ญาติแตกตื่น แม่บุกชิงตัวลูกชายวัย 7 ขวบไปต่อหน้า หลังทิ้งตั้งแต่แบเบาะนาน 7 ปี อดีตผัววอน เอาลูกกลับมาคืน กลัวไปลำบาก
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอ รถยนต์กระบะ 4 ประตูสีดำมาจอดที่หน้าร้านค้าในหมู่บ้าน แล้วมีผู้หญิงใส่ชุดสีดำลงมาจากรถวิ่งเข้ามาอุ้มเด็กที่กำลังซื้อของอยู่ในร้านขึ้นรถไป โดยมีผู้หญิงใส่เสื้อสีแดงลงมายืนอยู่ข้างรถ แล้วรีบพากันขึ้นรถไป มีชาวบ้านที่นั่งอยู่หน้าร้านพยายามจะวิ่งไปช่วย แต่ไม่ทัน โดยใช้เวลาไม่ถึงนาที
พร้อมข้อความระบุว่า "ใครพอจะเห็นทะเบียนรถคันสีดำนี้บางไหมค่ะ มาอุ้มเอาน้องไป น้องชื่อน้องนุ น้องอยู่กับยายแมวตาทอด ไม่รู้ตอนนี้น้องจะเป็นยังไงบ้าง มาอุ้มเอาน้องไปแบบไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่ตอนนี้เป็นห่วงน้องมาก วอนทุกหน่วยงานช่วยตามหาน้องด้วยช่วยกันแชร์หน่อยนะค่ะ"
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้ได้เดินทางไปที่ร้านค้าที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่บ้านโนนยาง ม.9 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบพ่อและอาของเด็กนั่งอยู่ที่หน้าร้าน พร้อมกับญาติๆ และเพื่อนบ้านที่มานั่งพูดคุยให้กำลังใจกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยทางพ่อและทางอานั้นมีท่าทีที่เป็นห่วงลูกมาก จากการพูดคุยสอบถามพ่อนั้นทราบว่าได้เลิกลากับภรรยาคนนี้ไปตั้งแต่น้องคลอดได้ไม่กี่วัน และเป็นคนเลี้ยงลูกมาเอง และได้นำลูกมาให้น้องสาวช่วยเลี้ยงจนเด็กอายุ 7 ขวบ ก็ได้มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยตลอดเวลาทางภรรยาเก่าไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูลูก และลูกก็ไม่เคยเจอหน้าแม่ ไม่รู้ว่าแม่เป็นใคร รู้แค่ว่าแม่ชื่ออะไร เพราะทางอานั้นจะคอยบอกเด็กตลอดว่าแม่ชื่ออะไร เพื่อวันข้างหน้าเขาจะได้ไปทดแทนบุญคุณแม่ได้
นายพร เทวบาล อายุ 65 ปี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ภรรยาเก่าเขาได้ไปหาตนที่ อ.แปลงยาว เพื่อไปขอไปนอนกับลูก ตนจึงให้ที่อยู่ลูกไป เพื่อให้เขาไปนอนกับลูก เมื่อเขาไปหาลูก เขาไม่ได้มานอน เขาจะมาเอาลูกไป ทางน้องสาวตนผู้ที่เลี้ยงเด็กมา และเรียกเด็กเรียกน้องสาวตนว่าแม่ไม่ให้ เขาจึงกลับไป และเมื่อวานวันที่ 1 พ.ย. 67 อดีตภรรยาได้มาดักเฝ้าแล้วมาอุ้มลูกขึ้นรถไปภายในไม่ถึงนาที ชาวบ้านคิดว่ารถจับเด็ก ทางเราจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.วังตะเคียน ตอนนั้นตนอยู่ที่ อ.แปลงยาว เพราะตนทำงานอยู่ที่นั่น หลังจากได้ไปแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถโทรติดต่อกับรถคันนั้นได้ จึงทราบว่าเจ้าของรถคันนั้นยอมรับว่าได้มาเอาเด็กไป และมีแม่เด็ก
