อ.เบียร์ คนตื่นธรรม - แพรรี่ ไพรวัลย์ เปิดใจ ไม่ได้ส่งใครไปตบทนายธรรมราช เผย เอาความรู้กฎหมายไปช่วยชาวบ้านดีกว่ามาไล่ฟ้องคนอื่น
วันที่ 1 พ.ย.67 จากกรณี นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช เดินทางมาแถลงข่าวดำเนินคดี "อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม" ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา จู่ๆถูกชายปริศนา บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายกลางวงสัมภาษณ์ ด้วยการตบหน้า 1 ฉาด และล็อกคอ จนเกิดอาการคอเคล็ด และได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา โดย ทนายธรรมราช เชื่อว่า เรื่องนี้มีผู้บงการ จ้างวานให้ผู้ก่อเหตุมาทำร้ายตนอย่างแน่นอน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ และได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม หลังจบรายการโหนกระแส เปิดเผยว่า ไม่ได้ส่งใครไปทำร้ายทนายธรรมราช
ส่วนกรณีที่ถูกแจ้งความเอาผิดนั้น ประเด็นจริงๆ มันไม่ได้มีอะไร มันเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศเรา อยู่ในศาสนาเรา การวิพากษ์วิจารณ์ อาจารย์ไม่ได้มีเจตนาในการไปตำหนิหรือห้ามในการก่อการสร้าง แต่การก่อการสร้างต้องรู้จักพอดี พอประมาณต่อการก่อการสร้าง ไม่ใช่เรี่ยไรเข้ามาเพื่อสร้างวัตถุสถานที่อย่างเดียว แต่ไม่สร้างจิตใจคน ไม่สร้างพระธรรมพระวินัยเพื่อเข้าไปอยู่ในจิตใจของพระ หรือ ฆราวาส ญาติโยม
พอเวลาพระไม่มีคุณธรรมจริยธรรม ก็ไม่สามารถออกมาสอนคุณธรรมจริยธรรมต่อฆราวาส ญาติโยมได้ เพราะเวลาไม่มีการสอน พระพุทธเจ้าบอกว่าเมื่อไม่มีการศึกษาเล่าเรียนในคำของพระองค์ก็จะทำให้พระธรรมของพระองค์ค่อยๆเลือนหายไป เป็นเหตุของการเสื่อมแห่งศาสนา
"พระพุทธเจ้าบอกว่าเหตุเสื่อมของพระภิกษุ อันดับแรกเลยคือการก่อการสร้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่อาจารย์พูดล้วนแล้วแต่พูดตามหลักคำสอนของพระศาสดาทั้งสิ้น ไม่ได้มีเจตจำนงในการทำลายศาสนา แต่เพื่อรักษาไว้ ประคับประคองไว้เพื่อพระธรรมพระวินัย เขาเรียกว่าไม่ขาดสายในการศึกษาร่ำเรียนและปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระองค์"
ทางด้าน แพรรี่ ไพรวัลย์ กล่าวว่า ตนอยากให้ ทนายธรรมราช ใช้ความรู้ที่มีในการช่วยเหลือประชาชน ดีกว่าใช้อำนาจหน้าที่ของตนไปกล่าวโทษร้องทุกข์ไปเรื่อย อย่างอาจารย์เบียร์ ก็ไม่ได้ทำอะไร ส่วนตนก็ยอมรับว่าเคยถูกทนายคนดังกล่าวร้องทุกข์ แต่ไม่ได้ร้องทุกข์ตนโดยตรง
ทั้งนี้ตนก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำความรุนแรงที่อุกอาจ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหา อยากให้ทนายธรรมราชได้รับบทเรียน ที่ควรได้รับตามกฎหมายจะดีกว่า ที่ไปฟ้องร้องกล่าวโทษคนอื่นโดยไม่ได้เข้าข่ายความผิด