นับถอยหลังเปิดเทอม 17 พ.ค.2565 ผู้ปกครองขนทรัพย์สินจำนำ หลายครอบครัวประหยัด ซื้อชุดนักเรียนให้ลูกเผื่อโต
จากกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เป็นวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ทำให้เหล่าบรรดาผู้ปกครอง และนักเรียนต่างเตรียมตัวรับการเปิดเทอมใหม่อย่างคึกคัก รวมถึงการนำทรัพย์สินที่มีมาขายหรือจำนำ เพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงเปิดเทอม ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม การซื้อชุดนักเรียน หรืออุปกรณ์การเรียน
วันนี้ (3 พ.ค.65) ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านขายเสื้อผ้านักเรียนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เต็มไปด้วยผู้ปกครองที่พาลูกมาหาเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียน รองเท้า และกระเป๋านักเรียนเพื่อเตรียมรองรับการเปิดเทอม แต่เนื่องด้วยปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบันนี้ ทำให้ผู้ปกส่วนใหญ่ลดจำนวนในการซื้อชุดนักเรียนจะมาเลือกซื้อชุดนักเรียนใหม่เพียง 1-2 ชุดเท่านั้น
สำหรับผู้ปกครองบางคนที่ลูกของตนเองต้องมีการเปลี่ยนโรงเรียนหรือเปลี่ยนชั้นเรียน เช่น จากชั้นอนุบาลขึ้นสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก็จำเป็นต้องซื้อชุดนักในจำนวนที่มากขึ้น นอกจากชุดนักเรียนแล้วยังมีชุดลูกเสือและชุดพละที่จะเป็นต้องซื้อทำให้ในช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ผู้ปกครองบางถึงกับต้องหาวิธีในการที่จะบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดนักเรียน
นางสาวพัชรินทร์ ซอสันเทียะ อายุ 37 ปี กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดนักเรียนในปีนี้ ต้องประหยัดมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจย่ำแย่ รายได้ก็น้อยต้องประหยัดในส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่เนื่องจากลูกชายของตนเองเพิ่งขึ้นชั้น ป.1 เลยจำเป็นที่จะต้องซื้อชุดนักเรียนถึง 5 ชุด ทั้งเสื้อนักเรียน กางเกงนักเรียน ถุงเท้า รองเท้า เข็มขัด กระเป๋านักเรียน ทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เยอะมาก
เนื่องจากลูกชายตนเองเป็นคนตัวเล็กชุดนักเรียนที่ซื้อใหม่ทั้ง 5 ชุดนั้น ตนจึงพยายามที่จะซื้อขนาดใหญ่กว่าตัวนิดหน่อย โดยตนจะนำเอาชุดนักเรียนไปเย็บเข้าเพื่อให้พอดีกับตัวพอลูกโตขึ้นก็จะนำชุดเดิมไปขยายออกเพื่อที่จะให้ลูกสามารถใส่ชุดนักเรียนชุดเดิมได้อย่างน้อย 2-3 ปี ก็ยังดี
ขณะที่ จ.พิษณุโลก ที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครพิษณุโลก 1 ถนนบรมไตรโลกนารถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พบว่ามีพ่อแม่ผู้ปกครอง นำเอาของมีค่าและทองคำ มาจำนำที่นี่ เพื่อนำเงินสดไปใช้จ่ายสำหรับเตรียมเปิดเทอมให้แก่บุตรหลานในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ เนื่องจากคิดอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าร้านทองทั่วไปคือ เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 50 สตางค์ เหลืองเพียงร้อยละ 25 สตางค์ต่อเดือน และเงินต้นเกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่นำทรัพย์มาจำนำระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2565 เท่านั้น
นางสาววิภา ดอนแก้ว ผู้นำทรัพย์มาจำนำเพื่อนำเงินสดไปใช้จ่ายสำหรับเตรียมเปิดเทอม บอกว่าในปีนี้ตนเองมีบุตรหลานจำนวน 3 คน ต้องดูแลและเตรียมเงินสำหรับเอาไว้ใช้จ่ายรวมแล้วต้องเตรียมสำรองเงินสดเอาไว้ประมาณ 20,000 ถึง 30,000 บาท จึงมาใช้บริการที่นี่เพราะอัตราดอกเบี้ยถูกกว่า การนำไปจำนำที่ร้านทอง ซึ่งการช่วยเหลือในรูปแบบนี้สามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระพ่อแม่ผู้ปกครองได้ระดับหนึ่ง
ด้าน จ.นครสวรรค์ สถาธนานุบาลหรือโรงรับจำนำในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ทั้ง 3 แห่ง ต้องสำรองเงินสดรวมมากถึง 400 ล้านบาท พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระประชาชนและผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม ขณะที่นางสาวอ้อยทิพย์ คำประกอบ ผู้จัดการสถาธนานุบาลสาขา 2 เปิดเผยว่า โรงรับจำนำในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ สำรองเงินหมุนเวียนไว้รองรับกว่า 400 ล้านบาท โดยในช่วงก่อนเปิดเทอมจะมีบรรดาผู้ปกครองนำสิ่งของมาจำนำกับสถาธนานุบาลเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในขณะนี้อยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำสินค้าที่ใช้ในชิวติประจำวันมีราคาแพง ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้มและยังอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 จึงทำให้เริ่มมีประชาชนและผู้ปกครองนำสิ่งของมาจำนำกันเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะประเภททองคำมีมาจำนำมากกว่า 90%
ด้านบรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส และโรงรับจำนำของเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้มีการจัดเตรียมเงินทุนหมุนเวียนที่จะให้ประชาชนได้นำทรัพย์สินมาจำนำ รับช่วงเปิดเทอมกว่า 80 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็ได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ด้วย โดยพบว่ามีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่นำมาจำนำกับทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองนราธิวาส จะเป็นทองคำ ทองรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา อุปกรณ์ เครื่องมือช่าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หลวงพ่อ หอบเงินเหรียญ 2 แสน ช่วยโรงเรียนถูกพายุพัด หวั่นซ่อมไม่ทันเปิดเทอม
- โรงรับจำนำ กทม. ฉลองครบรอบ 60 ปี ลดดอกเบี้ยช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ
- สพฐ.ยันเปิดเทอม 1-2565 รับเรียนออนไลน์ 2 ปี ทำเด็กปฐมวัย-ประถม ความรู้หาย