65 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Porntip Rojanasunan ระบุว่า "จิบกาแฟหน้าเจดีย์พระรัตนตรัยหลังทำข้าวผัดปลาเค็มถวายพระเรียบร้อย ได้มีเวลาดูข่าวแตงโมนิดหน่อย เหมือนอย่างที่เคยบอกว่าการรวบรวมพยานหลักฐานเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ บางชิ้นเสียบลงแต่ไม่ใช่ส่วนของภาพ บางชิ้นที่เป็นส่วนสำคัญยังหาชิ้นเชื่อมโยงไม่ได้ก็เลยทิ้งไป หรือไม่อยากเอามาใส่เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญ

ที่สำคัญเราไม่มีกฎหมายที่กำหนดว่าต้องต่อภาพให้”สมบูรณ์” และ”ถูกต้อง” ภาพที่ส่งต่ออัยการจึงอาจมีความไม่สมบูรณ์ คำถามปลายเปิดทำให้เกิดแพะ เกิดเหยื่อ เกิดความไม่เป็นธรรมมามากมาย แผลอาจเกิดจากใบพัดเรือแต่ก็อาจเกิดจากวัตถุอื่นได้ แผลก้างปลาบอกทิศทางได้ชัดเจนเพียงแต่จะเลือกฟังใคร คดีนี้จุดตกเรือสำคัญ เพราะวิทยาศาสตร์จะบอกได้ว่าไม่ใช่ท้ายเรือ สังคมไทยเกรงใจ เกรงกลัวอำนาจกันมานาน ส่งข้อมูลที่อยากรู้มาให้อ่านเช้านี้ก่อนไปปฏิบัติภารกิจบุญงานสร้างพระประธานสถานที่เกิดหลวงปู่เสาร์ อรหันต์แห่งอุบล พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น หมั่นทำความดี อย่าให้ความชั่วครอบงำ 🙏🙏🙏"

กรณีการแถลงข่าวของตำรวจภูธรภาค 1 เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งจากการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนเป็นประเด็นเรื่องการตกท้ายเรือ ตามคำให้การของแซนที่ยืนยันว่าแตงโมไปปัสสาวะ ก่อนที่จะพลัดตกจากเรือด้วยอุบัติเหตุนั้น

ทีมข่าวได้มีการนำเรือของอู่เรือ SBN Boat Club ในการทดสอบข้อสมมติฐาน เกี่ยวกับการตกเรือของนางสาวแตงโม ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ทีมข่าวได้มีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรือสปีดโบ๊ต คือ คุณธีรพัฒน์ บุญภิรักษ์ คอยกำกับการทดสอบ เพื่อที่จะให้การทดสอบ มีความใกล้เคียงกับเหตุการณ์ของเรือลำที่เกิดเหตุจริง แต่เนื่องจากระดับความเร็ว ระดับน้ำ และชนิดของเรือไม่ใช่ชนิดเดียวกัน

การทดสอบแบ่งเเป็น 2 รูปแบบ ระดับความเร็ว 2 ระดับ คือ 1. การใช้ต้นกล้วยซึ่งมีน้ำหนักใกล้เคียงหรือเทียบกับน้ำหนักคน ทิ้งลงบริเวณบอร์ดท้ายเรือ ด้วยระดับความเร็วปกติคงที่ 5-6 นอต และเป็นการเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน จาก 5-6 นอต ขึ้นไปที่ระดับเกินกว่า 10 นอต 2. การใช้ทุ่นเรือสีขาว โยนตำแหน่งเดียวกันบริเวณบอร์ดท้ายเรือ คงใช้ระดับความเร็วปกติคงที่ 5-6 นอต และเป็นการเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน จาก 5-6 นอต ขึ้นไปที่ระดับเกินกว่า 10 นอต

