จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ค. 65 หน่วยกู้ชีพอบ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้นำ ด.ช.ลูกครึ่ง อายุ 8 ขวบ มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณขาขวาหลายจุด จากบริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ ส่งรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่าถูกสัตว์ทะเลชนิดใดกัดหรือทำร้าย จนเกิดบาดแผลฉกรรจ์
จากนั้น ได้มีการส่งภาพบาดแผลดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตรวจพิสูจน์ หรือวินิจฉัยบาดแผล
ล่าสุด วันที่ 2 พ.ค. 65 เมื่อเวลา 09.30 น. นายเดวิด มาร์ติน ช่างภาพใต้น้ำ และผู้เชี่ยวชาญฉลามชาวอเมริกัน ซึ่งอาศัยอยู่ในจ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้เห็นภาพดังกล่าวแล้ว คาดว่าเป็นบลูชาร์กกัดเข้าที่บริเวณขาของเด็กต่างชาติ ซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยดำน้ำถ่ายภาพสัตว์ทะเลมาทั่วโลก จึงคาดว่าอาจเป็นฉลามในตระกูลบลูชาร์ก หรือ ฉลามหัวบาตร เนื่องจากเป็นบาดแผลกัด และกระชากหรือสะบัด ซึ่งแตกต่างจากการกัดของสัตว์ทะเลทั่วไป
สำหรับบูลูชาร์กเมื่อโตเต็มวัยจะยาวถึง 3 เมตร ขณะที่นิสัยของบลูชาร์กนั้นไม่ใช่ฉลามที่ดุร้าย หรือทำร้ายมนุษย์ เพียงแต่อาจเข้าใจผิดคิดว่าคนเป็นเหยื่อที่สามารถกินเป็นอาหารได้ ซึ่งในธรรมชาติจะกินสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กเป็นอาหาร เช่น หมึก กุ้ง เม่นทะเล และเต่าทะเล
โดยสามารถว่ายน้ำเข้ามาบริเวณชายฝั่งหรือบริเวณน้ำที่ขุ่นได้ เนื่องจากมีเรดาร์ที่ปลายจมูกรับรู้การเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่สามารถมองเห็นก็ตาม โดยตนเองยังขอยืนยันว่าชายหาดกมลา หรือชายหาด ในจ.ภูเก็ต มีความปลอดภัยจากฉลาม หรือสัตว์ทะเล
น้องอเล็ก เหยื่อฉลามวัย 8 ขวบ บอกว่า ตนลงไปเล่นน้ำแล้วมีปลามากัดที่ขา ตนจึงได้ใช้มือชกเข้าที่ลูกตากับจมูกของปลาตัวดังกล่าว เพื่อให้มันปล่อยตน แต่ถ้ามันไม่ปล่อยมันก็กระชากตนลงไปในน้ำด้วย อาจจะกินตนเป็นอาหารก็ได้ แต่โชคดีที่ตนศึกษาเรื่องฉลามมาบ้าง จากสารคดี ตนจึงรู้วิธีเอาตัวรอด เมื่อฉลามมันปล่อยตนจึงรีบว่ายน้ำเข้าฝั่ง พ่อเห็นก็วิ่งเข้ามาที่ตน พร้อมกับเพื่อนของพ่ออีกหลายคนด้วย
เมื่อเวลา 10.30 น. นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วย รองนายก อบต.กมลา ลงพื้นที่บริเวณหน้าหาดกมล สอบถามเหตุการณ์ นายอภิสิทธ์ อนันต์ ผู้ประกอบการที่อยู่บริเวณชายฝั่ง อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าเหตุการณ์ปลาทำร้ายนักท่องเที่ยวในลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 2-3 ปี ปลาทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งบริเวณหาดกมลา ตนเคยดำน้ำจะพบปลาสากอยู่บริเวณชายฝั่ง ขนาดประมาณต้นขา ใหญ่สุดประมาณ 13 กิโลกรัม จะเข้ามากินปลาเล็กที่มากินพืชน้ำ
ทั้งนี้ บริเวณนี้ที่มีความสมบูรณ์ จึงอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เบื้องต้นได้ประสาน อบต.กมลา ทำป้ายแจ้งเตือน และการประชาสัมพันธ์ทางเสียงตามสาย เพื่อแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่จะลงเล่นว่ายน้ำในบริเวณดังกล่าว ให้ระมัดระวังอันตรายจากสัตว์น้ำอีกทางหนึ่ง
ล่าสุด เวลา 17.30 น. เทศบาลตำบลกัมลา และตำรวจท่องเที่ยว ได้นำป้ายเตือนการลงเล่นน้ำทะเล ระวังสัตว์น้ำที่ทำให้เกิดอันตราย