วันที่ 24 พ.ค. 65 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะและตำรวจ บก.น.8 เข้าสอบปากคำ นายธีระพันธ์ ปิยะนิรามัย หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน พร้อมส่งตัวไปตรวจสารเสพติดในร่างกายด้วย
หลังถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอย ประชาอุทิศ 37 เมื่อคืนที่ผ่านมา 23 พ.ค.65 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าลงมือก่อเหตุ อ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดที่คิดว่าผู้เสียหายเป็นแฟนของลูกหนี้ จึงต้องการนำตัวผู้เสียหายไปเพื่อให้เพื่อเจรจาเรื่องหนี้การพนันจำนวน 50,000 บาท ส่วนเครื่องพันธนาการทั้งเทปกาวแ ละผ้าปิดตา อ้างว่าจะเอาไปใช้ในการขายทุเรียน จึงมีการนำติดตัวมาตลอดเวลา
ซึ่งตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อคำใหัการ และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพราะพฤติกรรมอุกอาจมียานพาหนะ รถตู้หรูยี่ก้อฮุนไดสีบรอนซ์ แผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลังไม่ตรงกัน และมีทรัพย์สินจำนวนมากนั้น
จากการตรวจสอบพบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกดำเนินคดีอาวุธปืน และยาเสพติดย่านพระประแดง เมื่อปี 2560 ก่อนพ้นโทษมาปี 2564 และมาก่อเหตุอีกในครั้งนี้
ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ นางสาวนิด (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.65 เวลาประมาณ 21.30 น. ตอนนั้นตนอยู่ที่บ้านเเล้วสั่งของที่ร้านรถนม เเถวเขตราษฎร์บูรณะ ก่อนจะตนจะขับรถออกจากบ้านมารับนม ในช่วงที่ขับรถมานั้น ตนก็สังเกตว่ามีคนขับรถจี้ท้ายตัวเองมา จึงโทรติดต่อหาที่บ้านและเล่าให้ฟัง ซึ่งที่บ้านก็บอกว่า คงจะไม่มีอะไร แค่คนมาซื้อของ ซึ่งตนมารู้ตัวว่าถูกขับรถจี้ตอนประมาณ 21.40 น.
จากนั้นตนก็มาถึงร้าน เเต่ต้องจอดรถไว้ค่อนข้างไกลจากร้านเนื่องจากมีรถจอดริมฟุตพาทเยอะ เมื่อได้ของเเล้ว ก็เอามาใส่ไว้ที่เบาะหลังรถ จากนั้นตนเองก็เดินอ้อมหลังรถไปด้านคนขับ ไม่ทันจะได้ล็อกรถ ผู้ต้องหาที่ตนไม่เคยเห็นหน้าเเละรู้จักมาก่อน ก็เดินขึ้นรถมาที่ด้านข้างคนขับ มาคนเดียว ก่อนจะเอามีดทำครัวออกมาจี้ตน เเละบอกให้ “อยู่เฉย ๆ” ตนจึงบอกด้วยความตกใจเเละร้องไห้ว่า “อยากได้อะไรให้เอาไปเลย” ก่อนผู้ต้องหาจะบอกให้ตนยื่นมือไปให้ทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะเอาเทปพันสายไฟมัดมือไว้ ใช้ผ้ามาคลุมหัวเพื่อปิดตาตน
ตนพยายามขอชีวิต ผู้ต้องหาก็กล่าวว่า “เออ กูไม่ทำอะไรมึงหรอก” ก่อนจะถามอีกว่ารถคันนี้เป็นรถของใคร ตนจึงอ้างชื่อพี่ไป ก่อนจะจับตัวของตนข้ามไปที่ฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเดินอ้อมหลังรถไปขึ้นด้านข้างฝั่งคนขับ ตนจึงอาศัยจังหวะนั้นเปิดประตูรถวิ่งหนีลงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียง ซึ่งหลังจากที่ผู้ต้องหาเห็นว่าตนหนีไป ก็พยายามจะวิ่งตามมา เเต่เห็นว่ามีคนมามุงดูเยอะ จึงได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเเจสสีดำของตนหลบหนีไป ตนจึงได้ชาวบ้านช่วยตัดสายไฟพันข้อมือออกให้ เเละโทรเเจ้งตำรวจให้ไปที่เกิดเหตุ