การทดสอบโยนต้นกล้วยท้ายเรือ ความเร็วคงที่ 5-6 นอต ผลการทดสอบปรากฏว่าความเร็วของเรือจะทำให้เกิดคลื่นน้ำลักษณะวน มีการดูดเอาต้นกล้วยเข้าไปติดใต้บอร์ดท้ายเรือ แม้ว่าจะมีการแล่นไปข้างหน้าต่อเนื่อง แต่ยังเป็นที่ความเร็วคงที่ 5-6 นอต ต้นกล้วยก็ยังติดอยู่ไม่ได้ถูกผลักออก หลังจากที่ทีมข่าวเก็บขึ้นมาแล้ว เป็นลักษณะร่องรอยของใบพัดเล็กน้อย

จากนั้น ทดสอบโยนต้นกล้วยท้ายเรือ อัตราความเร็วจาก 5-6 นอต ดีดขึ้นไปแบบกะทันหัน เกินกว่า 10 นอต ตอนแรกที่ต้นกล้วยตกไปท้ายเรือมีลักษณะลอยอยู่ช่วงท้าย และมีลักษณะถูกดูดเข้าไปใต้บอร์ด จากนั้นเมื่อมีการเร่งความเร็วดีดขึ้นไปเกินกว่า 10 นอต ต้นกล้วยที่ถูกดูดเข้าไปใต้บอร์ดถูกดีดออกไปกับคลื่นน้ำ ลอยห่างออกไปจากเรือ มีลักษณะรอยฉีกขาดของกราบต้นกล้วย มีร่องรอยถูกบาดเล็กน้อย แต่ไม่ได้เข้าลึก

จากกรณีการออกมาแสดงความคิดเห็น และการหาข้อมูลของนายอัจฉริยะ และชาย อานันท์ทวีป ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนางสาวแตงโม ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับประเด็นการเสียชีวิตว่าไม่ได้ตกบริเวณท้ายเรือ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะตกบริเวณหัวเรือ ยังไม่มีความเชื่อมั่นในเรื่องของการแถลงข่าวของตำรวจภูธรภาค 1 นั้น

ทีมข่าวยังได้มีการทดสอบ โยนต้นกล้วยและทุ่นสีขาวตำแหน่งบริเวณหัวเรือ เพื่อทดสอบวัตถุว่าจะมีการชนกราบเรือ หรือโอกาสที่จะเข้าไปโดนใบพัดเรือได้หรือไม่ ตามข้อสมมติฐาน มีผู้เชี่ยวชาญของเรือสปีดโบ๊ตให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งและความเร็วของเรือในการกำกับการทดสอบของทีมข่าว และการวิ่งของเรือในวันนี้เป็นการวิ่งแบบเพรนน้ำ หรือหัวเรือยกท้ายเรือจม ซึ่งให้ตรงกับภาพที่วิ่งในกล้องวงจรปิด

การทดสอบรอบแรก ทีมข่าวได้ทำการโยนต้นกล้วย ตำแหน่งหัวเรือ ลักษณะทิ้งน้ำหนักลงที่ปลาย ยกต้นกล้วยและทุ่มลงไปในน้ำแนวตรงดิ่ง คล้ายกับน้ำหนักตัวคนที่เวลาตกน้ำ หลังจากที่โยนต้นกล้วยลงไปที่บริเวณหัวเรือ สังเกตว่าตัวของต้นกล้วยไม่ชนกับหัวเรือ แต่จะมีลักษณะตกและจมรอดผ่านใต้ท้องเรือ แต่ความรู้สึกของคนบนเรือและคนขับเรือจะสัมผัสได้ถึงใบพัดที่ไปพักโดนวัตถุบางอย่าง โดยเรือจะมีการผ่อนเครื่อง ลักษณะฟรีตัว และจะได้ยินเสียงเหมือนไปเกี่ยววัตถุบางอย่าง แต่เมื่อไปสังเกตบริเวณท้ายเรือหลังจากที่มีวัตถุตกที่หัวเรือแล้ว ปรากฏว่าต้นกล้วยมีลักษณะถูกปั่นแหลก แยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ส่วนชิ้นที่เป็นลำต้นใหญ่ จะมีลักษณะใบพัดถูกปั่นแยกเป็นเส้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ใช้วัสดุอื่นในการโยนท้ายเรือ โดยนำทุ่นสีขาวทำการโยนทดสอบที่บอร์ดท้ายเรือ ด้วยความเร็วอัตราคงที่ 5-6 นอต ทุ่นสีขาวถูกดูดเข้าไปติดป้ายบอร์ด เนื่องจากมีลักษณะเบาและลอยน้ำ ทำให้ติดคาอยู่ใต้บอร์ดไม่ได้หลุดออก ส่วนร่องรอยที่จะทำให้ทุ่นเป็นรอยนั้นสังเกตได้ยาก เพราะเนื่องจากเป็นพลาสติกนิ่ม