ตนกับแม่เด็กเลิกกันมา 7 ปีแล้ว ตั้งแต่เขาคลอดลูกมา 3-7 วัน เขาก็เข้ากรุงเทพฯเลย และเขาก็ไม่ได้ดูแลลูกเลย ลูกไม่เคยกินนมแม่เลย และเขาไม่เคยเจอลูกเลย 7 ปีมาแล้ว ตนเลี้ยงลูกและให้หลานช่วยเลี้ยงอยู่พักนึง ตนจึงได้ให้น้องสาวตนมาเลี้ยงเพราะตนอดหลับอดนอน ต้องเลี้ยงลูก จึงทำให้เป็นความดันสูง คนเราโตแล้วเขาน่าจะรู้อะไรควรทำไม่ควรทำ เมื่อก่อนเขามีนิสัยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงทำให้ต้องเลิกกัน ตนห่วงลูกในด้านสุขภาพ ถามว่าด้านกฏหมายตนมีสิทธิไหม ตนอยู่กับลูกมา 7 ปี ตนก็อยากได้ลูกกลับมาเลี้ยง
นางสมพิศ พันพม่า อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นอา กล่าวว่า ตนพาหลานมาซื้อขนมแล้วเขาก็ลงจากรถมาอุ้มหลานไป ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เราก็ไปแจ้งความ หลังจากไปแจ้งความแล้วมาดูกล้องวงจรปิดจึงทราบว่าเป็นแม่เขา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เขาจะมานอนกับลูก เราก็ไม่ว่า เราก็ให้มา แต่มาแล้วเขาจะมาเอาลูกไป เราจึงไม่ให้ ทางผู้ชายที่มากับแม่เด็ก เขาบอกตนว่า เขาให้เวลา 2 ทุ่ม ถ้าไม่เอาเด็กมาให้จะไปแจ้งความ และผู้หญิงที่เป็นภรรยาของเจ้านายเขาพูดว่า "ถ้าป้าไม่ให้หลานไปถ้าไผแจ้งความป้าไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหลานเลยนะ" ยังไงตนก็ให้ไม่ได้ เพราะตนเลี้ยงของตนมา เราก็รักของเรา เพราะเราไม่รู้ว่าไปแล้วหลานจะลำบากหรือสบาย
เมื่อวานเขามาเขาก็มาอุ้มเอาไปเลยวันที่ 13 ต.ค. ที่เขามาเจ้านายที่เป็นผู้หญิงเขาได้ถ่ายรูปหลานเอาไว้แล้ว เขาจึงรู้ว่าเป็นเด็กคนนี้จึงอุ้มไปไม่ผิดตัว วันที่น้องเจอแม่ครั้งแรกน้องเขาไม่รู้ว่าเป็นแม่ น้องเขามาบอกตนว่าใครมา เพราะเขาไม่รู้จัก เพราะแม่เขาไม่เคยมาดูแลไม่เคยมาไม่เคยส่งเสีย
จากการสอบถามนายจิตร เหล่าเลิศ อายุ 63 ปี กล่าวว่า เมื่อวานตนขายของอยู่ในบ้านกำลังทอนเงินให้ลูกค้า เห็นรถมาจอดแล้วก็ได้ยินเสียงร้องโอ๊ยคนจับเด็กไป ตนจึงได้วิ่งตามออกมา แต่เขาขึ้นรถไปแล้ว ชาวบ้านที่อยู่หน้าร้านเขาเห็นเหตุการณ์กันหมด ต่างคนต่างตกใจ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไวมากไม่ถึง 5 วินาทีก็ขึ้นรถแล้ว ตนคิดแต่ว่าเป็นพวกมาจับเด็ก คนขับรถจักรยานยนต์ตามไปก็ตามไม่ทัน ตนคิดว่าเหมือนมีการเตรียมการไว้แล้ว
ส่วนสาเหตุของทางแม่เด็กที่ทำให้ตัดสินใจทำแบบนี้ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ประสานทางแม่เด็ก เพื่อพูดคุยและนัดให้เข้ามาไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกต่อไป