สาวโรงงานสุดช้ำ! เจ้าบ่าวอ้างตัวเป็นทหาร หนีหายตอนเช้ามืด ขณะเจ้าสาวไปแต่งหน้า ต้องจำใจออกมาต้อนรับแขกในงานเพียงผู้เดียว
วันนี้ (5 พ.ค 65) ผู้สื่อข่าวปราจีนบุรีได้รับแจ้ง น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ถูกเจ้าบ่าว จ.ส.อ.เอก (ขอสงวนนามสกุล) เทงานแต่ง ปล่อยให้เจ้าสาวต้องออกมาต้อนรับแขกเพียงคนเดียว
น.ส.น้ำทิพย์ เผยว่า ตนและจ่าเอกรู้จักกันมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 64 และคบหาเป็นแฟนกันโดยที่ทางญาติๆ รับรู้กันทั้งหมด จ่าเอกมาพบกับบิดามารดาตนเอง สัญญาว่าจะมาจัดพิธีมงคลสมรสในวันที่ 1 พ.ค.65 พอถึงวันพิธีแต่งงาน ทางบ้านได้จัดเตรียมพิธีทางศาสนา โต๊ะจีน พร้อมเครื่องดื่มจำนวน 50 โต๊ะ สำหรับเลี้ยงแขก แต่พอถึงเวลางานได้เริ่มพิธีทางศาสนา ก็ยังไม่พบตัวของเจ้าบ่าว ปล่อยให้ทางเจ้าสาวดำเนินการขั้นตอนทางศาสนาไปเพียงตนเดียว เมื่อเวลาแห่ขันหมากทางญาติของเจ้าสาวก็ต้องดำเนินการต่อ พ่อเจ้าสาวเป็นตัวแทนแห่ขันหมากไปที่บ้านเจ้าสาว เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับลูก รวมทั้งให้งานสามารถดำเนินการต่อไปได้
นางบุญทม และนายสี แม่และพ่อเจ้าสาว กล่าวว่า เห็นลูกสาวตนกับเจ้าบ่าวรักกัน พ่อกับแม่ก็เชื่อเขา ลูกสาวตนก็รักเขา ตอนมาสู่ขอก็มาแต่ตัว ไม่มีสินสอดมาเลย ผู้ใหญ่ก็ไม่มา เขามาคนเดียว พ่อก็เลยบอกว่า ถ้าจะมาขอก็ให้พาพ่อแม่มาด้วย เขาก็บอกว่าแม่ป่วย ผมจะมาขอเอง ตนก็บอกว่า ค่าสินสอด 2 แสน ทอง 3 บาท เขาก็บอกว่าสู้ได้ ตกลงแต่ง พ่อกับแม่เห็นลูกรักกันก็เลยตามใจลูก
ต่อมาก็หาฤกษ์ ได้วันที่ 1 เป็นวันแต่ง คืนงานตี 2 ของเขาก็สั่งมาเยอะ เขาบอกเดี๋ยวผมจ่ายเอง เมื่อตอนตี 2 เจ้าสาวไปแต่งหน้าที่ร้านเสริมสวย เจ้าบ่าวก็หนีไปเลย แขกมาร่วมงานก็เลยต้องต้อนรับแขก มีพระ 9 รูป พระก็สวด รดน้ำมนต์ให้ด้วย แห่ขันหมาก ทำครบกระบวนการแต่ไม่มีตัวเจ้าบ่าว เงินสินสอดก็เป็นเงินแม่ที่เตรียมผูกแขนลูก ตอนนี้ก็ไปแจ้งความแล้ว
นายธีรภัทร (หลานเจ้าสาว) กล่าวว่า ตนสนิทกับน้าสาวมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันขับรถให้ตลอด หลังจากงานแต่งเจ้าบ่าวไม่มา ผมกับนายก อบต.นาดี ไปแจ้งความที่ สภ.นาดี ทางตำรวจแจ้งว่ามันไม่เข้าข่ายอะไรเลย ทางตนก็เลยลงบันทึกประจำวันไว้ หลังจากนั้นเจ้าบ่าวติดต่อมาเขาอ้างว่าเขารอเงินจากน้องสาวจะมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เขาว่าน่าจะมาวันเสาร์อาทิตย์นี้ ผมก็ว่ามันยืดเยื้อเกินไป เขาก็ยังไม่เห็นออกมาขอโทษอะไรเลย เขาจะไม่คุยกับญาติพี่น้องเลย เขาจะคุยกับทางเจ้าสาวคนเดียว ตนขอให้เขาส่งบัตรประชาชนมาให้ เขาก็ไม่ส่งมา
นายธีรภัทร บอกอีกว่าตอนที่ตนเข้าไปแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เช็กทะเบียนราษฎร์แล้วก็ไม่ขึ้น เขาอ้างตัวว่าเขาเป็นจ่าสิบเอก อ้างตัวว่าเป็นทหารพราน ตนไม่เคยรู้จัก มารู้จักตอนที่เข้ามาในชีวิตน้า เขาเป็นคนบุคลิกดี โปรไฟล์ดี เป็นการ์ดของนักการเมืองท้องถิ่น เวลาตนออกงานก็จะเจอนักการเมืองคนนี้แล้วก็จะเจอกับเขาบ่อย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ้าบ่าวเป็นคนจัดหามา ทางเราบอกแค่ว่า จัดงานตั้งแต่ดงานเล็กๆ ก็พอ เนื่องจากทางครอบครัวติดโควิด เลยเลื่อนไป มาเป็นวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนค่าใช้จ่ายก็ประมาณคร่าวๆ ก็ 300,000 บาท ค่าใช้จ่ายเขาก็มาเก็บกับเรา เพราะบ้านเราเป็นคนจัด ทุกร้านก็เข้าใจ เพราะเขาก็เห็นๆ กันทั้งนั้น เวลาเราไปจัดซื้อของ เจ้าบ่าวก็ไปด้วยตลอด มีโต๊ะจีน 50 โต๊ะ ราคาแสนกว่าบาท และออแกไนซ์จัดงานก็ประมาณ 30,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าน้ำแข็ง ค่าเครื่องดื่ม เครื่องไฟ เครื่องเสียง รวมๆ ก็ประมาณ 3 แสนกว่าบาท ความรู้สึกของน้าตอนนี้ ก็คือน้าจะซึม วันแรกเลยที่รู้ ก็น้ำตาตก แต่เขาก็เข้มแข็ง เพราะแขกก็มามากแล้ว โต๊ะจีนก็สั่งมาแล้วก็ต้องดำเนินงานต่อไป