จากนั้น ทีมข่าวยังได้โยนทุ่นสีขาวท้ายเรือ แต่มีการเพิ่มความเร็วจาก 5-6 นอต ดีดขึ้นไปที่ความเร็วเกินกว่า 10 นอต ปรากฏว่าจากที่วิ่งด้วยความเร็วปกติทุ่น ถูกดูดเข้าไปอยู่ใต้บอร์ด เมื่อมีการเพิ่มความเร็วเกินกว่า 10 นอต ทุ่นก็จะถูกดีดออกไปตามกระแสคลื่นของน้ำท้ายเรือคล้ายกับต้นกล้วย

จากนั้นทีมข่าวยังได้มีการทดสอบโยนทุ่นบริเวณหัวเรือ ทุ่นมีลักษณะกระทบบริเวณกราบเรือ แต่ไม่ได้จมและมุดใต้ท้องเรือ เพราะเนื่องจากไม่มีน้ำหนักพอจะให้จมเหมือนน้ำหนักของมนุษย์ ทำให้ถูกพัดออกไปฝั่งซ้ายและขวาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตกคลองเรือ และตัวของทุ่นก็ไม่ได้รับความเสียหาย

นายวิรัตน์ เภาพัฒน์ หรือ โทน คนขับเรือสปีดโบ๊ต เปิดเผยว่า ในการทดสอบวันนี้ ตำแหน่งการโยนต้นกล้วยที่หัวเรือทำให้สัมผัสและรู้สึกได้ถึงใบพัดที่ไปเกี่ยวโดนวัตถุ เพราะคนที่อยู่บนเรือจะรู้สึกว่าไปพัดเกี่ยวโดนอะไรบางอย่าง แล้วเรือจะมีลักษณะฟรีเร่งเครื่องขึ้นยาก แต่สำหรับการโยนที่ท้ายเรือไม่ได้รู้สึกถึงการไปปั่นโดนวัตถุ เพราะอาจจะโดนเล็กน้อยหรือไม่ได้โดนอย่างจัง จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงใบพัดที่ไปโดนอะไร

สำหรับการทดสอบโยนต้นกล้วยหรือทุ่นท้ายเรือ ตอนที่ใช้ความเร็วคงที่ 5-6 นอต วัตถุจะถูกดูดเข้าไปอยู่ใต้บอร์ดของเรือ แต่เมื่อมีการเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นเกินกว่า 10 นอต วัตถุนั้นจะถูกดีดออก และไหลไปตามคลื่นด้านหลังของเรือ

ภายหลังทีมข่าวนำเรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าวลากเรือขึ้นมาจากน้ำ สังเกตบริเวณเครื่องท้ายเรือ ปรากฏว่าจะมีชิ้นส่วนของต้นกล้วยที่ถูกปั่นแหลกและฉีกออกติดบริเวณเครื่องท้ายเรือ แม้ว่าหลังจากที่ทดสอบเสร็จแล้วทีมข่าวจะแล่นเรือต่อไปสักระยะ ก่อนที่จะนำไปเทียบฝั่งและนำขึ้นจากน้ำ กระแสคลื่นก็จะมีลักษณะพัดผ่านเรือตลอด แต่ไม่ได้หลุดหายไป