ย้อนรอย แหลมเกต ตำนานคดีเวาเชอร์ทิพย์ หลอกขายบุฟเฟต์ เทลูกค้างดบริการทุกโปรโมชัน ศาลพิพากษาโทษคุก 1,446 ปี ปรับ 3.6 ล้านบาท
"เวาเชอร์ทิพย์" ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง หลอกขายคูปองบุฟเฟต์แซลมอนให้ลูกค้าก่อนผู้บริหารตัวเงียบ ร้านไม่เปิดให้บริการ จนทำให้ลูกค้าต้องออกตัวไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี และกลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังมีรายงานว่า เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารดังกล่าวได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี2563 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องบริษัทแหลมเกตอินฟินิท จำกัด ในความผิดร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตามพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดคือ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท กับ น.ส.ประภัสสร ได้เปิดบริษัท แหลมเกตอินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net กับโปรแกรมแชทไลน์ Line:@laemgate ว่า จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุด ๆ ละ 880 บาท มี 10 ที่นั่ง ๆ ละ 88 บาท , “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท , “โปรแฟนพันธุ์แท้” ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆละ 100 บาท และโปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น
ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.62 ทางร้านอาหารแหลมเกต อินฟินิท ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์ และเฟซบุ๊ก ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชัน เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้น หลาม และเกินความคาดหมายทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ ทำเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประ มวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2,3 ทุกกระทง กระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาทรวมปรับ 3,615,000 บาท
การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณ หรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จกับฐานหลอกลวงผู้อื่น โดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนมีอัตราโทษเท่ากัน
ทั้งนี้จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2,3 คนละ 723 ปี แต่ เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2,3 คนละ 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2) จำเลยที่ ๑ คงปรับ 1,807,500 บาทหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทเเก่เจ้าของ