นางสาวนิด ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยรู้จักชายคนด้งกล่าว ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน รวมถึงคนอื่น ๆ ใกล้ตัวด้วย เเต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าผู้ต้องหาจับผิดตัว โดยอ้างว่ามีคนชื่อ “หนึ่ง” ติดเงินผู้ต้องหา จึงได้มาลักพาตัว “มิ้น” ไปเป็นตัวประกัน เพื่อให้ “หนึ่ง” คืนเงิน ซึ่งผู้ต้องหาเข้าใจว่าตนคือ “มิ้น” จึงได้ลงมือก่อเหตุ
ตอนนี้สภาพจิตใจเเย่มาก ตัวเองนอนผวาทุกคืน นอนไม่กลับ สะดุ้งตื่นตลอด เหมือนภาพเเวบขึ้นมา ตนอยากจะให้คนทำผิดรับโทษให้ถึงที่สุด ตนอยากจะฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ เวลาผู้หญิงไปไหนคนเดียวต้องปิดรถ ล็อกรถทันทีที่ขึ้นรถ
จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ควบคุมตัว นายธีระพันธ์ ปิยะนิรามัย หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาออกมาจากห้องขัง เพื่อเข้าไปในห้องสอบสวน ก่อนจะส่งศาลฝากขัง ซึ่งในช่วงที่นายต้อมเดินออกมา ทีมข่าวได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุเเละเเรงจูงใจในการก่อเหตุของนายต้อม เเต่ผู้ต้องหาปิดปากเงียบ ไม่พูดหรือตอบคำถามใด ๆ
จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 16.20 น. ตำรวจได้คุมตัวนายต้อม ออกจากหัองสอบสวน เพื่อนำตัวไปขึ้นรถเเละจะส่งฝากขังศาล โดยในช่วงหนึ่ง ผู้ต้องหาได้เดินผ่านหน้า กลุ่มเพื่อนของผู้เสียหาย ซึ่งมีเพื่อนผู้ชายสวมเสื้อสีดำของผู้แสียหาย จะเข้ามาหาผู้ต้องหาในลักษณะหาเรื่อง ก่อนจะมีผู้ชายตัวสูง ๆ สวมเสื้อสีแดงห้ามไว้ เเละบอกว่า “พี่กู ๆ” ก่อนผู้ต้องหา จะเปล่งเสียงเป็นครั้งเเรก เรียกชื่อ ชายเสื้อแดงว่า “ดำ ดำโทรบอกเเม่พี่ให้หน่อย” ก่อนตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ
หลังจากนั้น นางสาวนิด ผู้เสียหาย ได้เดินมาที่รถตำรวจ ก่อนจะสอบถามตำรวจ เพื่อที่จะขอพูดคุยกับผู้ต้องหา เเต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรีบนำตัวไปฝากขัง เพราะกลัวจะไม่ทันเวลา
ต่อมาชายเสื้อแดงที่ชื่อดำ ได้เดินมาสอบถามนางสาวนิดว่าคนนี้ใช่คนที่ใช้มีดจี้หรือไม่ ซึ่งนางสาวนิดเองก็ยืนยันว่าใช่ ก่อนนายดำจะบอกว่านายต้อมคือเพื่อนรุ่นพี่ของตน เพราะรู้จักกันในเรือนจำ ก่อนเพื่อนผู้เสียหายจะทะเลาะมีปากเสียงกัน ด้วยเรื่องที่ชายเสื้อแดงห้ามไม่ให้เพื่อนกระทืบผู้ต้องหา
นายดำ เพื่อนนายต้อม เผยว่า ตนเองรู้จักกับนายต้อมและเเม่นายต้อม โดยหลังจากนี้ตนจะติดต่อเเม่ของนายต้อมให้ตามที่เพื่อนรุ่นพี่สั่งไว้ ส่วนนิสัยใจคอของผู้ต้องหา เท่าที่ทราบเขาก็ไม่มีพิษมีภัยกับใคร แค่ครั้งนี้ไปจี้คนอื่นให้ตกใจกลัวทั้งที่ไม่รู้จักกัน